ความคิดเห็นที่ 1 ทริปนี้เดินทางกันเมื่อวันที่ 17-21 กพ 2011 ค่ะ  (เค้ารู้หมดเลยว่า ขยัน  )   เริ่มแรกที่จองข้ามปีได้ตั๋ว 2 คนแม่ลูก แบบไม่โหลดกระเป๋า ไม่ซื้อบริการใด ๆ เลย ได้ราคาน่ารัก ๆ มาคนละ 314 บาท   แต่ก็นะ มันต้องรอข้ามปีนี่คะ    3 เดือนก่อนเดินทาง คุณพ่อ กะคุณป้า ชักสนใจบ้าง รอโปรไปรอโปรมา ได้ตั๋วราคาโหดร้ายมาคนละ 4,187 บาท แบบไม่โหลดกระเป๋า ไม่ซื้อบริการใด ๆ เลยเหมือนกัน เอิ๊ก . . . สบายไป    ตอนมีโปรให้จองพร้อมกันไม่จอง เล่นตัว ฮิฮิ     เช้าวันที่ 17 เราบินตั้งเกือบเที่ยงแน่ะ ก็เลยไม่ต้องรีบกันมาก ตื่นเวลาเดียวกับมาทำงาน ขับรถมาจอดสนามบินสบาย ๆ   ลงไปตุนมื้อเช้ากันที่เมจิก ฟูดเซนเตอร์ ชั้น 1 ประตู 8 กันก่อนเลย   แอบมีคนดื้อไม่ยอมทาน ขนาดบอกว่า เครื่องออกตอน 11 โมงกว่า บินข้ามเที่ยง ไปถึงนู่นจะหิวนะ  ก็ไม่ยอมทาน  สงสัยตื่นเต้น   พอเข้าไปรอก่อนเข้าเกท จะเอ๋ ไฟล์ทดีเลย์ 20 นาทีค่ะ  หลัง ๆ นี่รู้สึกจะเจอดีเลย์ 10-20 นาที ทุกครั้งเลย ทีนี้ปัญหาอยู่ที่คนดื้อสิคะ  เรา 3 คนซัดกันมาอิ่มแล้ว  เหลืออยู่คนเดียว ทนไม่ได้ เดินไปหาของทาน เจอราคารับไม่ได้อีก  5555  สุดท้ายได้ที่พึ่งเป็นสลัดโครงการหลวงนี่ล่ะค่ะ  ราคามิตรภาพหน่อย  ได้ทานรองท้องนิดนึงก็ยังดี   อิอิ นินทา ๆ ๆ จากคุณ : @}-- เยอบีร่า -- เขียนเมื่อ : 5 เม.ย. 54 13:39:58

ความคิดเห็นที่ 2 ตามไปเที่ยวด้วยคนครับ จากคุณ : เล็กทาโร่ เขียนเมื่อ : 5 เม.ย. 54 13:41:09

ความคิดเห็นที่ 3 ไปเที่ยวด้วยนะคะ จากคุณ : armearn เขียนเมื่อ : 5 เม.ย. 54 13:43:17

ความคิดเห็นที่ 4 เราลงเครื่องมาก็เกือบบ่าย 2 เดินมาขึ้นรถสองแถวตามระเบียบ  อุตส่าห์เนียน ๆ ขึ้นรถเลย ไม่ถามราคา เพราะรู้อยู่แล้วว่า คนละ 20 บาท   มีนักท่องเที่ยวอีก 4-5 คนมาทีหลัง ถามคนขับว่าไปลงกิมหยงคนละเท่าไหร่  เข้าทางคนขับจนได้ เค้าบอกว่า คนละ 30   เราก็ไม่ได้ว่าอะไร  พอรถเลี้ยวเห็นธนาคารกสิกร ก็กดลง ไปกัน 4 คน ยื่นแบงค์ 100 ไป ทำหน้าเฉย ๆ คนขับยังกล้าเรียกเพิ่มอีก 20 ด้วยอ่ะ  ส่วนอีก 4-5 ที่ลงตามมาด้วยก็จ่ายคนละ 30 แหละค่ะ  เรารีบกันด้วยแหละ ขี้เกียจเถียง เลยต้องให้ไปอีก 20 บาท เจ็บใจ สาเหตุที่รีบก็เพราะจากเดิมทัวร์นัดเวลา 4 โมงเย็น หน้าออฟฟิศทัวร์ค่ะ แล้วอยู่ ๆ วันเดินทางมาแจ้งว่า บ่าย 3 ทันมั๊ย  ไอ้เราดูเวลาก็ว่าน่าจะทัน  พอเครื่องดีเลย์ ทีนี้ทุกอย่างเลยรีบกันไปหมด       จากที่ลงสองกก็ข้ามถนนมากิมหยงโบกตุ๊ก ๆ ไปบริษัททัวร์ซึ่งอยู่สาย 1 เลยลีการ์เด้นเก่าไปนิดนึง  ตุ๊ก ๆ ก็วิ่งตรงอย่างเดียว น้อง ๆ ไกด์มายืนคอยโบกให้อยู่แล้ว  ค่าตุ๊ก ๆ  คนละ 20 บาท   นาทีนั้นรีบอย่างเดียวค่ะ รถทัวร์จอดรออยู่แล้ว  ขึ้นไปเลย  เค้าจะไปสมทบกับรถทัวร์อีกคันนึงที่จอดรออยู่ที่ปั๊มพร้อมสมาชิกกลุ่มใหญ่    ไกด์บอกว่า วันนี้ออกทัวร์ 4 บัส มีโปรแกรมเดียวกับเรา 2 บัส  และเรา 4 คนไปรวมกับคณะคุณครูจากกระบี่อีก 39 ท่าน เต็มบัสพอดี    เอ่อ . . . ไม่เคยเจอทัวร์จัดแบบนี้  ปกติมีกรุ๊ปใหญ่อย่างงี้อยู่แล้ว ไม่น่าเปิดจอย  อีกอย่างถ้าเราเป็นคณะคุณครูคงอยากให้เป็นไพรเวทกรุ๊ปมากกว่า  อึ้งไปนิดนึงค่ะ   ตอนเดินทางวุ่น ๆ น่ะค่ะ ขออนุญาตใส่รูปล้ำหน้าไปก่อนนะคะ   . . .  อันนี้ลูกทัวร์ส่วนตัวของเรา  ^^ จากคุณ : @}-- เยอบีร่า -- เขียนเมื่อ : 5 เม.ย. 54 13:43:35

ความคิดเห็นที่ 5 ขอไปด้วยคนนะครับ จากคุณ : inint&anant เขียนเมื่อ : 5 เม.ย. 54 13:46:12

ความคิดเห็นที่ 6 คุณ : เล็กทาโร่ = มาไวตามเคย อิอิ คุณ : armearn = ไปด้วยกันค่า   รถทัวร์เป็นรถมาจากมาเลเซียค่ะ  มีไกด์มาเลย์ 1 คน และคนขับมาเลย์อีก 2 คน ผลัดกันขับ  เพื่อความปลอดภัย  รถออกจากหาดใหญ่ 4 โมงเย็น ไปด่านสะเดาเข้าด่านจังโหลนของมาเลย์  ทำเรื่อง 2 ด่านนี้ใช้เวลาตรงนี้ชั่วโมงกว่า ๆ  พร้อมกันหมดทุกคนแล้วจึง ออกเดินทางมาประมาณเกือบครึ่งชั่วโมง ไกด์แวะให้ทานข้าว และแลกตังค์กันค่ะ  ทริปนี้เราต้องแลกทั้งเงินมาเลย์และเงินสิงคโปร์  พวกเราแลกมาจากสนามบินแล้ว  แม้จะรู้ว่าเรตไม่ดี  แต่คิดว่าไปแลกที่หาดใหญ่คงไม่ทัน  เลยแลกมาเสร็จเรียบร้อยเพื่อความสะดวก   มาเจอที่นี่เรตดีกว่าค่ะ  ใครจะมากับทัวร์แบบนี้  รอมาแลกที่นี่ก็ได้นะคะ     เดินทางกันต่อ มุ่งหน้าไปยังเมืองอลอสตาร์ Alor Star เมืองหลวงของรัฐเคดาห์ Kedah มาเลเซียค่ะ  เคดาห์ในสมัยโบราณคือเมืองไทรบุรีนั่นเองค่ะ  มีชื่ออาหรับว่า ดารุลอะมาน หมายถึง ถิ่นที่อยู่แห่งสันติภาพ เมืองอลอสตาร์เป็นเมืองเก่าแก่อายุประมาณ 240 ปี    ชื่อ Alor Star มาจาก  Alor หมายถึง สายน้ำเล็ก ๆ  และ Setar แปลว่า มะปราง รวมกันยังไงล่ะเนี่ย . . .   นอกจากนี้เมืองนี้ยังเป็นบ้านเกิดของท่านมหาเธร์ อดีตนายกฯของมาเลเซียด้วยค่ะ หอคอย Menara Alor Star อลอสตาร์ ทาวเวอร์นี้มีความสูง 170 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล จากคุณ : @}-- เยอบีร่า -- เขียนเมื่อ : 5 เม.ย. 54 13:46:23

