ความคิดเห็นที่ 1 ท่องเที่ยวอิตาลี Trip to Italy ถ้าเอ่ยถึงบะหมี่ เราจะนึกถึง บะหมี่หมูแดง หรือบะหมี่ปู ซึ่งต้นกำเนิดมาจากชาวจีน ถ้าเอ่ยถึงเส้นอุด้งเราก็จะนึกถึง อาหารญี่ปุ่น และถ้าเอ่ยถึงเส้นพาสต้าหรือสปาเกตตี้ แน่นอนค่ะก็ ประเทศอิตาลี นั่นเอง และแน่นอน มนต์เสน่ห์ ของอิตาลีและอาหารอิตาเลี่ยนนั้นมีชื่อไปทั่วโลกไม่แพ้อาหารไทยเลยทีเดียวค่ะ และก่อนที่เพื่อนๆ จะเดินทางข้ามโลกข้ามทวีปมายังดินแดนของสปาเกตตี้ และ พิชซ่า เพื่อนๆ น่าจะเตรียมตัวสักนิดเพื่อทริปของเพื่อนๆ จะได้มีรสชาดมากขึ้น เพราะคนส่วนใหญ่ที่นี้จะไม่พูดภาษาอังกฤษกันค่ะ ประเทศอิตาลี ที่ใครๆ รู้จักว่า ลักษณะคล้ายรองเท้าบู้ท ตั้งอยู่ในทวีปยุโรปตอนใต้ ลักษณะประเทศเป็นคาบสมุทรยื่นลงไปในทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนาน เป็นแหล่งอารยธรรม วัฒนธรรมเก่าแก่ ขนมธรรมเนียมประเพณี มีสถาปัตยกรรมที่และงานศิลปะที่มีคุณค่าระดับโลก การออกแบบที่ขึ้นชื่อ ประเทศอิตาลีมีสถานที่ที่เป็นแหล่งมรดกโลกอยู่มากกว่าประเทศอื่นในโลก ซึ่งมีทั้งมรดกโลกทางวัฒนธรรมและมรดกโลกทางธรรมชาติที่มีคุณค่าอย่างมาก ประมาณ 60% ของงานจิตรกรรมทั้งหมดในโลกสรรค์สร้างขึ้นในประเทศอิตาลี ภูมิประเทศสวยงามและอุดมสมบูรณ์ไปด้วยแหล่งพืชพรรณธรรญาหารมากมาย ผัก ผลไม้ ทุกฤดูกาล ที่มีถึง 4 ฤดู นอกจากจะเป็นแหล่งเกษตรกรรม และมีชื่อด้านงานฝีมือ ก็เป็นแหล่งอุตสาหกรรม และเทคโนโลยีต่างๆ พร้อมทั้งเป็นแหล่งจับจ่ายสินค้าคุณภาพ แฟชั่นชั้นนำของโลก แล้ว คนอิตาเลี่ยนจะช่างพูด ยิ้มแย้มแจ่มใส มีอัธยาศัยดี แต่ก็เป็นคนอนุรักษ์นิยม ชอบการดำเนินชีวิตแบบเดิมๆ ภูมิใจในภาษา ศิลปวัฒนธรรมของตนเอง มีความผูกพันกับขนมประเพณี ธรรมเนียม อย่างต่อเนื่อง ในหลายๆ ด้าน โดยจะเห็นได้ชัด ในเรื่องอาหารการกิน การทักทาย ภาษา รวมทั้งภาษากาย ศิลปะ ดนตรี และชีวิตความเป็นอยู่ จากคุณ : PinePh เขียนเมื่อ : 1 เม.ย. 54 16:35:10

