ความคิดเห็นที่ 1 มองออกไปนอกเต็นท์ยังมีแสงสว่างไม่มากนัก  พอๆ กับนักท่องเที่ยวที่ยังไม่ค่อยมีใครตื่นขึ้นมาในยามนี้ จากคุณ : noiwanwannoi เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 54 10:49:37

ความคิดเห็นที่ 2 นั่งงัวเงียอยู่ในเต็นท์สักพักแล้วก็รีบสบัดกายให้คลายง่วง หยิบกล้องขึ้นมาถ่ายภาพสองสามรูปเพื่อเป็นการเทสกล้อง จากคุณ : noiwanwannoi เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 54 10:55:34

ความคิดเห็นที่ 3 พอสมองเริ่มสั่งการ ความง่วงเริ่มสลายไป ก็ออกจากเต็นท์เพื่อเริ่มทำหน้าที่ ก่อนอื่นขอไปทำธุระส่วนตัวก่อนแต่ก็ถือกล้องติดไปด้วย เพื่อถ่ายบรรยากาศโดยรอบ  อันดับแรกเลยก็ถ่ายภาพที่ซุกหัวนอนของพวกเราเมื่อคืน จากคุณ : noiwanwannoi เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 54 10:59:07

ความคิดเห็นที่ 4 เดินขึ้นเนินเพื่อมุ่งหน้าไปยังห้องน้ำที่อยู่อีกฝั่ง แอบถ่ายเต็นท์ข้างๆ ที่ตั้งกันอยู่อย่างหนาแน่น จากคุณ : noiwanwannoi เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 54 11:01:46

ความคิดเห็นที่ 5  ตามมาดูแล้วค่ะ จากคุณ : กบจูเนียร์ เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 54 11:07:10

ความคิดเห็นที่ 6 ท้องฟ้าเริ่มสว่างมากขึ้นหลังจากทำภารกิจส่วนตัวเสร็จ ผู้คนเริ่มทยอยกันตื่นนอนเพื่อมาชมพระอาทิตย์ขึ้นยามเช้า จากคุณ : noiwanwannoi เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 54 11:07:12

ความคิดเห็นที่ 7 อรุณสวัสดิ์ครับคุณกบจูเนียร์ ................................................................................................. รถจอดกันเต็มไปหมดบริเวณนี้ จากคุณ : noiwanwannoi เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 54 11:08:51

ความคิดเห็นที่ 8 พอเริ่มมีแสงสว่างบรรยากาศโดยรอบก็เริ่มเด่นชัดขึ้น จากคุณ : noiwanwannoi เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 54 11:11:27

ความคิดเห็นที่ 9 หลายๆ คนเริ่มขยับเขยื้อน  บางก็หยิบกล้องมาถ่ายรูป บางก็ยื่นนิ่งปล่อยอารมณ์ให้ล่องลอยไปกับภาพที่เห็นอยู่เบื้องหน้า จากคุณ : noiwanwannoi เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 54 11:14:42

ความคิดเห็นที่ 10 ไม่นานพระอาทิตย์ก็เริ่มโผล่พ้นยอดเขามาให้เราได้ยลโฉม จากคุณ : noiwanwannoi เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 54 11:16:38

ความคิดเห็นที่ 11 เมฆแผ่นหนายังคงลอยปกคลุมอยู่เต็มท้องฟ้า เหลือช่องว่างให้พระอาทิตย์ได้ส่องแสงบางเพียงเล็กน้อย  แต่ก็เพียงพอให้ความสวยงามแก่ภาพที่ได้เห็น จากคุณ : noiwanwannoi เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 54 11:24:20

ความคิดเห็นที่ 12 บรรยากาศดีๆ แถมมีหลวงพ่อมารับบิณฑบาตรให้ความเป็นสิริมงคลแก่นักท่องเที่ยวอีกด้วย จากคุณ : noiwanwannoi เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 54 11:26:34

ความคิดเห็นที่ 13 แม่เมย น่าไป ปาดแล้วดูต่อ ^_^ จากคุณ : ใสบัว เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 54 11:27:16

ความคิดเห็นที่ 14 กาน้ำกับเตาแก็สเตรียมพร้อมปฎิบัติหน้าที่ จากคุณ : noiwanwannoi เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 54 11:28:51

ความคิดเห็นที่ 15 ยินดีต้อนรับครับคุณใสบัว ................................................................................................. เมื่อพระอาทิตย์ลอยสูงขึ้นเข้าไปในม่านเมฆที่หนาทึบ สีสันท้องฟ้าก็เลยแปลกตาแบบนี้ จากคุณ : noiwanwannoi เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 54 11:34:13