ความคิดเห็นที่ 7 คุณ : inint&anant = ไปเที่ยวกันค่า ^^ ตำหนักของ ร.5  หรือชื่อทางมาเลย์เรียกว่า Balai Besar โครงสร้างเดิมสร้างเมื่อปี 1735 โดย Sultan Muhammad Jiwa Zainal Abidin Muazzam Syah (1710-1787) ถูกทำลายและสร้างใหม่ 2 ครั้ง  และปรับปรุงใหม่ทั้งหมดในปี 1893 ในสมัยของ Sultan Abdul Hamid Halim Shah ในปี 1904 ยังเคยใช้เป็นสถานที่จัดพิธีสมรสให้กับลูก ๆ ของสุลต่าน และยังเคยใช้ในพิธีแต่งตั้งสุลต่าน Sultan Ahmad Tajuddin Halim Shah II (1804-1845) และ Tuanku Sultan Haji Abdul Halim Mu'adzam Shah on 20 February 1959. จากคุณ : @}-- เยอบีร่า -- เขียนเมื่อ : 5 เม.ย. 54 13:48:14

ความคิดเห็นที่ 8 ตามไปเที่ยวด้วยคนจ้า จากคุณ : ตระเวนเที่ยว เขียนเมื่อ : 5 เม.ย. 54 13:48:27

ความคิดเห็นที่ 9 ย้อนกลับมาเล่านิดนึง  โชคดีมากที่บริษัททัวร์ที่คุณKugar แนะนำ เค้ามีจัดโปรแกรมไปคาเมร่อนช่วงที่เราจะไป แต่โปรแกรมเป็น สิงคโปร์ มะละกา คาเมร่อน ค่ะ  อ่านโปรแกรมแล้ว เอิ่มม. . . ซ้ำกะที่เคยไปเกือบหมดแล้วนะเนี่ย  แต่ก็ไป   งานนี้คุณพ่อคุ้มที่สุด  ไปทริปนี้ทริปเดียว เท่ากับเราไปมา 4-5 ทริปแน่ะ จากคุณ : @}-- เยอบีร่า -- เขียนเมื่อ : 5 เม.ย. 54 13:51:01

ความคิดเห็นที่ 10 คุณ : ตระเวนเที่ยว = ขึ้นรถค่า ลูกทัวร์ขึ้นรถด่วน ๆ เราใช้บริการหาดใหญ่เจอร์นี่ทัวร์ค่ะ  ค่าทัวร์หน้าเว็บบอก 3,990 บาทต่อคน อันนี้คือรวมที่พัก และอาหารบางมื้อนะคะ แต่ถ้านอนห้องละ 2 คน คิดเพิ่มอีกคนละ 500     นี่แหละน๊า โฆษณา  ราคาของเรา 4 คนจึงเป็นคนละ 4,490 บาทค่ะ  ก็ยังคุ้มอ่ะค่ะ   อิอิ     ใช้บริการทัวร์แบบนี้ มีปัญหานิด ๆ หน่อย ๆ เหมือนกันนะคะ แต่ก็จัดการกันได้ในที่สุด  ก็ไม่ถือสาอะไรค่ะ เรื่องเล็กน้อย  ^^     อีกมุม จากคุณ : @}-- เยอบีร่า -- เขียนเมื่อ : 5 เม.ย. 54 13:53:34

ความคิดเห็นที่ 11 เสียดายที่มาถึงก็ค่ำแล้ว  ปกติถ่ายรูปกลางวันก็แย่แล้ว  รูปกลางคืนยิ่งแย่เข้าไปใหญ่ค่ะ  ปรับอะไรแตกหมดเลย   - -" จากคุณ : @}-- เยอบีร่า -- เขียนเมื่อ : 5 เม.ย. 54 13:54:49

ความคิดเห็นที่ 12 ตามชมด้วยคนนะครับ เผื่อจะตามรอยบ้าง จากคุณ : chartchy เขียนเมื่อ : 5 เม.ย. 54 13:54:51

ความคิดเห็นที่ 13 คุณ : chartchy =  ลองดูนะคะ โปรแกรมนี้เห็นหน้าเว็บทัวร์เค้ายังมีขายอยู่เลย รถจะจอดแวะเป็นระยะ ๆ ไม่ต้องกลัวเรื่องเข้าห้องน้ำ  ถนนซุปเปอร์ไฮเวย์ของมาเลย์เค้าดีมาก ๆ เลยค่ะ มีศูนย์อาหารใหญ่โต ห้องน้ำสะอาด ที่จอดรถกว้างขวาง ไม่น่ากลัวไว้เป็นระยะ ๆ  แถมแยกด้วยว่า รถเก๋งจอดตรงไหน รถบัสจอดตรงไหน  ซึ่งระหว่างทางแม้จะมีด่านเก็บค่าผ่านทางถี่มาก  แต่ก็คุ้มค่าที่มีจุดพักรถแบบนี้ถี่เหมือนกันค่ะ รถแวะเติมน้ำมัน เลยแอบดูราคามา  โอ้ น้ำมันลิตรละ 18 บาท ยังมีอีกหรือ  ตัวเลขนี้ไม่เคยได้เห็นในไทยมาตั้งกี่ปีแล้วเนี่ย  อิจฉาาาา จากคุณ : @}-- เยอบีร่า -- เขียนเมื่อ : 5 เม.ย. 54 14:01:58

ความคิดเห็นที่ 14 ตอนเช้า รถจอดที่มะจ๊าบ (เรียกตามไกด์นะคะ)  ให้ลงไปล้างหน้าล้างตา เตรียมตัวไปเที่ยวกันค่ะ  เรียกว่า จุดนี้เป็นศูนย์รวมทัวร์เลยก็ว่าได้  ทุกคันมาแวะตรงนี้หมด แต่ไม่ต้องกลัวค่ะ ห้องน้ำเยอะ สะอาดมาก ๆ ด้วย ลูกทัวร์ไทยเช้า ๆ อย่างงี้  ผลัดผ้าถุง ผ้าขาวม้า อาบน้ำอาบท่ากันเป็นแถว  พวกเรา 4 คนนี่ซักแห้ง    ไม่ได้เตรียมตัวมาสำหรับการณ์นี้เลยค่ะ   คิดว่า แค่ให้ล้างหน้าล้างตา แปรงฟัน ไรงี้ก็พอ  เน่ากันอยู่ครอบครัวเดียวเลย   จากคุณ : @}-- เยอบีร่า -- เขียนเมื่อ : 5 เม.ย. 54 14:05:30

ความคิดเห็นที่ 15 ทัวร์แจกอาหารเช้า  เป็นขนมปังไส้ต่าง ๆ  นมกล่อง ไรพวกนี้นะคะ  ตามโปรแกรมเรียกน่ารัก ๆ ว่า อาหารเช้าแบบปิคนิก    ถ้าใครหิวมากกว่านั้น  ทานที่จุดมะจ๊าบตะกี้เลยก็ได้ค่ะ มีร้านค้าเปิดขายกันอยู่  เราได้น้ำเต้าหู้มาอีกกระป๋องนึงค่ะ  หรือใครติดพวกโค้ก เป๊ปซี่ จะซื้อจากฝั่งมาเลย์ก็จะถูกกว่าทางสิงคโปร์นิดหน่อย   จากคุณ : @}-- เยอบีร่า -- เขียนเมื่อ : 5 เม.ย. 54 14:07:20