ความคิดเห็นที่ 2 อิตาลีมีวัฒนธรรมที่คล้ายคนเอเซีย คือให้ความสำคัญกับครอบครัว และเคารพนับถือผู้สูงอายุ การแสดงความเคารพและให้เกียรติผู้สูงอายุเป็นมารยาทที่ชาวอิตาเลี่ยน ชื่นชมมาก และโดยมากลูกผู้ชายมักจะดูแลครอบครัว ดูแล เอาใจใส่แม่ มากกว่าลูก ผู้หญิง ถึงแม้ว่าจะออกเรือนไปแล้ว คือให้ลูกผู้ชายความสำคัญกับแม่ โดยการแต่งงานแล้วโดยมากลูกผู้ชายจะอยู่กับแม่หรือครอบครัวมากกว่า ลูกผู้หญิงที่แต่งงานแล้วแยกเรือนออกไป จึงไม่น่าแปลกใจเลยว่า บางครั้งเราจะเห็นผู้ชายอิตาเลี่ยนดูแลความสะอาด บ้านเรือนได้เข้าที่เข้าทางและเรียบร้อยเป็นระเบียบมากกว่าผู้หญิงอิตาเลี่ยนเสียอีก และจะเห็นได้ว่าแม้กระทั่งลูกชายอายุมากๆ ก็ยังไปทานข้าวกับแม่ ทุกวันอาทิตย์ โดยสังเกตได้ว่า ถึงแม้จะเป็นชาวคริสต์ คาทอลิก แต่จะให้ความสำคัญต่อพระแม่มารีเป็นส่วนใหญ่ พระแม่มารี ซี่งคนที่นี้จะเรียกว่า Madonna คือ มาดอนน่า โดยจะพบเห็นรูปภาพ หรือ รูปปั้นวางไว้ทั่วไปตามมุมบ้านเรือนต่างๆ หรือ ถนนหนทาง และแม้กระทั่งคำพูด อุทานต่างๆ ก็จะมีคำกล่าวถึง เช่น Mamma Mio มาม่า มีโอะ โอ้ แม่ของฉัน หรือ Madonna Mio เป็นต้น และสิ่งที่สังเกตได้คือ หนุ่มๆ อิตาเลี่ยนจะหน้าตาดี คมคาย ผิวพรรณสีออกแทน หรือ ขาวปานกลางไม่ขาวซีดเหมือนทางยุโรปเหนือ สีของตาจะมีหลากสี ผมหยักศกเป็นลอน จะทำให้รวมๆ ดูแล้วดีมาก สังเกตได้จากรูปปั้นที่หน้าคมคายเหมือนเทพเจ้ากรีก ถ้าเป็นทางยุโรปเหนือ สีผิวจะซีดๆ ขาวๆ ตาจะออกสีอ่อนๆ ฟ้าจางๆ และผมสีทอง และหนุ่มอิตาเลี่ยนจะมีจริต และขึ้เล่น มีคลาสในการแต่งกาย ดูแลเรื่องร่างกายตัวเอง สะอาด ประณีต พร้อมทั้งในการส่งภาษากาย สายตาทำให้มีเสน่ห์ไปอีกแบบ ด้งนั้นจึงทำให้ขึ้นชื่อว่าหนุ่มลาติน หนุ่มอิตาเลี่ยนหล่อแบบ 10 คนหล่อไปเกือบ 8 คนครึ่ง! ส่วนสาวๆ ก็จะหน้าตาไม่แพ้กันกับหนุ่มๆ แต่ พอเธออายุอย่างเข้าวัยรุ่น ก็จะเริ่มเจ้าเนื้อ ไปถึงอวบอ้วน และดูเหมือนจะไม่ค่อยใส่ใจความอวบเท่าไหร่ เมื่อเทียบกับหนุ่มๆ และการมีจริตจะไม่เท่ากับหนุ่มๆ แต่คงยังรักการแต่งตัวไม่แพ้กัน จากคุณ : PinePh เขียนเมื่อ : 1 เม.ย. 54 16:36:59

ความคิดเห็นที่ 3 อิตาลีมีวัฒนธรรมที่คล้ายคนเอเซีย คือให้ความสำคัญกับครอบครัว และเคารพนับถือผู้สูงอายุ การแสดงความเคารพและให้เกียรติผู้สูงอายุเป็นมารยาทที่ชาวอิตาเลี่ยน ชื่นชมมาก และโดยมากลูกผู้ชายมักจะดูแลครอบครัว ดูแล เอาใจใส่แม่ มากกว่าลูก ผู้หญิง ถึงแม้ว่าจะออกเรือนไปแล้ว คือให้ลูกผู้ชายความสำคัญกับแม่ โดยการแต่งงานแล้วโดยมากลูกผู้ชายจะอยู่กับแม่หรือครอบครัวมากกว่า ลูกผู้หญิงที่แต่งงานแล้วแยกเรือนออกไป จึงไม่น่าแปลกใจเลยว่า บางครั้งเราจะเห็นผู้ชายอิตาเลี่ยนดูแลความสะอาด บ้านเรือนได้เข้าที่เข้าทางและเรียบร้อยเป็นระเบียบมากกว่าผู้หญิงอิตาเลี่ยนเสียอีก และจะเห็นได้ว่าแม้กระทั่งลูกชายอายุมากๆ ก็ยังไปทานข้าวกับแม่ ทุกวันอาทิตย์ โดยสังเกตได้ว่า ถึงแม้จะเป็นชาวคริสต์ คาทอลิก แต่จะให้ความสำคัญต่อพระแม่มารีเป็นส่วนใหญ่ พระแม่มารี ซี่งคนที่นี้จะเรียกว่า Madonna คือ มาดอนน่า โดยจะพบเห็นรูปภาพ หรือ รูปปั้นวางไว้ทั่วไปตามมุมบ้านเรือนต่างๆ หรือ ถนนหนทาง และแม้กระทั่งคำพูด อุทานต่างๆ ก็จะมีคำกล่าวถึง เช่น Mamma Mio มาม่า มีโอะ โอ้ แม่ของฉัน หรือ Madonna Mio เป็นต้น และสิ่งที่สังเกตได้คือ หนุ่มๆ อิตาเลี่ยนจะหน้าตาดี คมคาย ผิวพรรณสีออกแทน หรือ ขาวปานกลางไม่ขาวซีดเหมือนทางยุโรปเหนือ สีของตาจะมีหลากสี ผมหยักศกเป็นลอน จะทำให้รวมๆ ดูแล้วดีมาก สังเกตได้จากรูปปั้นที่หน้าคมคายเหมือนเทพเจ้ากรีก ถ้าเป็นทางยุโรปเหนือ สีผิวจะซีดๆ ขาวๆ ตาจะออกสีอ่อนๆ ฟ้าจางๆ และผมสีทอง และหนุ่มอิตาเลี่ยนจะมีจริต และขึ้เล่น มีคลาสในการแต่งกาย ดูแลเรื่องร่างกายตัวเอง สะอาด ประณีต พร้อมทั้งในการส่งภาษากาย สายตาทำให้มีเสน่ห์ไปอีกแบบ ด้งนั้นจึงทำให้ขึ้นชื่อว่าหนุ่มลาติน หนุ่มอิตาเลี่ยนหล่อแบบ 10 คนหล่อไปเกือบ 8 คนครึ่ง! ส่วนสาวๆ ก็จะหน้าตาไม่แพ้กันกับหนุ่มๆ แต่ พอเธออายุอย่างเข้าวัยรุ่น ก็จะเริ่มเจ้าเนื้อ ไปถึงอวบอ้วน และดูเหมือนจะไม่ค่อยใส่ใจความอวบเท่าไหร่ เมื่อเทียบกับหนุ่มๆ และการมีจริตจะไม่เท่ากับหนุ่มๆ แต่คงยังรักการแต่งตัวไม่แพ้กัน จากคุณ : PinePh เขียนเมื่อ : 1 เม.ย. 54 16:45:40