ความคิดเห็นที่ 16 หลังจากดื่มกาแฟกันเสร็จ ก็ทยอยกันไปอาบน้ำแต่งตัวเพื่อเตรียมตัวไปกินข้าวกันที่ร้านอาหารสวัสดิการ  วันนี้กะว่าจะออกจาก อช.ตากสินมหาราช กันเร็วสักหน่อย  เพราะต้องเดินทางไปต่อกันที่ อช.แม่เมย และระหว่างทางยังต้องท่องเที่ยวไปตามสถานที่ต่างๆ อีก จากคุณ : noiwanwannoi เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 54 11:42:37

ความคิดเห็นที่ 17 เมื่อทุกอย่างพร้อมพวกเราก็ออกเดินทางจาก อช.ตากสินมหาราช ในเวลาประมาณสิบโมงเช้า จากคุณ : noiwanwannoi เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 54 11:44:57

ความคิดเห็นที่ 18 จุดแรกที่พวกเราจะแวะคือ ตลาดมูเซอ แต่ตลาดมูเซอเดี๋ยวนี้มีทั้งตลาดใหม่และเก่า  ถ้ามุ่งหน้าไปทาง อ.แม่สอด ตลาดมูเซอใหม่จะอยู่ถึงก่อนตลาดมูเซอเก่าประมาณหนึ่งกิโลเมตรทางซ้ายมือ  ที่นี่มีร้านค้าไม่หลากหลายเท่าตลาดมูเซอเก่า ผักผลไม้ก็น้อยกว่า แต่ที่นี่จะมีร้านค้าขายเสื้อผ้าชนเผ่าให้นักท่องเที่ยวได้เลือกซื้อ จากคุณ : noiwanwannoi เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 54 11:49:54

ความคิดเห็นที่ 19 กระเป๋าใบเล็กๆ สีสันสวยงาม จากคุณ : noiwanwannoi เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 54 11:51:12

ความคิดเห็นที่ 20 วิถีชีวิตชาวเขา จากคุณ : noiwanwannoi เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 54 11:57:17

ความคิดเห็นที่ 21 แวะที่ตลาดมูเซอใหม่ไม่นาน จากนั้นก็เดินทางต่อมุ่งหน้าสู่ อ.แม่สอด แต่ก่อนถึง อ.แม่สอด ประมาณสิบกว่ากิโลเมตร ไปไหว้ขอพรจาก "ขุนพระวอ" กันก่อนเพื่อความเป็นมงคล จากคุณ : noiwanwannoi เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 54 12:04:10

ความคิดเห็นที่ 22 ประวัติความเป็นมาของ เจ้าพ่อพะวอ  เล่ากันว่าท่านเป็นนักรบชาวกะเหรี่ยง สมเด็จพระนเรศวรมหาราชทรงแต่งตั้งให้เป็นนายด่านอยู่ที่ด่านแม่ละเมา เพื่อคอยป้องกันข้าศึกมิให้ข้ามเขามาได้ จากคุณ : noiwanwannoi เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 54 12:06:02

ความคิดเห็นที่ 23 ข้างๆ ศาลเจ้าพ่อพระวอ ยังมีศาลหลวงพ่อทันใจประดิษฐานอยู่บนเนินเขาใกล้ๆ กันอีกด้วย จากคุณ : noiwanwannoi เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 54 12:09:13

ความคิดเห็นที่ 24 องค์หลวงพ่อทันใจ จากคุณ : noiwanwannoi เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 54 12:10:15

ความคิดเห็นที่ 25 ตุ๊กตาช้าง-ม้า ของบวงสรวงเจ้าพ่อทันใจ จากคุณ : noiwanwannoi เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 54 12:11:45

ความคิดเห็นที่ 26 เมื่อสักการะ เจ้าพ่อพะวอ และหลวงพ่อทันใจ เสร็จ พวกเราก็มุ่งหน้าไปยัง อ.แม่สอด เพื่อหาข้าวเที่ยงกินกัน  มื้อนี้มาสรุปกันได้ที่ ร้านผัดไทยแม่สอด จากคุณ : noiwanwannoi เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 54 12:14:05

ความคิดเห็นที่ 27 เมนูอาหารต่างๆ จากคุณ : noiwanwannoi เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 54 12:14:50

ความคิดเห็นที่ 28 กินอิ่มก็ต้องเดินย่อยเสียหน่อย ขับรถไปดูสินค้าที่ตลาดริมเมย บริเวณสะพานมิตรภาพไทย-พม่า อ.แม่สอด จากคุณ : noiwanwannoi เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 54 12:16:25

ความคิดเห็นที่ 29 สุดประจิมที่ริมเมย จากคุณ : noiwanwannoi เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 54 12:17:14

ความคิดเห็นที่ 30 สินค้าที่ที่ขายอยู่ในตลาดริมเมย ส่วนใหญ่จะเป็นสินค้าจำพวกเครื่องใช้ไฟฟ้า  อาหารและขนมจากประเทศจีนและพม่า  มีอัญมณีและเครื่องประดับต่างๆ  งานแกะสลักไม้ และอื่นๆ อีกมากมาย จากคุณ : noiwanwannoi เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 54 12:19:50