ความคิดเห็นที่ 16 เช้านี้เราจะข้ามจากมาเลย์ ไปเที่ยวสิงคโปร์กันค่ะ  ไกด์แจ้งว่า จะพาเข้าไปเก็บสัมภาระที่โรงแรมก่อน  ตัดปัญหาเรื่องเข้าด่านสิงคโปร์ด้วย  และก็สะดวกพวกเราด้วย ไม่ต้องยกขึ้นยกลงหลายรอบ  คืนนี้เราจะกลับมาพักที่นี่ Tropical Inn JB  ทางโรงแรมเปิดห้องประชุมให้พวกเราเอาสัมภาระเข้าไปเก็บค่ะ  ข้าวของรวม ๆ กันแบบนี้ อย่าลืมแยกของมีค่าออกมาพกติดตัวไว้นะคะ   ถ่ายผ่านกระจกรถค่ะ จากคุณ : @}-- เยอบีร่า -- เขียนเมื่อ : 5 เม.ย. 54 14:08:26

ความคิดเห็นที่ 17 ตามไปเที่ยวด้วยคนค่ะ แค่รูปเปิดก็น่าสนใจมากๆแล้ว มีสตอเบอรี่ด้วย จากคุณ : คนช่างฝัน สาวข้างบ้าน เขียนเมื่อ : 5 เม.ย. 54 14:08:42

ความคิดเห็นที่ 18  ตามไป กินสตรอเบอรี่ ด้วย ล่ะ จากคุณ : แม่จีน-ไท (GT2007) เขียนเมื่อ : 5 เม.ย. 54 14:08:50

ความคิดเห็นที่ 19 จากนั้นก็ได้เวลาออกจากมาเลย์ข้ามไปเที่ยวสิงคโปร์กันแล้ว  ตื่นเต้น ๆ ได้ข้ามสะพานระหว่างประเทศ  อิอิ      พอลงสะพานก็ไปด่านตม สิงคโปร์แสนโหดค่ะ  พวกสิ่งของมีคม บุหรี่ หมากฝรั่ง ห้ามพกมา แม้กระทั่งกรรไกรตัดเล็บก็ห้ามนะ  ดังนั้นเก็บใส่กระเป๋าที่ฝากไว้กับโรงแรมก่อนนะคะ จากคุณ : @}-- เยอบีร่า -- เขียนเมื่อ : 5 เม.ย. 54 14:08:55

ความคิดเห็นที่ 20 ตามไปเที่ยวด้วยคนครับ จากคุณ : ม่วงมหากาฬ เขียนเมื่อ : 5 เม.ย. 54 14:09:03

ความคิดเห็นที่ 21 ตามมุงด้วยคนครับ จากคุณ : Hero11147 เขียนเมื่อ : 5 เม.ย. 54 14:09:57

ความคิดเห็นที่ 22 cameron highland สวยเชียวครับ เขียววววมากกกกกก จากคุณ : One Light One Shadow เขียนเมื่อ : 5 เม.ย. 54 14:11:00

ความคิดเห็นที่ 23 คุณ : คนช่างฝัน สาวข้างบ้าน =  สตรอเบอรี่เต็ม ๆ ต้องตอน 2 นะคะ ตอน 1 นี่คาดว่าไปไม่ถึง  ^^ คุณ : แม่จีน-ไท (GT2007) = กำลังจะไปตามพอดีค่ะซ้อ   กว่านู่นนี่นั่นจะเสร็จ เข้าเมืองสิงคโปร์กันก็ 11 โมงกว่าแล้วค่ะ ไกด์แจ้งปรับโปรแกรมนิดหน่อย เพราะตอนบ่ายโมงคณะครูเค้ามีไปดูงานที่โรงเรียนแห่งหนึ่งด้วย   อันนี้ทำให้ครอบครัวเรา งง กันไปเลยค่ะ  เอ่อ เราซื้อโปรแกรมนี้ด้วยหรอฟะ       มื้อเที่ยงพอดี ไกด์เลยแวะที่ DFS  ดิ้วตี้ ฟรี อะไรสักอย่างน่ะค่ะ  แปลกใจนิดนึง  ทำไมมันมาอยู่ในหลืบ  แทนที่จะอยู่ในย่านช๊อปปิ้ง   ติด ๆ กันเป็นคอนโดที่พักอาศัยทั้งนั้นเลย  ใต้คอนโดมีฟูดเซนเตอร์ ราคาประหยัดตามสไตล์พี่สิงเค้าล่ะ  มื้อเที่ยงนี้กระเป๋าใครกระเป๋ามันค่ะ  มีอาหารหลากหลายอย่าง ราคาตั้งแต่ 2 – 5 เหรียญ ไม่แพง ๆ อร่อยด้วยค่ะ  แต่พอดีเราอยู่ในอารมณ์ครุ่นคิด เลยไม่มีกะจิตกะใจถ่ายรูป  เพราะอย่างที่บอกว่า ทานเสร็จแล้ว  ทัวร์เค้าจะพาคณะครูไปดูงานที่โรงเรียนแห่งหนึ่งก่อน    เราจึงขอแยกกับไกด์ค่ะ   ขอเที่ยวกันเอง แล้วไปเจอกันอีกทีที่หน้าลูกโลก ยูนิเวอร์แซลตอน 2 ทุ่มละกัน   โชคดีที่เดินออกมาก็มีป้ายรถเมล์อยู่ อิ่มแล้วก็ออกมายืนรอรถที่ป้ายรถเมล์  ทำเหมือนรู้ทาง 5555    ความจริงคือมายืนอ่านค่ะว่ามีรถเมล์สายไหน  ไปไหนได้มั่ง   จุดหมายที่แรกคือ Ikea  เพราะย่านที่ยืนอยู่นี่ดูคุ้นมาก ๆ เลยคิดว่า น่าจะอยู่ไม่ไกลกัน แต่จะไปสายไหนละเนี่ย  ต้องพึ่งตัวช่วยค่ะ  ถามคนข้าง ๆ ที่ป้ายนั่นแหละ   บังเอิญมีเด็กหนุ่มคนเดียว ก็เลยต้องถามน้องเค้าว่าจะไป Ikea ต้องนั่งรถสายอะไรคะ  น้องเค้าตอบมาว่า Ikea หรอ ผมรู้จักนะ เคยไป แต่ไม่รู้เหมือนกันว่านั่งรถเมล์สายอะไร  อ้าว กรรม !         รออีกสักพัก มีผู้หญิงคนนึงเดินมา ดูท่าทางแล้ว เป็นแม่บ้านแม่เรือน น่าจะรู้ทาง เลยถามเธอดู   ได้เรื่องค่ะ  เธอบอกว่า ให้นั่งสาย ..  ไป 5 ป้ายนะ   แล้วจะถึงหัวมุม ต้องข้ามถนนต่อเอานะ   พูดจบ รถมาพอดี    เอ่อ ที่ .. ไว้ เพราะไม่แน่ใจค่ะว่า  สาย855 หรือป่าว  มารีวิวเอาป่านนี้ข้อมูลเลยมีเลือน ๆ บ้าง    3 คนมีบัตรอีซี่ลิ้งค์กันแล้ว เหลือคุณพ่อคนเดียวที่ไม่มีค่ะ   เลยต้องถามลุงคนขับว่าจะให้หยอดเหรียญเท่าไหร่ดี  แค่ 5 ป้ายใกล้ ๆ  ลุงแกคิดอยู่นานเลย กว่าจะตอบว่า 1 เหรียญ หยอดตังค์ไปแล้วรอรับใบเสร็จด้วยนะคะ    รถเลี้ยวซ้ายวิ่งตรงมา ใกล้จะถึงป้ายที่ 5 ก็เห็นตึก Ikea สีน้ำเงินแจ่มอยู่ทางขวามือ กดลงได้เลยค่ะ  น่าทึ่งมากที่เจ๊คนนั้นจำได้ขนาดว่า 5 ป้ายเป๊ะเลย  ลองมาถามเราในเมืองไทยนี่สิ  เหอ ๆ ตอบไม่ได้แน่ ๆ   เดินตรงมาหน่อยจะมีสะพานลอยข้ามไป  หรือใครไปขึ้นจะสะพานลอยก็เดินไปจนถึงไฟแดง  ข้ามตรงทางม้าลายก็ได้ รูปช่วงนี้ไม่มีค่ะ  ขอล้ำไปก่อนน๊า จากคุณ : @}-- เยอบีร่า -- เขียนเมื่อ : 5 เม.ย. 54 14:12:34