ความคิดเห็นที่ 4 อีกภาพ ของลุค หนุ่ม อิตาเลี่ยน จะนิยมมีหนวด เครา เล็กๆ น้อยๆ เพิ่มความเป็นแมน ผู้ชายการโกนหนวดแต่งคิ้ว จะมีฝีมือมากกว่าสาวๆ เสียอีก จากคุณ : PinePh เขียนเมื่อ : 1 เม.ย. 54 16:46:47

ความคิดเห็นที่ 5 แหล่มมากครับ  ขอบคุณที่พาไปเที่ยวครับ จากคุณ : เล็กทาโร่ เขียนเมื่อ : 1 เม.ย. 54 16:48:26

ความคิดเห็นที่ 6 ตามมาเที่ยวด้วยครับ ^^ จากคุณ : ไผ่พริ้ว (PyDE) เขียนเมื่อ : 1 เม.ย. 54 16:49:50

ความคิดเห็นที่ 7 อีกภาพนะค่ะ จากคุณ : PinePh เขียนเมื่อ : 1 เม.ย. 54 16:50:49

ความคิดเห็นที่ 8 สาวๆ อิตาเลี่ยน นำมาฝากหนุ่มๆ ค่ะ จะได้เท่าเทียมกัน จากคุณ : PinePh เขียนเมื่อ : 1 เม.ย. 54 17:06:14

ความคิดเห็นที่ 9 ... จากคุณ : PinePh เขียนเมื่อ : 1 เม.ย. 54 17:06:31

ความคิดเห็นที่ 10 ก็จะเข้มๆ ไม่ต่างกันกับหนุ่มๆ นะค่ะ จากคุณ : PinePh เขียนเมื่อ : 1 เม.ย. 54 17:06:57

ความคิดเห็นที่ 11 จากคุณ : BROWN STITCH เขียนเมื่อ : 1 เม.ย. 54 17:08:03

ความคิดเห็นที่ 12 ชาวอิตาเลี่ยนเป็นอันดับที่หกในสิบอันดับของประเทศที่เป็นความมิตรมากที่สุดในโลก  โดยอิตาลีเป็นแหล่งท่องเที่ยว ที่อยู่ในอันดับที่ ห้า ที่มีผู้มาเยือนมากที่สุดในโลก และคนอิตาเลี่ยนจะให้ความสนใจให้เกียรติ เวลาคุยกับ เรา ที่เป็นชาวต่างชาติ หรือ นักท่องเที่ยว แม้เราไม่สามารถสื่อสารกับเขาได้ก็ตามเขาก็ยังพยายามที่จะพูดช้าๆ และใช้ท่าทางให้เราได้เข้าใจ โดยไม่หันไปถามคนอื่นที่เป็นชาวอิตาเลี่ยนด้วยกันว่า เราพูดอะไรนะโดยที่ไม่มองหน้าเรา ไม่เหมือนที่เราคุ้นกันว่า ชาวต่างชาติไม่พูดภาษาไทย เราก็เลยหันไปคุยกับคนไทยด้วยกันเอง ว่าฝรั่งคนนี้เขาว่าอะไรนะ ทั้งๆ ที่เขาอาจจะพยายามสื่อสารกับเราแต่เราก็หันไปถามคนไทยด้วยกันเองเพื่อการประหยัดเวลา จนบางครั้งทำให้ชาวต่างชาติหลายคนมีความรู้สึกว่าเขาไม่มีความสำคัญเท่าไหร่นักในวงสนทนา จึงอาจจะดูไม่เหมาะนัก และด้วยความใจดีและเป็นมิตร จึงทำให้มีชาวต่างชาติที่อพยพ ลี้ภัยจากประเทศของตนเองมาอาศัยอยู่ในประเทศอิตาลีกันมาก โดยหนีมาจากทางเรือ แม้กระทั่งลี้ภัยจากสงครามซึ่ง ทางประเทศอิตาลี รับเข้ามาอยู่ในประเทศเป็นจำนวนมาก ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน แต่ก็ทำให้เกิดปัญหาตามมา เช่นพวก ยิปซี โรมาเนีย ที่มาก่อเหตุวุ่นวายกันเป็นประจำ ในเรื่องการลักขโมย การลักทรัพย์ ล้วงกระเป๋า นักท่องเที่ยว หรือแม้กระทั่ง ปล้น ฆ่า ขมขื่น ไม่เว้นแม้กระทั่งผู้สูงอายุ ซึ่งคนเหล่านั้นมาทำงานเป็นคนดูแลผู้สูงอายุ และก็ทำร้ายร่างกายเพื่อปล้นทรัพย์และเอาถึงชีวิต  ทำให้ปัจจุบัน ชาวอิตาเลี่ยนค่อนข้างกลัวและไม่ค่อยเป็นมิตรมากนักกับชาวต่างชาติที่เข้ามาในประเทศ ดังนั้นจึงจะเห็นได้ว่ามีการเตือนเมื่อมาเที่ยวที่อิตาลีให้ระวังเรื่องการล้วงกระเป๋า และคนเหล่านั้นจะหน้าตาคมๆ ซึ่งเราชาวเอเซียที่ไม่คุ้นลักษณะจะพลอยคิดไปว่าเป็นคนชาวอิตาเลี่ยน และเหมากลายเป็นว่า มาที่อิตาลี ระวังนักล้วงเลยทำให้คนนึกไปว่า ชาวอิตาเลี่ยนเป็นนักล้วงซึ่งเป็นความเข้าใจที่ผิด โดยมากพวกชาวยิปซีจะเป็นที่เป็นนักล้วงมือดี เพราะถ้าเป็นชาวอิตาเลี่ยนเอง เรื่องของหาย หรือ ทรัพย์หาย ไม่ค่อยมีเท่าไหร่นัก เพราะสังเกตได้จากการไปงานเลี้ยงสังสรรค์ และผู้คนในงานมักนำกระเป๋าสะพาย ไปวางในห้องที่จัดให้วางกันหลายๆ คน ของและทรัพย์สินก็ยังอยู่ครบ ถ้าเป็นที่อื่น คงโดนมือดี ล้วงไปเรียบร้อยแล้ว หน้าตาจะเป็นลักษณะนี้ค่ะ และจะมีลูกกันทีละหลายๆ คน จากคุณ : PinePh เขียนเมื่อ : 1 เม.ย. 54 17:12:32