ความคิดเห็นที่ 31 จากตลาดริมเมย พวกเราก็มุ่งหน้าไปสัมผัสศิลปะวัฒนธรรมของพม่าที่ วัดไทยวัฒนาราม จากคุณ : noiwanwannoi เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 54 12:22:10

ความคิดเห็นที่ 32 วัดไทยวัฒนาราม  เดิมชื่อ วัดแม่ตาวเงี้ยว หรือ วัดไทยใหญ่ ตั้งอยู่หมู่ 1 ตำบลท่าสายลวด ห่างจากตัวอำเภอแม่สอดไปประมาณ 5 กิโลเมตร จากคุณ : noiwanwannoi เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 54 12:23:40

ความคิดเห็นที่ 33 เป็นวัดในพระพุทธศาสนานิกายมหายานของชาวไทยใหญ่ ประเพณี ศิลปวัฒนธรรม พิธีกรรมต่างๆ ได้รับอิทธิพลมาจากสหภาพพม่า  สร้างเมื่อ พ.ศ. 2400 โดยนายมุ้ง เป็นชาวพม่ารัฐฉาน ที่อพยพครอบครัวมาอาศัยอยู่ที่อำเภอแม่สอด และได้เป็นผู้ใหญ่บ้านคนแรกของหมู่บ้านแม่ตาว ต่อมาได้รับพระราชทานนามว่า หมื่นอาจคำแหงหาญ จากคุณ : noiwanwannoi เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 54 12:26:08

ความคิดเห็นที่ 34 ในปี พ.ศ. 2500 ทางกระทรวงศึกษาธิการได้ประกาศให้เป็นวัดพระพุทธศาสนาในสังกัดกรมศาสนา จากคุณ : noiwanwannoi เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 54 12:27:20

ความคิดเห็นที่ 35 ภายในวัดมี  พระพุทธมหามุณี  ซึ่งเป็นพระพุทธรูปที่จำลองมาจากพระพุทธมหามุณีอันศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองของชาวเมืองมัณฑเลย์ สหภาพพม่า เป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวจังหวัดตากศรัทธาเลื่อมใสกันมาก จากคุณ : noiwanwannoi เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 54 12:29:58

ความคิดเห็นที่ 36 พระพุทธรูปหินอ่อนที่อยู่รอบๆ องค์พระใหญ่ จากคุณ : noiwanwannoi เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 54 12:31:22

ความคิดเห็นที่ 37 สวัสดีครับ    ตามมาแม่เมยครับ รูปสวยครับ  บรรยากาศแบบนี้ ไม่มีคำว่าผิดหวัง   จริงๆๆครับ. จากคุณ : ชายเอ ทุ่งรังสิต เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 54 12:32:31

ความคิดเห็นที่ 38 นอกจาก พระพุทธมหามุนี แล้วยังมีพระพุทธไสยาสน์องค์ใหญ่ประดิษฐานอยู่ด้านหลังวัดอีกด้วย จากคุณ : noiwanwannoi เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 54 12:33:00

ความคิดเห็นที่ 39 เที่ยงกว่าแล้ว พักหม่ำไรยังคะ . จากคุณ : กบจูเนียร์ เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 54 12:35:33

ความคิดเห็นที่ 40 ยินดีต้อนรับครับคุณ ชายเอ ทุ่งรังสิต ................................................................................................. เป็นพระพุทธรูปที่สวยงามจริงๆ จากคุณ : noiwanwannoi เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 54 12:36:30

ความคิดเห็นที่ 41 ลืมเสริฟน้ำด้วยอ่ะคะ น้ำส้มเย็น ๆ นะคะ จากคุณ : กบจูเนียร์ เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 54 12:38:17

ความคิดเห็นที่ 42   คุณ : กบจูเนีย   ผมขอแก้ว 1ได้ปะ... จากคุณ : ชายเอ ทุ่งรังสิต เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 54 12:39:35

ความคิดเห็นที่ 43 กำลังติดพันอยู่เดี๋ยวกลัวรีวิวไม่เสร็จ  ว่าจะไปหาข้าวทานอยู่เหมือนกันครับ คุณกบจูเนียร์ล่ะกินข้าวหรือยัง ................................................................................................. จากนั้นก็ไปทำบุญทำทานที่วิหารแห่งนี้  ซึ่งจะมีหุ่นพระพุทธและเทพเจ้าวิ่งมาตามสายพาน มาให้นักท่องเที่ยวได้ทำบุญกัน จากคุณ : noiwanwannoi เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 54 12:40:28

ความคิดเห็นที่ 44 ขอบคุณหลายๆ ครับคุณกบ  อย่าลืมฝากให้คุณชายเอ ด้วยคนนะครับ ................................................................................................. อิ่มบุญมั้ยครับคุณผู้หญิง จากคุณ : noiwanwannoi เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 54 12:42:28

