ประมาณ 12.00 น. พวกเรามาถึงสนามบินสุราษฯ คนขับจอดส่งพวกเราที่ลานจอดรถและสั่งให้ทุกคนเอากระเป๋าลงให้หมด จากนั้น คนขับก็บอกว่า ให้รอทหารมาช่วยอยู่ที่นี่ แล้วก็ขับรถออกไป พวกเราทั้งหมดโดนทิ้งโดยสิ้นเชิงแล้ว...
พวกเรา 4 คน (เรา นายเสือ และน้องผู้ชายอีก 2คนที่นั่งแถวหลังมาด้วยกัน) ได้แต่มองหน้ากัน แล้วก็ชวนกันเดินเข้าไปในอาคารสนามบิน กะว่าจะไปเข้าห้องน้ำและหาอะไรใส่ท้อง เพราะหิวกันมากๆ แต่พอเดินผ่านประตูอาคารเข้าไป เราก็ต้องตกใจกับภาพตรงหน้า....มีคนนั่งและนอนอยู่ตามพื้นอาคารสนามบินอยู่เป็นร้อยคน คนกลุ่มนี้รอให้ทหารมาช่วย นายเสือเดินเข้าไปถาม บางคนก็บอกว่านอนค้างอยู่ที่สนามบินมา 1 คืนแล้ว รถทหารยังไม่มาเลย พวกเราเริ่มใจเสีย จะทำอย่างไร ถ้าทหารไม่มาวันนี้ พวกเราคงต้องนอนกันที่นี่ยังงั้นเหรอ???
พวกเรา 4 คน ผลัดกันไปกินข้าวเพราะจะต้องมีคนอยู่เฝ้ากระเป๋า เราจึงให้น้องผู้ชาย 2 คนไปกินก่อน และเรากับนายเสือค่อยไปด้วยกัน ตอนไปซื้อข้าวก็ต้องอึ้งอีกรอบ ข้าวราดแกง 2 อย่าง 80 บาท ชาเขียวซึ่งปกติขวดละ 20 ที่นี่ขาย 35 บาท รวมมื้อนั้น 115 บาท แพงจริงๆ แต่ด้วยความหิวจึงเลือกไม่ได้ มีขายอยู่ร้านเดียวด้วย ตอนที่เราไปกินข้าวกับนายเสือ นายเสือก็ถามว่าเราเป็นคนที่ไหนทำไมถึงไปกระบี่ ฯลฯ เราก็ไม่ค่อยอยากจะบอกเรื่องส่วนตัวเท่าไรเพราะยังกลัวๆ เค้าอยู่ จึงตอบไปเท่าที่จะตอบได้ นายเสือก็ยิ้มๆ เพราะคงจะรู้ว่าเรากลัว จึงเลิกถาม แต่ก็เล่าเรื่องของตัวเองให้เราฟังหมดเลย แม้กระทั่งว่ามีพี่น้องกี่คน เป็นคนเกาะลันตา เรียนจบที่ไหน และมาเป็นอาจารย์อยู่ที่มหาลัยที่เดียวกันนี่เลยหลังจากเรียนจบ เหตุที่จะต้องไปกระบี่เพราะแวะบ้านก่อนที่จะต้องไปตรังเพื่อไปสอบปริญญาโทวันที่ 3 เมษายน และเป็นวันสอบวันสุดท้ายแล้ว ถ้าไม่ไปสอบก็ต้องรอสอบอีกทีปีหน้า นายเสือดูจะกังวลเรื่องนี้มากๆ เราเลยปลอบใจไปว่า ต้องหาทางไปให้ได้แหละเนอะ คงไม่มีอะไรเลวร้ายหรอก
พอกินข้าวเสร็จ นายเสือก็พาเราเดินไปที่โต๊ะ information เพื่อจะถามเรื่องรถทหาร พนักงานเค้าจึงบอกให้พวกเราลงชื่อไว้ว่าเป็นลูกค้ารถทัวร์ จะได้จัดคิวเพื่อให้ได้ขึ้นรถทหารต่อไป นายเสือกำลังลงชื่อคนแรก เราจึงยืนต่อเป็นคนที่ 2 อยู่ๆ ก็มีผู้ชายคนนึงทำท่าจะแซงเราเพื่อลงชื่อ เราก็มองๆ หน้าเค้า แต่ก็ไม่พูดอะไร พอนายเสือลงชื่อเสร็จ พนักงานซึ่งมองไม่เห็นเรา (เราค่อนข้างเตี้ยน่ะค่ะ แหะๆ) ก็หันไปบอกให้ผู้ชายคนนั้นลงชื่อต่อ ซึ่งผู้ชายคนนั้นก็พูดออกมาว่า ให้น้องผู้หญิงเค้าก่อนเถอะครับ เค้าเป็นแฟนกัน เห็นมาด้วยกัน เราแกล้งทำเป็นไม่ได้ยิน แต่แอบเหลือบไปมองหน้านายเสือ เห็นนายเสือทำหน้าแดงแปร๊ด แล้วก็แอบขำ คนอะไรหน้าโหดขนาดนี้ อายเป็นด้วยแฮะ 555
พอลงชื่อกันเสร็จ พวกเรา 4 คนก็พากันออกมานั่งรอรถทหารด้านนอกอาคาร เนื่องจากมีปลั๊กให้เสียบชาทแบทมือถือได้ด้วย ระหว่างนี้เราก็พยายามโทรหาแม่ สัญญาณก็มีเป็นพักๆ แต่แม่รู้แล้วว่าเราโดนทิ้งอยู่ที่สนามบินสุราษฯ แต่ก็ไม่มีใครจะมารับเราได้ เนื่องจากจุดที่เราอยู่นั้นกลายเป็นเกาะไปแล้ว ถนนรอบๆ น้ำท่วมหมด จึงไปต่อไม่ได้ และกลับทางเดิมก็ไม่ได้แล้ว...