ความคิดเห็นที่ 13  ตาม ไป โรแมนท์ ด้วยคนนะ  จากคุณ : แม่จีน-ไท (GT2007) เขียนเมื่อ : 1 เม.ย. 54 17:14:32

ความคิดเห็นที่ 14 ที่อยู่จะเป็นรถบ้านที่รัฐบาลจัดสรรให้ คนเหล่านี้ จะมีรถขับและมีเงินใช้ตลอด ไม่ว่าจะเป็นการขอทาน หรือ ลักขโมย หรือ รัฐช่วย ถ้ามีตลาดเขาก็จะไปขอ อาหาร คนอิตาเลี่ยนก็จะให้ฟรี ตลอดโดยมากจะให้เด็กๆ ขอ คนเหล่านี้ สังเกตดีๆ จะไม่ค่อยอาบน้ำ ผมเผ้ารุงรัง และ ดูมอมเเมม จากคุณ : PinePh เขียนเมื่อ : 1 เม.ย. 54 17:14:48

ความคิดเห็นที่ 15 ชาวอิตาเลี่ยนจะมีภาษาที่เป็นเอกลักษณ์ โดยที่ไม่นิยมใช้ภาษาอังกฤษ ดังเช่น ประเทศทางยุโรปหลายประเทศเช่นกัน ภาษาของชาวอิตาเลี่ยน จะมีภาษาถิ่นที่ยังคงอนุรักษ์และใช้อยู่จนถึงทุกวันนี้ แบ่งแยกเป็นท้องถิ่นต่างๆ ภาษาก็ใช้ไม่เหมือนกัน เหมือนทางบ้านเราที่มีภาษาถิ่น ที่อิตาลีเวลาพบเจอกัน เมื่อทราบว่ามาจากถิ่นเดียวกันก็จะทำให้เกิดการสนทนาได้อย่างคุ้นเคยกว่า ที่นี่เวลาจะบอกว่ามาจากที่ไหน เขาจะใช้เป็นบอกแคว้น หรือ อำเภอที่อยู่ ไม่บอกจังหวัด เช่นเหมือนคนไทยสมัยก่อนที่เวลาถามว่ามาจากที่ไหน เราก็จะตอบว่า มาจากบางปลาม้า คนบ้านบางกอกใหญ่ จะไม่บอกจังหวัด แต่เดียวนี้ ก็จะบอกกันง่าย เป็นคนที่ไหน ออก สุพรรณ แต่สุพรรณก็กว้างมากมี หลายอำเภอ ตำบล แต่คนที่อิตาลียังคงบอกถิ่นฐานให้แคบลงมา  และการพูดจา จะออกน้ำเสียงค่อนข้างชัดเจน เสียงดังฟังชัด ทำให้คนที่ไม่คุ้นเคย จะคิดว่า ชาวอิตาเลี่ยนเสียงดัง โดยเฉพาะเมื่อเวลาคุยได้รสชาด บางที่เรานึกว่าทะเลาะกันเสียอีก แต่สำหรับเขาถือเป็นเรื่องปกติ เพราะ แต่ละชาติก็มี เอกลักษณ์ของคนชาตินั้นๆ ที่ทำให้คนต่างถิ่นต่างเชื้อชาติ นำมาเปรียบเทียบกับชาติของตน หรือ คนที่เราคุ้นเคยก็เลยทำให้เห็นเป็นเรื่องที่แตกต่างกันไปเลย การออกเสียงสำเนียงในการพูดของชาวอิตาเลี่ยน จะมีการใช้โทนเสียงไม่ต่างจากเรา แต่ เพียงว่าไม่ใช้โทนเสียงเพื่อเปลี่ยนความหมาย แต่จะเป็นโทนเสียงที่เป็นการแสดงออกทางอารมณ์เพื่อให้การสนทนาชัดเจนมากขึ้น ซึ่งเราอาจจะทำให้คิดไปว่าโทนน้ำเสียงดัง และ บางครั้งที่บทสนทนาเข้มข้น อาจจะดูเหมือนทะเลาะกัน แต่ไม่ได้เป็นการทะเลาะ หรือ เถียงกันแต่อย่างใด  และโดยปกติ เวลาทะเลาะกันจริงๆ ชาวอิตาเลี่ยนจะบอกกันซึ่งๆ หน้า พูดกันตรงๆ ไม่มีการนำมาพูดลับหลัง เพราะจะถือว่ามีอะไรเราก็บอกไปอย่างนั้น ตามที่คิด จนทำให้นึกไปถึงพวกมาเฟีย กันไปเลย แต่มาเฟียแบบดูโหดๆ แต่เขามีหลักการและหลักเกณฑ์ มีคลาส และจะเคารพซึ่งกันและกัน ดังนั้นสาวๆ ที่มาที่อิตาลี และไปทางใต้ เช่นเกาะซิซีลี ไม่ต้องกังวลเรื่อง มาเฟียแบบในหนังนะค่ะ เพราะไม่มีอะไรให้เห็นแบบนั้นเลยค่ะ ดังได้ยินพี่คนนึงบอกว่า หน้าโหดๆ แต่เป็นสุภาพบุรุษมาก ไม่เหมือนกับตอนที่เธอติดซีรีส์เกาหลี เดินทางไปเกาหลี เจอหนุ่มๆ หวานๆ หน้าหวานๆ พอเดินชนทีถึงกับกระเด็นและไม่ขอโทษ ผิดคาดไปเลย จากคุณ : PinePh เขียนเมื่อ : 1 เม.ย. 54 17:19:25