ความคิดเห็นที่ 45 หูยย มีคนหิวน้ำเยอะงั้นต้องจัดหนักล่ะคะ แก้วใหญ่  ๆ เลย ขอญาติ จขกท แปะรูปนะคะ จากคุณ : กบจูเนียร์ เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 54 12:43:25

ความคิดเห็นที่ 46 พระพุทธรูปที่วิหารแห่งนี้ทรงเครื่องด้วยนะครับ จากคุณ : noiwanwannoi เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 54 12:43:44

ความคิดเห็นที่ 47 โอ้แม่เจ้า..น่ากินจัง  ขอบคุณอีกครั้งนะครับ ................................................................................................. จากนั้นก็ขึ้นไปที่ ศาลาการเปรียญ ขึ้นไปชมพระพุทธรูปหยกขาวที่ประดิษฐานอยู่ด้านใน จากคุณ : noiwanwannoi เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 54 12:47:03

ความคิดเห็นที่ 48 เมื่อได้เวลาอันเป็นมงคลฤกษ์  พวกเราก็ออกเดินทางกันต่อจุดหมายปลายทางอยู่ที่ อช.แม่เมย อ.ท่าสองยาง จ.ตาก  โดยใช้เส้นทางถนนสาย 105 ลัดเลาะไปตามตะเข็บชายแดน  ซึ่งเส้นทางนี้จะต้องผ่าน ศูนย์อพยพของผู้ลี้ภัยชาวพม่าหรือไทยใหญ่ (ไม่รู้ว่าเรียกอย่างนี้ถูกหรือปล่าว ถ้าไม่ถูกต้องก็ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะครับ) ศูนย์ฯ นี้มีอาณาเขตหลายกิโเลเมตร มีการทำรั้วรอบขอบชิดให้เป็นสัดเป็นส่วน  ระหว่างเส้นทางจะมีจุดตรวจรักษาความปลอดภัยจากเจ้าหน้าที่ทหารและตำรวจตระเวณชายแดน  คอยดูแลอยู่เป็นระยะ บ้านเรือนสิ่งปลูกสร้างถูกทำขึ้นอย่างง่ายๆ แออัดยัดเยียดอยู่ในพื้นที่ที่กำหนดไว้ให้  หลายหลังสร้างอยู่บนเนินเขาที่สูงขึ้นไปจากระดับพื้นดินมากพอสมควร แก้ไขเมื่อ 26 ก.พ. 54 12:55:25 จากคุณ : noiwanwannoi เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 54 12:54:39

ความคิดเห็นที่ 49 เห็นแล้วก็น่าสงสารนะครับ จากคุณ : noiwanwannoi เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 54 12:57:24

ความคิดเห็นที่ 50 พวกเราออกจาก อ.แม่สอด เพื่อมุ่งหน้ามายัง อช.แม่เมย ในเวลาประมาณบ่ายสามโมง หลังจากที่เตร็ดเตร่ถ่ายภาพต่างๆ อย่างจุใจ   ระยะทางประมาณร้อยยี่สิบกว่ากิโลเมตรจาก อ.แม่สอด สู่ อช.แม่เมย ระยะเวลาที่ใช้ในการเดินทางประมาณสองชั่วโมง  และแล้วพวกเราก็มาถึงปากทางเข้า อช.แม่เมย ในเวลาประมาณห้าโมงเย็น   เมื่อขับรถเลี้ยวขวาเข้าสู่ถนนที่มุ่งหน้าสู่ อช.แม่เมย  ระหว่างทางจะพบกับ จุดชมวิวแม่เมย ซึ่งเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกที่สวยงามของที่นี่ จากคุณ : noiwanwannoi เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 54 13:04:27

ความคิดเห็นที่ 51 เห็นทิวภูเขาซ้อนกันเป็นชั้น  ด้านล่างยังเห็นวัดพระธาตุ(ไม่รู้จักชื่อครับ) ตั้งเด่นเป็นสง่าอีกด้วย จากคุณ : noiwanwannoi เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 54 13:08:28

ความคิดเห็นที่ 52 นอกจากนั้นยังสามารถเห็น แม่น้ำเมย ซึ่งไหลกั้นเป็นพรมแดนธรรมชาติที่กั้นกลางระหว่างประเทศไทยและพม่าได้อย่างชัดถนัดตาอีกด้วยนะครับ จากคุณ : noiwanwannoi เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 54 13:09:50

ความคิดเห็นที่ 53 มีเก้าอี้ไม้ไว้ให้นักท่องเที่ยวได้ชื่นชมธรรมชาติอย่างเต็มที่ดั่งเช่นคุณผู้หญิงของผมแบบนี้ จากคุณ : noiwanwannoi เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 54 13:12:01