เวลา 14.00 น. สนามบินประกาศว่ารถทหารจะมาภายในอีก 1 ชั่วโมงให้ผู้โดยสารทุกคนเตรียมตัวให้พร้อม โดยจะให้ผู้โดยสารของสนามบินไปให้หมดก่อน ผู้โดยสารรถทัวร์จึงจะไปได้ พวกเรา 4 คน หันมามองหน้ากันว่าจะทำยังไงดี คืนนี้สงสัยจะได้ค้างที่นี่แน่แล้ว...อยู่ๆ เราก็เห็นคนกลุ่มนึงลุกฮือขึ้นและพยายามถ่ายรูปอะไรบางอย่าง พวกเรา 4 คนจึงชะโงกดูกันว่าเค้าถ่ายรูปอะไรกัน ปรากฎว่าเป็น ซี ศิวัฒน์ เอมมี่กลิ่นปทุม และนิว วงศ์สกร (เขียนชื่อถูกหรือเปล่าก็ไม่รู้ แหะๆ) มาติดอยู่ที่สนามบินเหมือนกัน ได้ยินคนพูดว่าดารามาแจกถุงยังชีพให้ชาวบ้าน แต่ก็ต้องมาติดอยู่ที่นี่ ไปไหนไม่ได้ ก็สร้างความบันเทิงให้คนในสนามบินได้เล็กน้อย...
แม่โทรมาหาเราด้วยความพยายามเป็นร้อยหน เพราะไม่มีสัญญาณเลย แม่บอกว่ากระบี่ฝนตกหนักมาก แต่น้ำไม่ท่วม ยังไงรถทหารมารับไปไหนต่อให้โทรบอกแม่ด้วย
เวลา 15.00 น. ฝนเริ่มโปรยปราย รถบรรทุกทหาร (เคยได้ยินช่อง 3 พูดชื่อตัวย่อเป็นภาษาอังกฤษแต่จำไม่ได้อ่ะค่ะ) เข้ามาประมาณ 5 คัน แต่คนรออยู่เป็นร้อยคน ไปรอบนี้ไม่หมดแน่นอน แล้วเรา 4 คนจะทำยังไงกันดี เสียงสนามบินประกาศอีกรอบว่าให้ผู้โดยสารของสนามบินไปก่อน ผู้โดยสารรถทัวร์ต้องรอรอบสุดท้าย ฝนเริ่มตกหนักขึ้น นายเสือหันมาบอกให้พวกเราเตรียมถือกระเป๋าไว้แล้วเดินไปรวมกลุ่มกับคนอื่นๆ ซึ่งสังเกตดูแล้ว ไม่สามารถแยกได้เลยว่าใครลูกค้าสนามบิน หรือมารถทัวร์เพราะทหารเค้าไม่ได้ขอดูเอกสารอะไรเลย ตอนนั้นคนเริ่มแย่งกันขึ้นจนรถเต็มไปแล้ว 3 คัน เหลืออีก 2 คัน คนเริ่มทยอยไปขึ้น นายเสือหันมาบอกพวกเราว่าขึ้นไปกันเลยไหม เพราะดูจากคนที่ต่อคิวอยู่แล้วน่าจะพอถึงพวกเราได้
เรา 4 คนจึงเดินไปที่รถทหารคันสุดท้าย กำลังตั้งท่าจะขึ้นรถ อยู่ๆ ก็มีทหารคนนึงตะโกนใส่พวกเราว่า ลูกค้าสนามบินหรือเปล่า ให้ลูกค้าสนามบินไปก่อนนะ ลูกค้ารถทัวร์รอทีหลัง พวกเราจึงอึ้งๆ กันไป แล้วก็มีพี่ทหารอีกคนนึงเดินมาทางพวกเราและกระซิบว่า ไปเถอะๆ มารถทัวร์ก็ขึ้นไปเถอะ พวกผมมาช่วยทุกคน ไม่ได้แยกแยะว่าใครเป็นลูกค้าใครหรอก ขึ้นเลยครับๆ เราซึ้งจนน้ำตาแทบไหลเลยค่ะ รถบรรทุกทหารสูงมาก เราซึ่งตัวเตี้ยมาก กระเป๋าก็ใบใหญ่ ปีนขึ้นเองไม่ไหว ได้แต่หันไปหันมา นายเสือคงหันมาเห็นเข้า จึงช่วยกันดันเราขึ้นไป (น้องผู้ชายที่มาด้วยกัน 2 คนก็ช่วยดันด้วย) เราจึงได้ขึ้นก่อน ตอนนั้นรถเริ่มจะเต็มแล้ว เราก็พยายามชิดในให้มากที่สุดเพื่อที่เพื่อนใหม่ของเราอีก 3 คนจะได้ขึ้นมาด้วย นายเสือปีนขึ้นมาได้แค่คนเดียว....