ความคิดเห็นที่ 16 ดังนั้นเราควรมารู้จักขนบธรรมเนียม ประเพณี ของชาวอิตาเลี่ยนกันก่อน อย่างแรกก็คือการทักทายค่ะเพราะชาวอิตาเลี่ยนถือว่าการทักทายป็นมารยาทอย่างหนึ่งเชียว คล้ายๆ กับบ้านเราคือไปลา มาไหว้ แต่สำหรับบ้านเราจะใช้กับผู้หลักผู้ใหญ่ ส่วนชาวอิตาเลี่ยน จะทักทายกันหมดไม่ว่าจะเป็นเพื่อนฝูง หรือ คนไม่คุ้นเคย แม้แต่ตามร้านขายของ ซึ่งแม้แต่ผู้ซื้อก็ต้องกล่าวทักทายกับผู้ขาย บ้านเราเห็นจะมีก็เป็นแต่ 7Eleven ที่ทักทายกันตลอดและยังให้เราอิ่มท้องอีกต่างหาก ที่แม้กระทั่งสวัสดีโดยไม่มองหน้ากันด้วยซ้ำ คำทักทาย อย่างง่ายๆ คือ Ciao (เชาว์) ค่ะ คือเจอหน้ากัน ก็ Ciao คล้ายๆ กับ Hello หรือ สวัสดี แบบบ้านเรา แต่ข้อกำหนดมีอยู่ว่า ถ้าทักทายกับผู้ใหญ่หรือคนไม่สนิท ก็ดูอาจจะไม่เหมาะสมเท่าไหร่ เราก็จะใช้คำว่า Salve (ซาเว่ะ) คือ จะใช้ตอนเจอหน้ากัน โดยจะให้เกียรติและเรียกคำนำหน้าชื่อของผู้ที่เราไม่รู้จักและสูงอายุกว่าว่า Signore (ซิณญอเร่) คุณผู้ชาย หรือ Signora (ซิณญอร่า) คุณผู้หญิง และตามด้วยชื่อ หรือแม้กระทั้งผู้สูงอายุจะเรียกคนที่อายุน้อยกว่าจะใช้คำว่า Signorina ซิณญอริน่า เช่นกัน หรือ เข้าไปในร้านค้า ต่างๆ แม้จะเป็นแค่เพื่อนหรือคนไม่สนิทกัน และก่อนจากกันก็จะต้องเอ่ย ว่า ciao คือ bye แต่ถ้าเป็นร้านค้า เราจะเอ่ยว่า Arrivederci (อะริวิเดชิ) คือ see you soon แล้วพบกันใหม่ น่ะเองค่ะ คำว่า A (to a time ahead of now) ri (repeat, repetition in time, later on, again) vedere (to see) ci (“clitici” form referring to us) vederci (to see each other) ส่วนคำว่า Vederci มาจากคำว่า Verdere คือ การเห็น ส่วนการทักทายประจำวัน ที่ใช้กับครอบครัวที่สนิท  หรือ  เพื่อนๆ คนที่รู้จักคุ้นเคยก็คือ จะเห็นได้ว่า การทักทายแม้จะในครอบครัวก็จะต้องกล่าวคำเหล่านี้ทุกครั้งที่ตื่นมากเจอหน้ากัน และก่อนไปนอน หรือ จะออกจากบ้าน ค่ะ และอาจจะตามด้วยการหอมแก้มด้วย คือจะไม่มีการเดินออกไปจากบ้านเฉยๆ โดยไม่บอกกล่าว เริ่มจากตอนเช้าก็จะใช้คำว่า Buon Giorno (บวน โจโน่) ก็คืออรุณสวัสดิ์ เป็นคำทักทายตอนเช้า คำว่า Buon คือ Good หรือ ดี นั่นเองค่ะ คือเป็นวันที่ดีนั่นเองเหมือนการอวยพรตอนเริ่มวันใหม่ค่ะ เราจะใช้คำว่า Buon ได้เกือบทุกโอกาสที่เราจะบอกว่า ดี หรือ อร่อย* Buon Pomeriggio (บวน โปเมอริจโจ่) คือสายยัญสวัสดิ์เป็นการทักทายหลังบ่าย แต่จริงๆ ส่วนใหญ่ เขาจะใช้คำว่า บวนโจโน่ จนถึงตอนก่อน บ่าย สองโมงจนเกือบเย็นๆ คล้ายๆ กับบ้านเราที่มักจะไม่ค่อยได้ยินคำว่าสายยัญสวัสดิ์สักเท่าไหร่ ไม่เหมือนภาษาอังกฤษที่จะ นิยมใช้ good afternoon บ่อยกว่า   Buona Sera (บวนน่า เซร่า) คือ Good Evening ใช้หลัง หกโมงเย็นไปแล้วนะค่ะ จริงๆ ก็ขึ้นอยู่กับฤดูด้วยเพราะช่วงหน้าร้อนที่อิตาลีพระอาทิตย์ จะลาลับขอบฟ้าก็ เกือบสามทุ่ม แต่หน้าหนาวนี่สิ เริ่ม สี่โมงเย็นก็มืดแล้ว Buona Notte (บวนน่า น๊อตเต่)  บอกราตรีสวัสดิ์ คือก่อนนอน หรือ กล่าวลากันตอนค่ำ (บางคนอาจจะสงสัย ว่า เอ ทำไม คำว่า Buon บางครั้งเป็น Buona แต่ก็มีความหมายว่า ดี เหมือนกันเพราะ ภาษา อิตาเลี่ยน ระบุเพศของคำนาม จึงจะเห็นว่าบางคำต่างกันตัวลงท้ายเพราะขึ้นอยู่กับเพศที่ใช้เรียกคำนามนั่นเอง คือ เพศชายจะเป็นคำที่ลงท้ายด้วย o และเพศหญิงลงท้ายด้วย a ) จากคุณ : PinePh เขียนเมื่อ : 1 เม.ย. 54 17:21:05