ความคิดเห็นที่ 54 พระอาทิตย์เริ่มลดระดับลงมาเรื่อยๆ แล้ว  แสงแดดแรงกล้ามากๆ จนไม่กล้าที่จะถ่ายรูปพระอาทิตย์ตรงๆ ต้องหาที่แอบบังเลนส์ของกล้องไว้นิดหน่อยกลัวกล้องจะเสีย จากคุณ : noiwanwannoi เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 54 13:13:54

ความคิดเห็นที่ 55 พวกเราอยู่บนนี้กันนานพอสมควร  วิวทิวทัศน์ที่ได้เห็นสวยงามจนลืมความเหนื่อยล้าจากการเดินทางได้เป็นอย่างดี จากคุณ : noiwanwannoi เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 54 13:16:18

ความคิดเห็นที่ 56 ภาพสุดท้ายที่จุดชมวิวแม่น้ำเมย ก่อนจะเดินทางต่อไปยัง อช.แม่เมย ซึ่งต้องไต่ระดับความสูงขึ้นไปเรื่อยๆ อีกประมาณสิบกว่ากิโลเมตร จากคุณ : noiwanwannoi เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 54 13:20:51

ความคิดเห็นที่ 57 มารอดูไข่แดง จะมีมั๊ยน้า จากคุณ : กบจูเนียร์ เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 54 13:43:38

ความคิดเห็นที่ 58 เห็นภาพของศูนย์อพยพ น่าสงสารมากครับ รอชมทะเลหมอกนะครับ จากคุณ : ม่วงมหากาฬ เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 54 13:46:01

ความคิดเห็นที่ 59 ขอไปเที่ยวด้วยคนครับ ภาพสวยดีครับ จากคุณ : mOnsTerFixz เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 54 14:20:00

ความคิดเห็นที่ 60 กลับมารีวิวต่อแล้ว -คุณกบจูเนียร์  พระอาทิตย์ลูกกลมสวยๆ ทริปนี้ไม่มีจริงๆ ครับ ต้องขอประทานอภัยเป็นอย่างสูง ไว้ทริปหน้านะครับ -คูณม่วงมหากาฬ  ทะเลหมอกนี่แหละครับที่เป็นสาเหตุของชื่อรีวิวนี้ เดี๋ยวจะค่อยๆ เล่าให้ฟัง -คุณmOnsTerFixz  ขอบคุณมากนะครับ ................................................................................................. หลังจากที่ขึ้นไปถึง อช.แม่เมย ชำระเงินค่าเข้าและกางเต็นท์เบ็ดเสร็จ คน 3 คน กับรถ 1 คัน เป็นเงิน 180  บาท  จากนั้นพวกเราก็เลือกหาทำเลตามใจชอบเพราะวันนั้นไม่ค่อยมีนักท่องเที่ยวมากันมากนัก  รู้สึกว่าจะมีกลุ่มของพวกเรา กับคู่รักอีกหนึ่งคู่เท่านั้นเอง  รู้สึกดีจังเหมือนภูเขาป่าไม้แห่งนี้มีแค่พวกเราเป็นเจ้าของ  บรรยากาศเงียบสงบจนแค่ไอยังรู้สึกว่ามันดังเกินไปแน่ะ เมื่อหาทำเลกางเต็นท์ได้แล้ว  ก็จัดแจงกับที่หลับที่นอนก่อนที่จะทยอยกันไปอาบน้ำตั้งแต่หัวค่ำ เพราะที่นี่อากาศค่อนข้างเย็นกว่าที่ อช.ตากสินมหาราช  มีลมพัดเย็นๆ ตลอดเวลา  ถ้าอาบน้ำค่ำกว่านี้สงสัยจะเป็นหวัดกันแน่  หลังจากอาบน้ำชำระร่างกายก็เป็นที่เรียบร้อยก็ถึงเวลาเตรียมอาหาร  มื้อนี้ไม่ได้ทำอะไรเลยเพราะซื้อไก่ย่าง ข้าวเหนียว น้ำพริกหนุ่ม แคบหมู มากินกัน  ส่วนรูปภาพก็ไม่ได้ถ่ายมาให้ได้ชมเพราะแบตฯ หมดอีกตามเคยต้องไปชาร์ตที่เรือนพักเจ้าหน้าที่ที่อยู่ไม่ไกล (สงสัยต้องไปซื้อแบตฯ เพิ่มอีกก้อนแน่ๆ เลยเรา)   จากนั้นพวกเราก็เข้านอนตั้งแต่ไก่โห่เพราะความเหนื่อยล้าบวกกับการที่พรุ่งนี้จะต้องตื่นแต่เช้ามืดเพื่อเดินทางขึ้นไปชมพระอาทิตย์ขึ้นและทะเลหมอกที่พวกเราคาดหวังเอาไว้มากที่จะได้กลับมาสัมผัสอีกครั้ง   เอาภาพทะเลหมอกที่ได้พบเจอเมื่อ 2 ปีก่อนมาให้ได้ชมกันก่อน  นี่ขนาดถ่ายจากกล้องวีดีโอนะครับยังเห็นชัดขนาดนี้ แก้ไขเมื่อ 26 ก.พ. 54 14:41:56 จากคุณ : noiwanwannoi เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 54 14:40:40