พอน้องผู้ชาย 2 คนนั้นจะขึ้นมา ทหารเค้าก็ไม่ให้ขึ้นแล้ว เนื่องจากยังมีกระเป๋าของผู้โดยสารที่ขึ้นมาแล้ว ยังไม่ได้เอาขึ้นมา ดังนั้นคนที่ขึ้นได้คนสุดท้ายก็คือนายเสือ....
เราจึงหันไปบอกพี่ทหารว่า พี่คะขออีก 2 คนไม่ได้เหรอ พี่ทหารบอกว่า ไม่ได้แล้ว ถ้าขึ้นไปเยอะกว่านี้จะอันตราย น้ำข้างนอกเชี่ยวมาก ยังไงรอรอบหลังนะ เด๋วจะมีรถทหารมาช่วยอีก เราจึงหันไปมองหน้าน้อง 2 คนที่ยังอยู่ข้างล่าง น้องคนนึงพูดว่า ไม่เป็นไรครับพี่ พี่เป็นผู้หญิง พี่ควรต้องไปก่อน ส่วนพี่เสือเค้าต้องไปสอบปริญญาโทพรุ่งนี้ ผม 2 คน ยังไม่รีบครับ เด๋วรอรอบหลังก็ได้ครับ เราได้แต่อึ้งไป อยากร้องไห้มาก เพราะเมื่อกี้เรา 4 คนเพิ่งตกลงกันว่า จะไม่ทิ้งกัน ถ้ารถทหารมา ยังไงเราก็จะไปพร้อมกัน แล้วรถทหารรอบต่อไป จะเข้ามาช่วยตอนไหนก็ไม่รู้ น้อง 2 คนนั้นโบกมือให้เรา แล้วบอกว่าจะกลับเข้าไปรอในอาคารเพราะฝนเริ่มตกหนักแล้ว เรากับนายเสือก็ได้แต่เงียบ พูดอะไรไม่ออก...ตอนนั้นรถทหารทุกคันแน่นจนเป็นปลากระป๋อง...
15.30 น. รถทหารเริ่มออกจากสนามบิน ออกมาได้ประมาณ 20 นาที ก็ถึงจุดน้ำท่วมหนัก น้ำสูงมากจนมองไม่เห็นถนน รถทหารขับด้วยความเร็ว 10 กิโลเมตรต่อชั่วโมงเพราะไม่สามารถไปเร็วกว่านี้ได้เพราะน้ำเชี่ยวมาก รถบรรทุกที่เรานั่งมาสั่นเป็นระยะๆ เพราะต้องวิ่งทวนน้ำที่ซัดมา เราได้แต่ภาวนาในใจว่า รถอย่าคว่ำนะ ถ้าคว่ำตายกันหมดแน่ๆ อีกอย่าง เราว่ายน้ำไม่เป็นด้วย คงตายสถานเดียว มองออกไปรอบๆ ไม่สามารถบอกได้ว่าถึงที่ไหนแล้ว เพราะเห็นแต่หลังคาบ้าน รถยนต์น้ำก็ท่วมจนมิดหลังคา เห็นรถบรรทุกขนของตกอยู่ขอบถนนหลายคัน ไปต่อไม่ได้ ต้นมะพร้าวแถวนั้นน้ำสูงเกินครึ่งต้น มองไปทางไหนก็เวิ้งว้าง เห็นแต่น้ำสีโคลน...
**แก้ไขจัดหน้าให้อ่านง่ายขึ้นค่ะ**
แก้ไขเมื่อ 08 เม.ย. 54 19:32:16
แก้ไขเมื่อ 08 เม.ย. 54 16:38:03
จากคุณ |
:
ปริศนาอักษรไขว้
|
เขียนเมื่อ |
:
8 เม.ย. 54 16:21:47
|
|
|
|