ความคิดเห็นที่ 17 และไม่ใช่แค่ทักทายกันเฉยๆ ถ้าเป็นเพื่อนหรือคนคุ้นเคย ก็จะมีการเอาแก้มชนแก้มทั้งสองข้างเวลากล่าวทักทายกัน บางครั้งก็ต้องออกเสียง จุ๊บๆ ด้วยนะค่ะไม่ว่าจะเป็นผู้ชายหรือผู้หญิง คือผู้ชายกับผู้ชาย เขาก็ทำกัน แต่ถ้าไม่สนิทกันก็จะเพียงแค่จับมือ และกล่าวชื่อของตัวเอง เช่น Ciao Peter สวัสดีครับผมปีเตอร์ และพอหลังบอกกล่าวว่าเราเป็นใครกันแล้วก็จะต่ออีกว่า Piacere (ปิอาเชเร่) มีความยินดีที่ได้รู้จัก และเรื่องสนุกๆ ของการทักทายคือก่อนจากลา ก็จะจุ๊บแก้ม จุ๊บๆ กันเป็นที่เรียบร้อยแล้วก็อาจจะมีการสนทนากันต่อ และก็ ciao แล้วก็เดินออกจากกันและก็อาจจะมีบทสนทนาเพิ่มต่ออีกนิดคือสรุปว่าก่อนจะจากกันหลังจากบอกลาครั้งแรกก็กินเวลาเป็นเกือบค่อนชั่วโมงทีเดียวเชียวค่ะ แหมคล้ายๆ กับว่าฉันยังเล่าเรื่องไม่จบเลยนะเนี่ยขอเล่าต่ออีก บางครั้งลาจากโต๊ะอาหาร เดินออกมาด้านนอก ก็คุยกันต่อที่ประตู และก็ลากันอีกรอบ เดินมาส่งที่รถก็ยังคุยต่ออีก กว่าจะร่ำลากันได้นานทีเดียวค่ะ  คำทักทายก็มีเท่านี้ แหละค่ะ ที่ง่ายๆ เห็นไหมค่ะว่า ถ้ารู้แค่คำทักทายก็สนุกและไม่เขอะเขินกับคนที่นี่แล้ว เรามาสรุปคำทักทายประจำวันกันนะค่ะ - Salve, Ciao คือ การทักทายเมื่อพบกันในครั้งแรก โดยคำว่า Salve จะใช้ในกรณีกับคนที่ไม่คุ้นเคย ส่วน Ciao จะใช้ทั้งการทักทายและการบอกลาค่ะและอีกคำคือ - Arrivederci (อะริวิเดชิ) แล้วพบกันใหม่นั้นเอง คือคำว่า arrivare แปลว่า มาถึง มาแล้ว vedere แปลว่า เห็น คือจะมาให้เห็นกันอีก ประมาณเนี่ยะนะค่ะ - A presto (อะ เพรสโต้) แล้วพบกันอีกเร็วๆนี้ - Ci vediamo dopo (ชิ เวดิอาโม่ โดโป) แล้วพบกันทีหลัง คือในเวลาอันใกล้ ส่วนในตอนเช้า สาย บ่าย เย็น เรามาจำแค่คำง่ายๆ กันคือ  ที่ ทักกันสามช่วงแค่นั้นพอค่ะ คือ - Buon Giorno (บวน โจโน่) ก็คืออรุณสวัสดิ์ - Buona Sera (บวนน่า เซร่า) คือ Good Evening และ - Buona Notte (บวนน่า น๊อตเต่)  บอก ราตรีสวัสดิ์ ต้องจำนะค่ะ เพราะ ปกติคนที่นี้การทักทายถือ เป็นมารยาทอย่างหนึ่งเชียว ค่ะ แม้กระทั่งถ้า ไปเจอกัน การทักทายก็ต้องทักทุกๆ คน และการจะจากลากัน ไม่ใช่เดินหายไปเฉยๆ นะค่ะ ต้องเขาไปร่ำลากัน ถึงแม้จะมี 10 คนก็ต้องลากันให้ครบนะค่ะ เมื่อมีการทักทาย เราก็ต้องตอบรับด้วย เช่น ถ้ามีบทสนทนาที่ยาวขึ้น ก็จะถามว่าสบายดีไหม A: Buon Giorno (บวน โจโน่) เราก็จะตอบเช่นกันนะค่ะ B: Buon Giorno (บวน โจโน่) A: Come Stai? (โคเม สตา) สบายดีไหม B: Sto Bene, Grazie (สโต เบเน่ กราเซีย) สบายดี ขอบคุณ e tu? (เอะ ตู) แล้วคุณล่ะ ถ้าเป็นคนไม่สนิทหรืออายุมากกว่าให้ใช้คำว่า lei (เลย์) แทนคำว่า tu ใช้ในทุกกรณี คล้ายๆ กับคุณ แบบเป็นทางการและสุภาพ กว่าคำว่า เธอ คำว่า ขอบคุณ Grazie (กราเซีย) จำให้ขึ้นใจนะค่ะ บทสนทนาคร่าวๆ ที่ใช้กันบ่อยๆ ก็มีเท่านี้ก่อน จะได้จำกันง่ายๆ และแม้กระทั่งไปหาเพื่อนหรือคนรู้จักในขณะที่เขาทำงานอยู่ ก่อนจะลาจากก็จะเอ่ยว่า Buon Lavoro คือ ขอให้ทำงานดีๆ คือ บวน ลาโวโร่ และ คำว่าโชคดี คือ Buon Fortuna บวน ฟอตูน่า นั่นเองค่ะ คืออาจจะกล่าวเมื่อร่ำลากัน ขอให้โชคดีนะ จากคุณ : PinePh เขียนเมื่อ : 1 เม.ย. 54 17:24:30