ความคิดเห็นที่ 24 ไปด้วยๆๆๆ ยังทันใช่มั้ยครับ ^^ จากคุณ : แมลงภู่บนหูกระต่าย เขียนเมื่อ : 5 เม.ย. 54 14:14:31

ความคิดเห็นที่ 25  มากรี๊ดดดดดดด ราคา น้ำมัน อีก รอบบบบบบบบบบ จากคุณ : แม่จีน-ไท (GT2007) เขียนเมื่อ : 5 เม.ย. 54 14:15:13

ความคิดเห็นที่ 26 คุณ : ม่วงมหากาฬ = เบรคเอี๊ยดดดดด . . . รับคุณม่วงขึ้นรถก่อนค่ะ คุณ : Hero11147 = ไปด้วยกันค่า คุณ : One Light One Shadow  = 5555 แอบเพ้นท์สีเพิ่ม สดเกิ๊น   ช่วงนี้ทุลักทุเล  ไม่ได้ถ่ายรูปไว้เลยค่ะ  ยิ่งพอเข้า Ikea นี่ลืมกล้องไปเลย ต้องทำเวลา  5555   ออกมาด้วยข้าวของพะรุงพะรังมาก  ข้ามฝั่งไปนั่งชิลกันที่ห้างฝั่งตรงข้าม ก่อนจะโบกแท๊กซี่ไปมุสตาฟาค่ะ  ซึ่งเป็นความคิดที่ถูกมาก ๆ   ด้วยความที่เรามีสว อยู่ด้วยถึง 3 คน บวกกับข้าวของเข้าไปอีก งานนี้จะไปรถเมล์ ต่อรถไฟฟ้าอะไรค่อนข้างลำบากนิดนึง ไปแท๊กซี่นี่แหละ ทันใจกว่าค่ะ  ระยะทางค่อนข้างไกลไปถึงมุสตาฟาก็เกือบ 10 เหรียญพอดี  ได้พักเหนื่อยไปในตัว   ฝากของไว้ แล้วเข้าไปช๊อปต่อค่ะ  ช๊อปกันตั้งแต่วันแรกเลยนะบ้านเรา   จากคุณ : @}-- เยอบีร่า -- เขียนเมื่อ : 5 เม.ย. 54 14:15:22

ความคิดเห็นที่ 27 คุณ : แมลงภู่บนหูกระต่าย = ทันค่า รถเพิ่งขยับเอง อิอิ คุณ : แม่จีน-ไท (GT2007)  =  เห็นราคาน้ำมันแล้วอยากซื้อโหลดใส่กระเป๋าเดินทางกลับมาเป็นของฝากเลยค่ะ  5555 ออกจากมุสตาฟา ฝนตกปรอย ๆ  รีบเดินเข้าสถานีรถไฟฟ้า  งานนี้คุณพ่อได้บัตรอีซี่ลิ้งค์มาเป็นของที่ระลึกส่วนตัวกะเค้า 1 ใบสักที   นั่งเปลี่ยนสายไปมา มาลงที่ Clark Quay ค่ะ  ทีนี้นึกได้ว่า ไม่ค่อยได้ถ่ายรูปเลยเริ่มงัดกล้องออกมา จากคุณ : @}-- เยอบีร่า -- เขียนเมื่อ : 5 เม.ย. 54 14:16:56

ความคิดเห็นที่ 28 ซูมไปหาป้ายด้านบนนิดนึง  เก่าจริง ! จากคุณ : @}-- เยอบีร่า -- เขียนเมื่อ : 5 เม.ย. 54 14:17:48

ความคิดเห็นที่ 29 เดินเรื่อย ๆ ไปหาเจ้าสิงโต  ปรากฏว่า เจ้าตัวใหญ่โดนขังอยู่ในกรงซะแล้ว  เหลือแต่เจ้าตัวเล็กค่ะ  ฝนก็ตกปรอย ๆ รีบถ่าย รีบหลบฝนดีกว่า  หาที่นั่งให้สว นิดนึง เดี๋ยวไม่สบายไปจะยุ่ง   เหมือนสวนสนุกเลยนิ  อิอิ จากคุณ : @}-- เยอบีร่า -- เขียนเมื่อ : 5 เม.ย. 54 14:18:39

ความคิดเห็นที่ 30 แล้วขึ้นไปซื้อไอติมทาน  อิอิ มาแล้วต้องไอติมรสมิ้นท์นี่แหละ  หวาน เย็น ชื่นใจ    หม่ำไอติมไปคิดไปว่า จะเอาไงต่อดี  ฝนก็ตก จะนั่งรถไฟฟ้า ก็ต้องเดินย้อนกลับไปอีก หรือจะนั่งแท๊กซี่ไปซะเลย  สว จะได้ไม่เหนื่อยมาก พลันสายตาก็มองไปปะกะคนใส่เสื้อผ้า หน้าตาคุ้น ๆ  กรี๊ด ๆๆๆๆๆ   คณะครูนั่นเอง  เพิ่งมาถึงกันค่ะ  ไกด์พามาถ่ายรูปกะสิงโตพอดี   ไชโย ๆๆๆ   สบายแล้วเรา  ไม่ต้องคิดอะไรแล้ว  รอตามไกด์ไปขึ้นรถอย่างเดียวค่ะ  อิอิ จากคุณ : @}-- เยอบีร่า -- เขียนเมื่อ : 5 เม.ย. 54 14:19:52

ความคิดเห็นที่ 31 ตามโปรแกรมมีไปไหว้พระที่วัดจีนศักดิ์สิทธิ์ในเรื่องการคุ้มครองการเดินเรือในสมัยก่อน  ซึ่งเราอยากไปวัดนี้มากค่ะ  มาเองก็ไปไม่ถูก   แต่แล้วพอไปถึงหน้าวัด  แง๊  ปิด       ไม่เป็นไร อย่างน้อยก็พอจะรู้แล้วว่า คราวหน้าถ้าจะมาต้องมาทางไหน  คือ ถ้าใครมาศูนย์อาหาร Lau Pa Sat ถูกเนี่ย  เดินไปทางซอยด้านหลังเรื่อย ๆ อ่ะค่ะ แยกทางซ้ายจะไปเจอวัดนี้ได้  บอกพิกัดได้ไม่ละเอียดนะคะ จำเอาอย่างเดียวอ่ะค่ะ จากคุณ : @}-- เยอบีร่า -- เขียนเมื่อ : 5 เม.ย. 54 14:20:39

ความคิดเห็นที่ 32 จากนั้นก็ไปเซนโตซ่ากัน  แต่ก่อนจะข้ามเกาะ ก็ไปแวะทานอาหารเย็นกันที่ฟูดเซนเตอร์ฝั่งตรงข้ามฮาเบอร์ ฟร้อนท์ค่ะ อาหารที่นี่ราคาไม่แพง อยู่ในเกณฑ์เดิมคือ 2-5 เหรียญ ให้เยอะด้วยค่ะ  มีกับข้าวที่พอทานได้หลายอย่างเหมือนกัน จากคุณ : @}-- เยอบีร่า -- เขียนเมื่อ : 5 เม.ย. 54 14:21:34