ความคิดเห็นที่ 61 หูยย ไม่แพงนะคะ กางเต็นท์ + รถ 180 บางที่ก็ 200 up แล้วพวกห้องน้ำ ความปลอดภัยเนี่ยโอเคดีนะคะ จากคุณ : กบจูเนียร์ เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 54 14:46:18

ความคิดเห็นที่ 62 อากาศเมื่อคืนค่อนข้างหนาว ลมพัดมากระทบกับเต็นท์ของพวกเราเสียงดังตลอดเวลา อาจจะเป็นเพราะพวกเราเลือกทำเลกางเต็นท์ที่เป็นที่โล่งกลางสนามหญ้าหน้าสำนักงานก็เป็นได้ จึงไม่มีต้นไม้หรือสิ่งใดมาขวางกั้นทางลม  มีคนเคยบอกว่าถ้าลมพัดตลอดเวลาจะทำให้หมอกมันฟุ้งทำให้เริ่มกังวลว่าวันนี้จะมีทะเลหมอกสวยๆ ให้พวกเราได้เห็นกันมั้ย   พวกเราตื่นขึ้นมาตามเสียงนาฬิกาปลุกในเวลาประมาณตีห้าครึ่ง  ล้างหน้าแปรงฟันไม่อาบน้ำ  จากนั้นก็ขึ้นรถขับมุ่งหน้าสู่จุดชมวิวที่สูงสุดของ อช.แม่เมย นั่นก็คือ ม่อนกิ่วลม ระยะทางจากที่ทำการอุทยานฯ ประมาณ 12-13 กิโลเมตร  ใช้เวลาในการขับรถขไต่ระดับขึ้นไปในครั้งนี้ประมาณเกือบสี่สิบห้านาทีซึ่งถือว่านานมาก  สังเกตได้ว่าพื้นถนนทรุดโทรมเป็นหลุมเป็นบ่อและเสียหายมากกว่าเมื่อครั้งที่ผมมาเมื่อ 2 ปีที่แล้วค่อนข้างมาก นี่อาจเป็นอีกหนึ่งสาเหตุหรือปล่าวน้าที่ทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวที่เข้ามาเยี่ยมเยือนอุทยานฯ แห่งนี้ลดลงไปเป็นจำนวนมาก   เมื่อพวกเราถึง จุดชมวิวม่อนกิ่วลม ไม่มีนักท่องเที่ยวเลยสักคน มืดและเงียบเชียบ มีเพียงแสงไฟจากกระบอกไฟฉายของพวกเราสองสามดวงกับแสงอาทิตย์ที่เริ่มจะทอแสงขึ้นมาบ้างเล็กน้อย  พวกเราเดินตามทางเพื่อขึ้นไปยังจุดชมวิว  กางเสื่อและวางสัมภาระต่างๆ อย่างไม่เร่งรีบเพราะตะวันคงยังไม่โผล่ขอบฟ้ามาในเวลาอันใกล้นี้แน่ๆ   จากนั้นเมื่อเตรียมทุกอย่างเรียบร้อยก็ถึงเวลาที่จะบันทึกความประทับใจเก็บเอาไว้สักที   มองไปรอบๆ บริเวณหลายสิ่งยังคงเหมือนเดิม ไม่ว่าจะเป็นรูปทรงของธรรมชาติ  รูปแบบของจุดชมวิว  รวมทั้งต้นไม้ที่เป็นสัญลักษณ์ของที่จุดชมวิวแห่งนี้ ยังคงเดิมไม่เปลี่ยนแปลง  แต่ต่างกันแค่วันนี้มีเพียงเราสามคนเท่านั้นที่ได้มาดื่มด่ำกับความเป็นธรรมชาติ ณ ที่แห่งนี้ แก้ไขเมื่อ 26 ก.พ. 54 15:14:03 จากคุณ : noiwanwannoi เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 54 15:13:07

ความคิดเห็นที่ 63 ... จากคุณ : noiwanwannoi เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 54 15:14:27