ความคิดเห็นที่ 18 ยังมีเรื่องราวอีกมากมายค่ะ ไว้พบกันใหม่ กระทู้หน้านะค่ะ พอดีมีภาระกิจอื่นด้วยเลยไม่ค่อยได้เขียนมาให้กันนะค่ะ ขอบคุณทุกๆ คนที่ติดตามนะค่ะ อิตาลี เป็นเมืองที่มีเสน่ห์ค่ะ ถ้าได้มาสัมผ้ส เเบบท่องเที่ยวด้วยใจ เหมือนเราเป็นคนของสถานที่นั้นๆ ก็จะทำให้การท่องเที่ยวหรือไปเยือนสถานที่ต่างๆ ได้รับความประทับใจ แตกต่างกันค่ะ ที่หมายถึง ท่องเที่ยวด้วยใจ ก็คล้ายๆ กับว่า ไม่ได้มาเพื่อ shopping หรือ มองๆ ถ่ายๆ ภาพไปเเค่อย่างเดียว แต่ถ้าเราศีกษา เล็กน้อยและสัมผ้สชีวิตความเป็นอยู่ จะทำให้ได้อรรถรสในการท่องเที่ยวที่แตกต่าง กันไปจริงๆ นะค่ะ ลองดูสิค่ะ เหมือนไปอีสานแล้วเราก็ไปกินปลาร้า จกมือ และคุยกับชาวบ้านท้องถิ่น ก็จะทำให้ส้มตำปลาร้ามื้อนั้นอร่อยไปอีกแบบเชียวนะค่ะ ไว้พบกันใหม่ค่ะ จากคุณ : PinePh เขียนเมื่อ : 1 เม.ย. 54 17:32:18

ความคิดเห็นที่ 19 เอาเพลงมาฝากค่ะ ชอบเพลงนี้ และชนะเลิศการประกวด sanremo ปีที่แล้ว จากคุณ : PinePh เขียนเมื่อ : 1 เม.ย. 54 17:59:01

ความคิดเห็นที่ 20 ขอบคุณค่ะ ติดตามอ่านมาหลายตอนแล้ว น่าสนใจ และได้ความรู้ดีค่ะ จากคุณ : abstract เขียนเมื่อ : 1 เม.ย. 54 18:46:44

ความคิดเห็นที่ 21 ขอบคุณค่ะ จากคุณ : SOYU_K เขียนเมื่อ : 1 เม.ย. 54 19:05:08

ความคิดเห็นที่ 22 ขอบคุณมากคะสำหรับความรู้  เพิ่งไปอ่านหนังสือคุณ clear ice     เก่าๆเกี่ยวกับ capri ก็หลงรักที่นี่่มากๆ ยิ่งมาอ่านรีวิวนี้ ก็ยิ่งหลงรัก     ประเทศนี้มากๆเลยคะ จากคุณ : ataya เขียนเมื่อ : 1 เม.ย. 54 19:39:42

ความคิดเห็นที่ 23 หลายกระทู้ก่อน เปิดไม่ได้เลยครับ น่าเสียดาย จากคุณ : อาตี๋อินเทอร์เน็ต เขียนเมื่อ : 1 เม.ย. 54 19:57:11

ความคิดเห็นที่ 24 ขอบคุณค่ะ ติดตามอ่านอยู่นะคะ จากคุณ : Red-Rose-14Feb เขียนเมื่อ : 1 เม.ย. 54 20:12:41

ความคิดเห็นที่ 25 เยี่ยมมากค่ะ ขอบคุณมากนะคะ เป็นเข้า เครื่องตัวเองก่อน ไม่เคยคิดจะสนใจ แต่เหตุการณ์บังคับให้ต้องสนใจซะแล้ว ^^ จากคุณ : +G@To+ เขียนเมื่อ : 1 เม.ย. 54 23:45:40