ความคิดเห็นที่ 33 น้ำ ขนม ก็มีให้ตุนได้  ก่อนไปเซนโตซ่า จากคุณ : @}-- เยอบีร่า -- เขียนเมื่อ : 5 เม.ย. 54 14:22:36

ความคิดเห็นที่ 34 จานนี้ไข่พะโล้น่าทาน แต่รสชาติไม่เหมือนบ้านเราค่ะ  แค่จืด ๆ เค็ม ๆ  สว ส่ายหัว  5555 จากคุณ : @}-- เยอบีร่า -- เขียนเมื่อ : 5 เม.ย. 54 14:24:10

ความคิดเห็นที่ 35 จานนี้รอด ผ่านค่ะ จากคุณ : @}-- เยอบีร่า -- เขียนเมื่อ : 5 เม.ย. 54 14:24:35

ความคิดเห็นที่ 36 ที่ชอบสุด ๆ ก็ขนมหวานถ้วยนี้ล่ะค่ะ  2.20 เหรียญ  เปรี้ยว ๆ หวาน ๆ  เย็นจี๊ด  ชื่นใจ  เรียกความสดชื่นกลับมาจริง ๆ   จากคุณ : @}-- เยอบีร่า -- เขียนเมื่อ : 5 เม.ย. 54 14:25:27

ความคิดเห็นที่ 37 อิ่มแล้วออกเดินทางกันต่อค่ะ  รถบัสไปจอดส่งพวกเราที่ที่จอดรถใต้คาสิโนค่ะ  ขึ้นไปด้านบนก็จะเป็นยูนิเวอร์แซลแล้ว  ถ่ายกับลูกโลกซะหน่อย  ไกด์ปล่อยอิสระนะคะ ใครจะไปเล่นคาสิโน ไปถ่ายรูปก็ตามสบาย  นัดกันอีกที  2 ทุ่มครึ่งแถว ๆ ลูกโลกนี่แหละ จากคุณ : @}-- เยอบีร่า -- เขียนเมื่อ : 5 เม.ย. 54 14:26:32

ความคิดเห็นที่ 38 ล่ะ   เรามีเวลาตั้งชั่วโมงกว่า ๆ เลยชวนคุณแม่นั่งโมโนเรลกลับไปวีโว่ดีกว่า  ไปช๊อปปิ้งนิดนึง อิอิ จากคุณ : @}-- เยอบีร่า -- เขียนเมื่อ : 5 เม.ย. 54 14:27:09

ความคิดเห็นที่ 39  ^ มะนาว ลูกนั้น เอา มา ทำไร จ๊ะ คนสวย   จากคุณ : แม่จีน-ไท (GT2007) เขียนเมื่อ : 5 เม.ย. 54 14:27:23

ความคิดเห็นที่ 40 ส่วนคุณพ่อกับคุณป้าไปนั่งเล่นสลอต ดื่มน้ำฟรีในคาสิโน รอเวลาค่ะ     ปีน้องต่ายตัวหญ่ายยยยย . . . จากคุณ : @}-- เยอบีร่า -- เขียนเมื่อ : 5 เม.ย. 54 14:27:57

ความคิดเห็นที่ 41 คุณ : แม่จีน-ไท (GT2007) = ส้มจี๊ดค่า  สงสัยเหมือนกันค่า อาจเป็นการตกแต่งมั้งเนอะ ^^ ได้เวลา 2 ทุ่มครึ่งทุกคนมาพร้อมกันตามเวลานัด   ไกด์พาไปนั่งรอชม Crane Dance รอกันได้สักพัก ก็ประกาศงดโชว์วันนี้เฉยเลย   เลยต้องไปรอชม Lake of Dream กันที่นี่แทน จากคุณ : @}-- เยอบีร่า -- เขียนเมื่อ : 5 เม.ย. 54 14:30:03

ความคิดเห็นที่ 42 จากนั้นก็ออกเดินทางกลับโรงแรม โดยจะต้องผ่านด่านตม สิงคโปร์ และด่าน ตม มาเลย์ อีกรอบ  ส่วนข้าวของที่ซื้อมา โชคดีที่ไม่ต้องถือลงไปด้วย  วางไว้ที่รถได้เลยค่ะ  ดีจัง อิอิ จากคุณ : @}-- เยอบีร่า -- เขียนเมื่อ : 5 เม.ย. 54 14:30:56

ความคิดเห็นที่ 43 ภาพในห้องพักของโรงแรม Tropical Inn JB นะคะ จากคุณ : @}-- เยอบีร่า -- เขียนเมื่อ : 5 เม.ย. 54 14:31:56

ความคิดเห็นที่ 44 ชอบ ไร่ชา เขียวๆ  ( หรือเปล่าหว่า )  ...  ที่ภาพเปิด ครับ ดูเขียวสบายตาดีจังครับ ... ขอตามไปเที่ยวด้วยอีก 1 คนนะค้าบบบ ... แก้ไขเมื่อ 05 เม.ย. 54 14:32:42 จากคุณ : ต่ายน้อย (coopers2006) เขียนเมื่อ : 5 เม.ย. 54 14:32:09

ความคิดเห็นที่ 45 ป้ายแสดงราคาห้องพัก เผื่อใครสนใจค่ะ จากคุณ : @}-- เยอบีร่า -- เขียนเมื่อ : 5 เม.ย. 54 14:33:02

ความคิดเห็นที่ 46 คุณ : ต่ายน้อย (coopers2006)  = ไปด้วยกันค่า อิอิ ลงรูปลวงแขกเข้ามาตอน 1 ก่อน  ^^ กว่าจะถึงโรงแรมปาเข้าไป 5 ทุ่มกว่าค่ะ  คืนนี้สลบไสลไปท่ามกลางความเหนื่อยล้า  วืดเดียวเช้าเลย  เช้าเร็วชะมัด 5555  เข้าสูตร 6 7 8 ค่ะ  ลงไปทานอาหารเช้ากันดีกว่า ถ้าจะหาความอร่อย แนะนำ ขนมปัง แยม  ไข่ต้มค่ะ   พกซอสแมกกี้  ซอสมะเขือเทศ  ไปเองอีกต่างหาก  ทำให้พอทานได้ขึ้นเยอะเลย จากคุณ : @}-- เยอบีร่า -- เขียนเมื่อ : 5 เม.ย. 54 14:35:10

ความคิดเห็นที่ 47 ข้าวต้มร้อน ๆ ใสมาก จืดสนิท  กับข้าวหมด  - -"   ดีนะมีแม๊กกี้ไปด้วย จากคุณ : @}-- เยอบีร่า -- เขียนเมื่อ : 5 เม.ย. 54 14:36:05

ความคิดเห็นที่ 48 ส่วนใครที่ยังรู้สึกว่านอนไม่พอ  ไม่ต้องกลัวค่ะ  เช้านี้เราจะนั่งรถไปมะละกา  ต้องใช้เวลาหลายชั่วโมง  ไปนอนต่อกันบนรถได้ค่ะ   ระหว่างทางถ้าจะเข้าห้องน้ำก็ไม่ต้องกลัวค่ะ  รถจะจอดที่จุดพักรถเป็นระยะ  ห้องน้ำสะอาด ทุกอย่างโอเคหมด ยกเว้นสายยางง่ะ พอรถเข้าสู่มะละกา  การจราจรก็เริ่มติดขัดนิดนึงค่ะ  ที่แรกที่แวะคือ วัดจีน แห่งเดียวในมะละกา วัดเซ็งฮุนเต็ง  เป็นวัดจีนที่ก่าแกที่สุดในมาเลเซีย สร้างมาตั้งแต่ ค.ศ. 1645 โดยชาวจีนที่เข้ามาค้าขายในมะละกา ตั้งแต่สมัยราชวงศ์หมิง เป็นที่เลื่อมใสศรัทธาของชาวจีนในมาเลเซียกันมาก  เพราะภายในประดิษฐานเทพเจ้าสามองค์ คือ "เจ้าแม่กวมอิม" เทพธิดาแห่งความเมตตา  "เจ้าแม่หม่าโจ" เทพธิดาแห่งท้องทะเล และ "เทพเจ้ากวนอู"  เทพเจ้าแห่งสงคราม จากคุณ : @}-- เยอบีร่า -- เขียนเมื่อ : 5 เม.ย. 54 14:37:13