ความคิดเห็นที่ 64 ตอนนี้ผมว่า อช.ส่วนใหญ่พัฒนาการให้บริการแก่นักท่องเที่ยวได้ดีขึ้นกว่าก่อนมาเลยนะครับ ผมคิดว่าสาเหตุก็เพราะ ณ ปัจจุบัน รายได้ส่วนใหญ่ของอุทยานฯ นั้นมาจากการท่องเที่ยวเป็นหลัก ทำให้อุทยานฯ ต่างๆ ต้องพยายามที่หามาตรการดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาเยี่ยมชมอยู่เรื่อยๆ มิให้ขาด ห้องสุขาและอาบน้ำเดี๋ยวนี้สะอาดและมีการเพิ่มจำนวนให้พอแก่ความต้องการ  บางที่ยังแอบมีเครื่องทำน้ำอุ่นให้ได้ใช้กันอีก  แถมเรื่องความปลอดภัยนี่ถือว่าเป็นมูลเหตุสำคัญที่ในการที่นักท่องเที่ยวเลือกไปพักผ่อน  นอกเหนือจากทัศนียภาพที่สวยที่สุดที่ไม่สามารถเห็นได้จากรีสอร์ทเอกชนทั่วไป สบายใจได้เลยนะครับ  คุณกบจูเนียร์  (ทั้งหมดเป็นความคิดเห็นส่วนตัวนะครับ อาจจะไม่ตรงใจกับใครบางคนก็ขออภัยด้วย เขียนเผื่อไว้ก่อน...นานาจิตตัง...) ................................................................................................ คุณผู้หญิงนั่งง่วง รอเวลาพระอาทิตย์ขึ้น ดังนั้นก็เลยใช้ให้นั่งชงกาแฟให้เลย จากคุณ : noiwanwannoi เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 54 15:27:03

ความคิดเห็นที่ 65 พระอาทิตย์เริ่มจะโผล่พ้นขอบฟ้าแล้วในอีกไม่กี่อึดใจ จากคุณ : noiwanwannoi เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 54 15:29:03

ความคิดเห็นที่ 66 แล้วก็ขึ้นมาให้พวกเราได้ชื่นชมกันแบบตัวเป็นๆ จากคุณ : noiwanwannoi เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 54 15:30:09

ความคิดเห็นที่ 67 ถ้าที่จุดชมวิวม่อนกิ่วลมแห่งนี้ขาดต้นไม้ต้นนี้ไปคงขาดมนต์ขลังลงไปอีกเยอะ จากคุณ : noiwanwannoi เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 54 15:31:58

ความคิดเห็นที่ 68 ภาพกว้างๆ สำหรับลานนันทนาการ ณ จุดชมวิวม่อนกิ่วลม จากคุณ : noiwanwannoi เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 54 15:33:36

ความคิดเห็นที่ 69 เก้าอี้ที่ว่างเปล่าไร้เงาผู้ใช้บริการ จากคุณ : noiwanwannoi เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 54 15:37:33

ความคิดเห็นที่ 70 หันไปมองอีกฝั่ง  รู้สึกสังหรณ์ใจอย่างงัยพิกลว่าวันนี้คงไม่เป็นดังคาดหวัง  เพราะ ณ จุดแห่งนี้เมื่อครั้งที่แล้ว เพียงแค่มองเพียงผ่านๆ ก็สามารถเห็นหมอกขาวๆ อยู่เต็มไปหมด  แต่วันนี้ไร้เงาทะเลหมอกโดยสิ้นเชิง จากคุณ : noiwanwannoi เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 54 15:42:47

ความคิดเห็นที่ 71 แต่ในใจลึกๆ ก็ยังแอบหวังอยู่ว่าถ้าลงไปยังจุดชมวิวม่อนพูนสุดา และม่อนครูบาใส อาจจะเห็นทะเลหมอกบ้างเพียงเล็กน้อยก็ยังดี จากคุณ : noiwanwannoi เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 54 15:45:25

ความคิดเห็นที่ 72 เมื่อพระอาทิตย์เริ่มส่องแสงแรงกล้าขึ้นเรื่อยๆ ก็ถึงเวลาที่พวกเราจะจรลีจากจุดนี้กันสักที ลาก่อนนะ จุดชมวิวม่อนกิ่วลม จากคุณ : noiwanwannoi เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 54 15:47:02

ความคิดเห็นที่ 73 กับเส้นทางที่พาพวกเรามายังที่แห่งนี้ จากคุณ : noiwanwannoi เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 54 15:48:30

ความคิดเห็นที่ 74 หุหุ รีวิวตั้งแต่ 10.46 น. ของพี่ 5 ชม จิ๊บ ๆ ไปเลย อิอิ เอ๊า เป็นกำลังใจให้ค่ะ สู้ต่อไปทาเคชิ ปล. จบหรือยังคะเนี่ย ไปดื้อ ๆ เลยหรอ   แก้ไขเมื่อ 26 ก.พ. 54 17:16:42 จากคุณ : กบจูเนียร์ เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 54 17:05:47

ความคิดเห็นที่ 75 ขอบคุณมากๆครับผม อยากไปตามรอยบ้างจังเลย จากคุณ : digimontamer เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 54 19:04:23