ความคิดเห็นที่ 26 ขอบคุณสำหรับเกร็ดความรู้ดีดีครับ จากคุณ : ม่วงมหากาฬ เขียนเมื่อ : 2 เม.ย. 54 07:49:30

ความคิดเห็นที่ 27 วันนี้มีกิฟท์มาให้แทนคำขอบคุณสำหรับข้อมูลรายละเอียดพร้อมรูปสวยๆนะคะ   จากคุณ : สาวหน้าใส เขียนเมื่อ : 2 เม.ย. 54 10:36:18

ความคิดเห็นที่ 28 ลองพิมพ์เลขกระทู้และ ค้นหาใน google นะค่ะ เพราะไม่เเน่ใจว่าทำไม่ link เข้าไม่ได้ แต่ถ้าพิมพ์เลขกระทู้ ได้เเน่นอนค่ะ ได้ไม่ได้บอกด้วยค่ะ ขอบคุณ สำหรับทุกๆ คนนะค่ะ คุณสาวหน้าใส น่ารักจริงๆ และทุกๆ คนค่ะ จากคุณ : PinePh เขียนเมื่อ : 2 เม.ย. 54 11:35:37

ความคิดเห็นที่ 29 เข้ามากรี๊ดหนุ่มอิตาลี หล่อที่สุดในโลกเลย 555 จากคุณ : หนูกิตหอ 4 ชาย เขียนเมื่อ : 2 เม.ย. 54 18:21:08

ความคิดเห็นที่ 30 1. รู้อะไรดีๆ ที่อิตาลี // ท่องเที่ยวอิตาลี่ Trip to Italy http://topicstock.pantip.com/blueplanet/topicstock/2011/01/E10132709/E10132709.html 2.  รู้อะไรดีๆ ที่อิตาลี // ท่องเที่ยวอิตาลี่ Trip to Italy ต่อค่ะ ตอนอาหารการกิน http://topicstock.pantip.com/blueplanet/topicstock/2011/02/E10224514/E10224514.html 3. รู้อะไรดีๆ ที่อิตาลี // ท่องเที่ยวอิตาลี่ Trip to Italy P.3 ตอนอาหารกลางวัน มากินพิซซ่ากัน http://topicstock.pantip.com/blueplanet/topicstock/2011/02/E10228637/E10228637.html 4. รู้อะไรดีๆ ที่อิตาลี // ท่องเที่ยวอิตาลี่ Trip to Italy P.3/2 ตอนอาหารกลางวัน ต่อค่ะ http://topicstock.pantip.com/blueplanet/topicstock/2011/02/E10231806/E10231806.html 5. รู้อะไรดีๆ ที่อิตาลี // ท่องเที่ยวอิตาลี่ Trip to Italy P.4 ตอนอาหารมื้อค่ำ http://topicstock.pantip.com/blueplanet/topicstock/2011/02/E10235055/E10235055.html 6. รู้อะไรดีๆ ที่อิตาลี // ท่องเที่ยวอิตาลี่ Trip to Italy P.4/1 ตอนอาหารมื้อค่ำ พาสต้า http://topicstock.pantip.com/blueplanet/topicstock/2011/02/E10241300/E10241300.html 7. "ITALIAN WANDER" รู้อะไรดีๆ ที่อิตาลี // ท่องเที่ยวอิตาลี่ Trip to Italy P.5 ตอนอาหารมื้อค่ำ จานรอง/// http://topicstock.pantip.com/blueplanet/topicstock/2011/02/E10272545/E10272545.html 8. /// รู้อะไรดีๆ ที่อิตาลี // ท่องเที่ยวอิตาลี่ Trip to Italy P.6 ตอนอาหารข้างจาน Contorno "ITALIAN WANDER" http://topicstock.pantip.com/blueplanet/topicstock/2011/02/E10277162/E10277162.html 9.  /// รู้อะไรดีๆ ที่อิตาลี // ท่องเที่ยวอิตาลี่ Trip to Italy P.7 ตอนอาหารหวานและเครื่องดื่ม "ITALIAN WANDER" http://topicstock.pantip.com/blueplanet/topicstock/2011/02/E10279774/E10279774.html 10.  /// รู้อะไรดีๆ ที่อิตาลี // ท่องเที่ยวอิตาลี่ Trip to Italy P.8 VINO วีโน่ ไวน์ "ITALIAN WANDER" http://topicstock.pantip.com/blueplanet/topicstock/2011/03/E10293540/E10293540.html 11.  /// รู้อะไรดีๆ ที่อิตาลี // ท่องเที่ยวอิตาลี่ Trip to Italy P.8.1 VINO วีโน่ ไวน์ "ITALIAN WANDER" http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E10306343/E10306343.html#13 จากคุณ : PinePh เขียนเมื่อ : วันจักรี 54 15:26:35

ความคิดเห็นที่ 31 ตามมาให้กีบ + กดเก็บเข้าคลังค่ะ   จากคุณ : ป้าหนอน เขียนเมื่อ : 10 ก.ค. 54 21:14:57

ความคิดเห็นที่ 32 ขอบคุณนะคะ อ่านแล้วได้แก้ไขความเข้าใจผิดเกี่ยวกับคนอิตาลีได้เยอะเลยค่ะ  แถมยังหลงรักเมืองนี้มากขึ้นจากเดิมที่ชอบมากอยู่แล้วด้วย จากคุณ : OF^_^ (Official OF love) เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 54 14:31:08