ความคิดเห็นที่ 49 พอดีมาถึงเวลาทัวร์ลงพร้อมกัน คนเยอะมาก ๆ  หามุมถ่ายแทบไม่ได้เลย  ประมาณว่าเล็ง ๆ กล้องอยู่ พอจะกดแชะ  มีอาเจ้เดินผ่านซะงั้น     ออกมาหน้าวัด มีร้านขายของที่ระลึกนิดหน่อยค่ะ   กองอย่างกะมีคนมาเยี่ยมที่บ้าน  นี่กองขายนะคะ เห็นเกี๊ยะไม้สีแดงแบบนี้ นึกถึงตอนเด็ก ๆ ชอบใส่ เวลาเดินแล้วเสียงมันดังดี  5555 จากคุณ : @}-- เยอบีร่า -- เขียนเมื่อ : 5 เม.ย. 54 14:38:47

ความคิดเห็นที่ 50 มะละกา  เป็นสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ อดีตเคยรุ่งเรืองมากก่อน เพราะเป็นเมืองท่าที่สำคัญที่สุด  มีการติดต่อค้าขายหรือเป็นเมืองเศรษฐกิจ   ซึ่งชาวยุโรปเดินทางมาเอเซีย ต้องมาจอดเรือทำการค้าขายที่ ช่องแคบมะละกา  ก่อนเดินทางต่อไปสู่ประเทศในคาบสมุทรแปซิฟิก  เมื่อประมาณ 600 กว่าปีมาแล้ว   เมื่อเจ้าชายปรเมศวร หรือ ปาราเมิสวารา ผู้มีเชื้อสายมาจากราชวงศ์ไศเลนทร์ ได้อพยพออกจากเมืองปาเล็มบังไปอภิเษกกับเจ้าหญิงในราชวงศ์มัชฌปาหิตมา ต่อมาเกิดขบถขึ้นในเมืองมัชฌปา ในปี พ.ศ.1944 จึงลี้ภัยการเมืองมาอาศัยเจ้าเมืองเทมาเส็ค(สิงคโปร์)     แต่ภายหลัง เจ้าชายปรเมศวรได้ลอบฆ่าเจ้าเมืองเทมาเส็ค(สิงคโปร์) ทำให้เจ้าชายปรเมศวร ถูกขับไล่ออกไปจากเมือง จึงหนีมาตั้ง เมืองมะละกา ขึ้นในปี ค.ศ.1403 (พ.ศ.1946) เมืองใหม่แห่งนี้กลายเป็นจักรวรรดิการค้าที่ยิ่งใหญ่ ในอีก 200 ปีต่อมา และเป็นแหล่งแรกที่ศาสนาอิสลามเข้าสู่มาเลเซีย ผ่านทางพ่อค้ามุสลิมอินเดียที่มาจากปาไซ และเปลี่ยนการปกครองมาเป็นระบอบสุลต่าน จากคุณ : @}-- เยอบีร่า -- เขียนเมื่อ : 5 เม.ย. 54 14:40:50

ความคิดเห็นที่ 51 มาลุยฝนชิมลอดช่องด้วยครับ จากคุณ : tiger's nest เขียนเมื่อ : 5 เม.ย. 54 14:41:21

ความคิดเห็นที่ 52 ต่อมา ค.ศ.1509 (พ.ศ. 2052)  โปรตุเกส เดินทางมาถึง“มะละกา” เพื่อขอตั้งสถานีการค้าแต่ถูกปฏิเสธ จนนำไปสู่สงครามระหว่างโปรตุเกส-มะละกา ซึ่งโปรตุเกสเป็นฝ่ายชนะ เมื่อ 24 สิงหาคม ค.ศ.1511 (พ.ศ. 2054)  มะละกา ถูก ดัตช์ ยึดครองเมื่อ ค.ศ.1641 (พ.ศ. 2184) หลังจากดัตช์ขับไล่โปรตุเกสออกไป ต่อมามะละกากลายเป็นอาณานิคมของอังกฤษ ตามสนธิสัญญาแองโกล-ดัตซ์ หรือ สนธิสัญญาอังกฤษ-ฮอลแลนด์ ค.ศ.1824 (พ.ศ.2367)  ภายใต้การปกครองของ อังกฤษมะละการวมกับปีนังและสิงคโปร์ ในชื่อ "นิคมช่องแคบ" ซึ่งแยกต่างหากจากสหพันธรัฐมาเลย์ หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 มะละกา เข้ารวมอยู่ในสหภาพมลายา และกลายเป็นส่วนหนึ่งของมาเลเซียเมื่อมาเลเซียได้รับเอกราชจากอังกฤษ จากคุณ : @}-- เยอบีร่า -- เขียนเมื่อ : 5 เม.ย. 54 14:41:52

ความคิดเห็นที่ 53 คุณ : tiger's nest = ไปเที่ยวมะละกากันค่า ^^ มรดกที่ ชาวดัชต์หรือฮอลันดา ทิ้งไว้ในมะละกา และกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ นั่นคือจัตุรัสดัตซ์หรือดัตซ์สแควร์ ซึ่งเคยเป็นย่านที่อยู่ของชาวดัตซ์     สถานที่สำคัญๆ ของเมืองยังอยู่ในย่านๆ นี้ด้วยกันทั้งสิ้น นับแต่โบสถ์คริสต์ หลังสีแดง เขียนคำว่า "CHRIST CHURCH 1753”ประกาศถึงความเก่าแก่ที่หน้าอาคาร และยังทำหน้าที่ต้อนรับนักท่องเที่ยวทุกชีวิตที่เข้ามาเที่ยวที่มะละกา แก้ไขเมื่อ 05 เม.ย. 54 14:44:26 จากคุณ : @}-- เยอบีร่า -- เขียนเมื่อ : 5 เม.ย. 54 14:43:41

ความคิดเห็นที่ 54 ส่วนเหตุผลที่ต้องเป็นสีแดงนั้น ก็เพราะเมื่อตอนที่ อังกฤษเข้าครอบครองนั้น เห็นว่าโบสถ์ต้องทาสีบ่อย ก็ในเมื่ออิฐข้างในซึ่งนำมาจากเนเธอร์แลนด์ เป็นสีแดง ก็เลยทาสีแดงซะเลย จะได้ไม่ต้องทาสีบ่อย ๆ เพิ่งทราบเหตุผลตอนหาข้อมูลทำรีวิวนี้เหมือนกันค่ะ   จากคุณ : @}-- เยอบีร่า -- เขียนเมื่อ : 5 เม.ย. 54 14:45:32

ความคิดเห็นที่ 55 อีกมุม จากคุณ : @}-- เยอบีร่า -- เขียนเมื่อ : 5 เม.ย. 54 14:45:59

ความคิดเห็นที่ 56 อนุสาวรีย์กระจงน้อย หรือ "กันจิล"  ไกด์เล่าว่ามีที่ว่าจาก เจ้าชายปรเมศวร เจ้าผู้ครองเมืองเทมาเส็ก  ได้ถูกพวกชวาโจมตีจนต้องหนีขึ้นมาทางเหนือ ขณะที่แวะพักพระองค์ได้เห็นสุนัขป่าวิ่งไล่เจ้ากระจงสีขาวตัวเล็กตัวหนึ่ง เจ้ากระจงน้อยตัดสินใจสู้  จนทำให้เจ้าสุนัขตกลงไปในน้ำ ตัวเล็กมากจริง ๆ  เกือบมองไม่เห็น จากคุณ : @}-- เยอบีร่า -- เขียนเมื่อ : 5 เม.ย. 54 14:51:08