ความคิดเห็นที่ 76 -ยังไม่จบครับคุณกบ  พอดีไปงานเลี้ยงมาเพิ่งกลับก็เลยรีบมาต่อให้จบภายในวันนี้ -ยินดีต้อนรับนะครับคุณdigimontamer ................................................................................................. ขับรถลงจากจุดชมวิวม่อนกิ่วลม ผ่านน้ำตกเล็กๆ ริมทาง "น้ำตกแม่ระเมิง" จอดรถลงไปถ่ายรูปกันเสียหน่อย จากคุณ : noiwanwannoi เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 54 19:25:06

ความคิดเห็นที่ 77 น้ำน้อยจังนะแม่ระเมิง จากคุณ : noiwanwannoi เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 54 19:29:03

ความคิดเห็นที่ 78 ถึงน้ำจะน้อยไปหน่อยแต่ไหนๆ ก็มาแล้วลงไปสัมผัสความเย็นจากสายน้ำตกกันเสียหน่อยดีกว่า จากคุณ : noiwanwannoi เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 54 19:31:37

ความคิดเห็นที่ 79 จุดแวะต่อไปคือ จุดชมวิวม่อนพูนสุดา  ไม่มีทะเลหมอกให้เห็นแม้แต่น้อย  แต่พวกเราก็ทำใจไว้แล้วว่าวันนี้คงไม่มีทะเลหมอกให้พวกเราได้ยลกันเป็นแน่  เพราะตั้งแต่ลงจากจุดชมวิวแรกมา พวกเรายังมองไม่เห็นทะเลหมอกสักก้อน  เห็นแต่ทะเลภูเขาทับซ้อนกันสุดลูกหูลูกตา จากคุณ : noiwanwannoi เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 54 19:38:47

ความคิดเห็นที่ 80 ด้านนี้ก็ไม่มี  ด้านไหนๆ ก็ไม่มี  เฮ้อ...เศร้าจัง จากคุณ : noiwanwannoi เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 54 19:40:25

ความคิดเห็นที่ 81 ระยะทางจากม่อนพูนสุดา ลงไปยังม่อนครูบาใส ใกล้นิดเดียวแต่ผมว่าม่อนครูบาใสจะเป็นจุดที่เหมาะสำหรับชมทะเลหมอกมากกว่า ถ้ามันมีให้เห็นนะ จากคุณ : noiwanwannoi เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 54 19:42:47

ความคิดเห็นที่ 82 ถึงจะผิดคาดแต่ที่บอกว่าไม่ผิดหวังก็เพราะยังงัยพวกเราก็ยังได้ประสบการณ์ท่องเที่ยวที่แตกต่างกันออกไปในอีกช่วงเวลา  คนที่มาในช่วงที่มีทะเลหมอกเต็มไปหมด ก็ไม่สามารถมองเห็นทะเลภูเขาไล่เรียงสลับซับซ้อนเหมือนพวกเรา (ปลอบใจตัวเองเข้าไป...ฮือฮือ) จากคุณ : noiwanwannoi เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 54 19:47:00

ความคิดเห็นที่ 83 ลงจากจุดชมวิวม่อนครูบาใส  พวกเราก็รีบลงมาด้านล่างเพราะมีภารกิจอีกอย่างที่สำคัญนั่นคือ นำยาและเครื่องอุปโภคบริโภค จำนวนสองสามกล่อง ที่เพื่อนๆ ที่ไม่ได้มาด้วยรวบร่วมเพื่อนำมาให้เด็กนักเรียนชาวเขาที่ขาดแคลนและเจ็บป่วย จากคุณ : noiwanwannoi เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 54 19:49:56

ความคิดเห็นที่ 84 อาคารเรียนหลังน้อยๆ จากคุณ : noiwanwannoi เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 54 19:50:53

ความคิดเห็นที่ 85 โรงเรียนบ้านแม่สลิดหลวง เป็นโรงเรียนเล็กๆ ที่อยู่ในหมู่บ้านใกล้กับที่ทำการอุทยานแห่งชาติแม่เมย จากคุณ : noiwanwannoi เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 54 19:52:22

ความคิดเห็นที่ 86 วิวทิวทัศน์ด้านหน้าโรงเรียน...สุดยอดจริงๆ ครับ...วิวเดียวกับจุดชมวิวม่อนครูบาใสและม่อนพูนสุดาเลยครับ จากคุณ : noiwanwannoi เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 54 19:53:47

ความคิดเห็นที่ 87 หลังจากมอบสิ่งของเสร็จ พวกเราก็กลับสู่ที่พักของเรา เตรียมตัวทำอาหารและอาบน้ำ จากนั้นเตรียมตัวออกเดินทางไปเที่ยวกันต่อก่อนที่จะเดินทางกลับกรุงเทพฯ จากคุณ : noiwanwannoi เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 54 19:57:33

ความคิดเห็นที่ 88 ช่วงที่รอเวลาคนอื่นไปทำธุระส่วนตัว  ผมก็รีบไปเก็บภาพต่างๆ รอบบริเวณที่ทำการอุทยานแห่งชาติแม่เมย จากคุณ : noiwanwannoi เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 54 20:00:14