ความคิดเห็นที่ 57 พระองค์ทรงชื่นชมในความกล้าของเจ้ากระจงน้อย จึงตัดสินใจปักหลักสร้างอาณาจักรใหม่ที่นี่และตั้งชื่อว่า "มะละกา" ซึ่งแปลว่า ต้นมะขามป้อม และพระองค์ได้สร้างพระราชวังขึ้นตรงเนินเขาริมฝั่งแม่น้ำมะละกา ส่วนเจ้ากระจงน้อยก็กลายเป็นสัญลักษณ์และตราประจำรัฐมะละกาในที่สุด ซูม ซูม จากคุณ : @}-- เยอบีร่า -- เขียนเมื่อ : 5 เม.ย. 54 14:51:52

ความคิดเห็นที่ 58 ส่วนคันนี้ ไม่ทราบประวัติค่ะ  5555 รถสามล้อดอกไม้ดนตรีเอกลักษณ์ของที่นี่ จากคุณ : @}-- เยอบีร่า -- เขียนเมื่อ : 5 เม.ย. 54 14:52:41

ความคิดเห็นที่ 59 ตามมาทันที่มะละกานี่เอง ขอไปเที่ยวต่อด้วยนะคะ จากคุณ : Memories pink เขียนเมื่อ : 5 เม.ย. 54 14:53:03

ความคิดเห็นที่ 60 แผงขายของที่ระลึกยาวไปสุดทางนู่น  เค้าบอกว่า ร้านลึก ๆ จะถูกกว่า  อันนี้ไม่ได้พิสูจน์นะคะ จากคุณ : @}-- เยอบีร่า -- เขียนเมื่อ : 5 เม.ย. 54 14:54:13

ความคิดเห็นที่ 61 คุณ : Memories pink =  ตามจนเหนื่อยเลย อิอิ ดื่มน้ำส้มก่อนน๊า ของที่ระลึกนิดหน่อยค่ะ จากคุณ : @}-- เยอบีร่า -- เขียนเมื่อ : 5 เม.ย. 54 14:58:47

ความคิดเห็นที่ 62  แดง ไป หมด กระทั้ง เกี๊ยะ ยังแดง จากคุณ : GT2007 เขียนเมื่อ : 5 เม.ย. 54 14:59:15

ความคิดเห็นที่ 63 ไกด์อธิบายคร่าว ๆ แล้วให้แยกย้ายกันเดินค่ะ โดยนัดรวมกันด้านบน  พวกเราขี้เกียจเดินขึ้นบันได เลยเดินอ้อมไปทางโรงแรม Aldy ขึ้นเนินไปด้านบนแทน   Aldy Hotel เคยพักเมื่อคราวก่อนค่ะ  ทำเลสะดวกใกล้และราคาโอเค จากคุณ : @}-- เยอบีร่า -- เขียนเมื่อ : 5 เม.ย. 54 14:59:16

ความคิดเห็นที่ 64 คุณ : GT2007 = น้องจีนเคยใส่เกี๊ยะป่าวคะซ้อ ที่เหมือนเสาใหญ่ ๆ ไกล ๆ นั่นคือ  มะละกาทาวเวอร์ค่ะ จากคุณ : @}-- เยอบีร่า -- เขียนเมื่อ : 5 เม.ย. 54 15:01:43

ความคิดเห็นที่ 65 สถานที่นี้สร้างขึ้นโดย กัปตันชาวโปรตุเกส ซึ่งเรียกขานสถานที่นี้ว่าLady of the hill   ก่อนที่พวกดัตช์ จะครอบครองดินแดนแห่งนี้ และทำการเปลี่ยนชื่อเป็น โบสถ์ St. Paul จนเมื่อโบสถ์คริสต์ที่จัตุรัสแดงสร้างเสร็จ  พวกดัตช์ ก็ได้เปลี่ยนสถานที่นี้ให้เป็นที่ฝังศพของพวกขุนนาง และโบสถ์แห่งนี้เคยเป็นที่ฝังศพชั่วคราวของ เซ็นต์ ฟรานซิล เซเวียร์(Saint  Francis Xavire) นักบวชชาวสเปนที่เข้ามาเผยแพร่คริสต์ศาสนานิกายโรมันคาทอลิก ให้เป็นที่รู้จักในเอเชียตะวันออก ตั้งแต่อินเดีย มะละกา ปัตตาเวีย อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ จีน และญี่ปุ่น จนกระทั่งท่านมรณภาพบนเกาะซานเฉียน มณฑลกวางตุ้ง ประเทศจีน จึงได้นำศพของท่านมาฝังไว้ชั่วคราวในโบสถ์แห่งนี้ นานถึง 6 เดือน ก่อนที่จะย้ายไปฝังเป็นการถาวรที่เมืองกัว ประเทศอินเดีย จากคุณ : @}-- เยอบีร่า -- เขียนเมื่อ : 5 เม.ย. 54 15:03:07

ความคิดเห็นที่ 66 ทริปทรมาน สว พอสมควรค่ะ  เดินไปพักไป แดดร้อน แต่มีลมเย็น ๆ ค่อยยังชั่วหน่อย จากคุณ : @}-- เยอบีร่า -- เขียนเมื่อ : 5 เม.ย. 54 15:04:12

ความคิดเห็นที่ 67 โบสถ์ St. Paul   เป็นโบสถ์เก่าแก่เหลือเพียงแค่ผนังกำแพงเท่านั้น  ขณะอยู่บนโบสถ์ St Paul นอกจากจะได้เห็นทะเลเมืองมะละกาแล้ว อีกด้านหนึ่งจะได้เห็นประตู ป้อม A’Fomosa ซึ่งเป็นป้อมที่พวกโปรตุเกส สร้างขึ้นในปี ค.ศ.1511เป็นประตูป้อมเดียวที่หลงเหลือจากการโจมตีเผาทำลายโดยชาวอังกฤษ และยืนหยัดเป็นหลักฐานให้ผู้มาเยือนรู้ว่า บริเวณแถวนี้เคยรุ่งเรือง เป็นย่านที่อยู่ของชาวโปรตุเกส ภายในป้อมเคยมีวัง โรงพยาบาล และโบสถ์ ซึ่งถูกทำลายไปจนหมดหลงเหลือเพียงประตูป้อม A’Fomosa และโบสถ์ St.Paul เท่านั้น จากคุณ : @}-- เยอบีร่า -- เขียนเมื่อ : 5 เม.ย. 54 15:05:20

ความคิดเห็นที่ 68 เมื่อคราวที่แล้วไม่ได้ขึ้นมาบนนี้  ดูแต่รูปคิดว่ารูปปั้นคงใหญ่น่าดู  พอมาเจอของจริง เล็กนิดเดียว น่าจะขนาดเท่าตัวคนอ่ะค่ะ จากคุณ : @}-- เยอบีร่า -- เขียนเมื่อ : 5 เม.ย. 54 15:06:32

ความคิดเห็นที่ 69  เคยจ๊ะ ตอน เล็กๆๆ เดินหนวกหูดีแท้ ซ้อก็เคย แหม100% ขนาดนี้ ไม่โดนจับห่อเท้าก็บุญแล้ว จากคุณ : แม่จีน-ไท (GT2007) เขียนเมื่อ : 5 เม.ย. 54 15:07:34

ความคิดเห็นที่ 70 ระหว่างที่ สว พักเหนื่อย  เลยได้เดินถ่ายรูปมุมโน้น มุมนี้บ้าง จากคุณ : @}-- เยอบีร่า -- เขียนเมื่อ : 5 เม.ย. 54 15:07:38

ความคิดเห็นที่ 71 คุณ : แม่จีน-ไท (GT2007)  =  อูย เท้าดอกบัวทองคำ อย่างงั้นไม่ไหวนะคะ น่ากลัว น่าสงสารอ่ะ ทางที่เดินขึ้นมาเมื่อกี้ค่ะ   เค้าทำทางดีนะ  ขั้นกว้าง ๆ  เดินง่าย ไม่เหนื่อยเท่าไหร่ค่ะ จากคุณ : @}-- เยอบีร่า -- เขียนเมื่อ : 5 เม.ย. 54 15:10:04

ความคิดเห็นที่ 72 งานศิลปะ จากคุณ : @}-- เยอบีร่า -- เขียนเมื่อ : 5 เม.ย. 54 15:10:55

ความคิดเห็นที่ 73 ของที่ระลึก จากคุณ : @}-- เยอบีร่า -- เขียนเมื่อ : 5 เม.ย. 54 15:11:47

ความคิดเห็นที่ 74 เสื้อที่ระลึก จากคุณ : @}-- เยอบีร่า -- เขียนเมื่อ : 5 เม.ย. 54 15:13:17

ความคิดเห็นที่ 75 น้องนกเค้ารอพี่ ๆ มาถ่ายรูปคู่น่ะค่ะ   มีทั้งนก มีทั้งงูเหลือม  หุ หุ จากคุณ : @}-- เยอบีร่า -- เขียนเมื่อ : 5 เม.ย. 54 15:14:11

ความคิดเห็นที่ 76 ลูกทัวร์ขึ้นมากันครบ พักจนหายเหนื่อยกันแล้ว ก็กลับลงมาอีกด้านนึงค่ะ ลงมาทางป้อม A’Fomosa  ด้านนี้จะเป็นบันไดขั้นถี่หน่อย  ค่อย ๆ ลงมาอย่างระมัดระวังนะคะ จากคุณ : @}-- เยอบีร่า -- เขียนเมื่อ : 5 เม.ย. 54 15:16:05

ความคิดเห็นที่ 77 ปืนใหญ่ จากคุณ : @}-- เยอบีร่า -- เขียนเมื่อ : 5 เม.ย. 54 15:16:29

ความคิดเห็นที่ 78 จากหน้าป้อมเราเดินมาทางด้านขวามือ  จะมีห้างนะคะ เข้าไปทานข้าวกลางวันกันที่ฟูดคอร์ทต่อค่ะ  แอร์เย็นฉ่ำดีจริง ๆ จากคุณ : @}-- เยอบีร่า -- เขียนเมื่อ : 5 เม.ย. 54 15:18:14

ความคิดเห็นที่ 79 เมนูอาหารประมาณนี้ค่ะ  ส่วนอาหารจริงไม่ได้ถ่ายมา เพราะเป็นคนเฝ้าโต๊ะ ใคร ๆ ซื้อมากันหมดแล้ว  ถึงตาเราเดินไปซื้อมั่ง เลือกนานไปหน่อย กลับมาอีกที เหลือแต่จานเปล่ากันหมด  เง้อ จากคุณ : @}-- เยอบีร่า -- เขียนเมื่อ : 5 เม.ย. 54 15:19:31

ความคิดเห็นที่ 80 อิ่มแล้วรวมพล เดินกลับไปขึ้นรถบัส  ได้เวลาออกจากมะละกาแล้วค่ะ   พิพิธภัณฑ์นี้ เสียดายยังไม่ได้เข้าไปชมสักที จากคุณ : @}-- เยอบีร่า -- เขียนเมื่อ : 5 เม.ย. 54 15:21:17

ความคิดเห็นที่ 81 กว่าจะออกจากมะละกาได้ก็บ่าย 2 โมงกว่าแล้วค่ะ  รถก็ติด  แต่เราวันนี้เราไม่มีโปรแกรมแวะที่ไหนอีกแล้ว   เล่นเกมบนรถ แล้วก็พักผ่อน  มุ่งหน้าตรงไปทานมื้อค่ำกันที่คาเมร่อนไฮแลนด์อย่างเดียว ถนนซุปเปอร์ไฮเวย์ในมาเลย์ดีมาก ๆ ถนนเรียบดี รถไม่ติด  ไม่มีแยกไฟแดงให้รำคาญใจอีกต่างหาก  แต่จำกัดความเร็วนะคะ ลูกทัวร์ก็สบายใจในความปลอดภัยได้ระดับหนึ่ง    ก่อนหน้าที่เราจะเดินทาง 1 เดือน มีข่าวรถตกเขาที่คาเมร่อนนี่ดังมาก ทำให้ใจคอไม่ดีนิดหน่อย  แต่พอเห็นเส้นทางแล้ว ไม่ได้อันตรายอย่างที่คิดเลย   ทางขึ้นเขาจริงแต่ไม่ชัน  ทางแคบพอที่รถ 2 คันจะสวนกันได้สบาย ๆ  เค้าตัดทางค่อย ๆ วนขึ้นเขาไปเรื่อย ๆ ในองศาที่ไม่น่ากลัวเลย  แม่ฮ่องสอน ป่าตอง ดอยต่าง ๆ บ้านเรา น่ากลัวกว่าเยอะมากค่ะ    อีกอย่างคนขับชำนาญมากด้วย  งานนี้ต้องยกนิ้วให้โชเฟอร์เค้าแหละ  ยิ่งสูงยิ่งหนาวจริง ๆ  อยู่ในรถเบาแอร์แล้ว ต่างคนต่างคว้าเสื้อกันหนาวมาสวมเพิ่ม จากคุณ : @}-- เยอบีร่า -- เขียนเมื่อ : 5 เม.ย. 54 15:23:19

ความคิดเห็นที่ 82 ขึ้นไปถึงตรงตลาดคาเมร่อนกัน เกือบ 3 ทุ่มค่ะ  ลงรถมา มีอากาศเย็น ๆ เข้ามาทักทาย  วู้ ๆ เย็นดีจัง  สมาชิกหิวกันเต็มที่แล้ว  ทั้งนี้เพราะอยากมาทานสุกี้ผักสดที่นี่กัน  แม้ไกด์จะเสนอว่าให้ทานอาหารด้านล่างมาก่อนดีมั๊ย  จะได้ไม่หิ้วท้องรอกันมาก  แต่ก็ไม่มีใครตอบรับค่ะ  หิวก็หม่ำเสบียงที่ตุนกันมา  ไม่อยากพลาดสุกี้ผักสดที่นี่ค่ะ     แอบเห็นราคาต่อหัวก็ไม่แพงนะคะ ประมาณ 100 กว่าบาทเอง จากคุณ : @}-- เยอบีร่า -- เขียนเมื่อ : 5 เม.ย. 54 15:25:13

ความคิดเห็นที่ 83 บ้านเราแจ้งไกด์ไว้ล่วงหน้าแล้วค่ะว่า none-seafood บางคนแพ้ บางคนไม่แพ้ ไม่ทานดีกว่าตัดความเสี่ยง  ทางร้านก็น่ารักให้นั่งโต๊ะเล็ก ๆ เฉพาะครอบครัวเรา จากคุณ : @}-- เยอบีร่า -- เขียนเมื่อ : 5 เม.ย. 54 15:26:16

ความคิดเห็นที่ 84 จัดเนื้อ หมู ไก่ ผัก เต้าหู้ เห็ด เส้นหมี่ ไรมาให้แทน  ผักที่นี่สด กรอบ แต่ผักอะไรไม่ทราบค่ะ ทานไปทั้ง ๆ ที่ไม่รู้นั่นแหละ 5555   งานนี้จากที่เราเตรียมข้อมูล เค้าว่า สุกี้ที่นี่ผักสดอร่อยมาก  แต่น้ำจิ้มไม่เวิร์ค  เราก็เลยซื้อน้ำจิ้มสุกี้พกไปด้วย 5555   พกมันทุกอย่าง ซอส น้ำจิ้ม น้ำปลา ไรพวกนี้ เพื่อความอร่อยของครอบครัว อิอิ   จากคุณ : @}-- เยอบีร่า -- เขียนเมื่อ : 5 เม.ย. 54 15:27:24

ความคิดเห็นที่ 85 อากาศเย็น ๆ สุกี้ร้อน ๆ  ยิ่งได้น้ำจิ้มสุกี้แบบไทย ๆ นี่  แซ่บ หม่ำกันอิ่มตื้อเลย   ยังพอมีเวลาเหลือไปเดินสำรวจตลาดกันนิดนึง   ข้าวโพดปิ้งฝักละ 2.5 ริงกิต หมูสะเต๊ะก็มี  ความจริงคนขายปิดเตาไปแล้ว แต่พอเห็นมีทัวร์มา รีบจุดเตาใหม่เลย  งานนี้ก็พอขายได้มั่งแหละ จากคุณ : @}-- เยอบีร่า -- เขียนเมื่อ : 5 เม.ย. 54 15:28:12