อย่างที่เคยบอกไปแหล่ะค่า คิดว่าเดือนนี้ไม่น่าจะมีอะไรที่เป็นรีวิวจาก ยัยหนึ่งแล้ว แต่บังเอิญว่า มีวันสำคัญๆ ซึ่งเป็นวันแห่งความรักของพุทธศานิกชน แล้วก็เกิดจากความรักและศรัทธาที่มี เลยมีความคิดว่า อยากนำเสนอเรื่องราวของวัดแห่งหนึ่งค่ะ ที่หนึ่งได้ทำความรู้จักและมักจะแวะไปพักใจเสมอๆ รวมปีนี้ก็ ราวๆ 6 ปีแล้วที่แวะไปพักใจ ผ่อนคลาย หลบความวุ่นวาย และทำบุญที่นี่...
ขอให้การทำบุญคล้ายๆ การดื่มเหล้าของบางคน
สุข...ก็เมา เศร้า...ก็เมา
ลองเปลี่ยนมาเป็นสุข...ก็ทำบุญ
เศร้า...ก็ทำบุญ
ตอนเศร้า...ทำบุญเพื่อเรียกสติ
ตอนสุข...ก็ทำบุญเพื่อขอบคุณอะไรก็ตาม
ที่ทำให้สิ่งดีๆ... เกิดขึ้นกับเรา
จากหนังสือ อ่านแล้วขอกอด โดยดีเจนภาพร
ขอเอาพูดดีๆ ของพี่อ้อย แห่งกรีนเวฟ มาโพสต์หน่อยค่ะ เห็นว่าเกี่ยวกับการทำบุญ ตรงมากเพราะตอนแรกหนึ่ง ก็ทำบุญแบบเรียกสติ แต่สุดท้ายเปลี่ยนมาเป็นทำบุญให้เรื่องดีๆที่เราได้เจอ
บอกความลับอย่างหนึ่งค่ะ วัดนี้ อยู่แถวบ้านมานาน... ได้แต่ขับรถผ่านไปผ่านมา แต่ไม่เคยแวะ (ประหนึ่งเส้นผมบังภูเขา) จนเมื่อหลายๆ ปีที่ผ่านมา มีหลายๆ เรื่องที่น่าปวดหัวรุมเร้า เหนื่อยกายและเหนื่อยใจ จนคุณเพื่อนเห็นอาการแล้วทนไม่ไหว เพื่อนก็แนะนำให้ลองแวะไปที่วัดนี้ เพื่อนเล่าสรรพคุณเสร็จสรรพ วัดนี้ดีอย่างไร มีท่านเจ้าอาวาสที่เป็นปราชญ์ทางพระพุทธศาสนา ท่านได้รับรางวัลระดับโลกมาแล้ว มีงานเขียนเผยแพร่มากมาย เล่มที่เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง คือ หนังสือพุทธธรรม และ ธรรมนูญชีวิต... มีใครพอเดาได้ไหมค๊ะ ว่า วัดที่หนี่งเล่ามาคือวัดอะไร ใบ้ให้เพิ่มค่ะ อยู่ใกล้พุทธมณฑลสาย 4 ... เฉลยดีกว่าค่ะ วัดญาณเวศกวัน วัดที่มีความร่มเย็น ก่อให้เกิดความสบายทั้งกาย และใจ เมื่อไหร่ที่พาสองขาเดินเข้าวัดมา... เหมือนโยนความหนักหนาสาหัสไว้นอกกำแพงวัดยังไง ยังงั้น... พุทธศานิกชนจำนวนมาก หลั่งไหลมาทำบุญ สงบกายและใจที่นี่ บางคนมาไกลมาก จากหลายๆ มุมในกรุงเทพฯ ด้วยศรัทธาในท่านเจ้าอาวาส ท่านพระพรหมคุณาภรณ์ ป.อ. ปยฺุตฺฺโต ผู้มีจริยาวัตรที่น่าเลื่อมใส และน่าศรัทธามากที่สุดท่านหนึ่งในเมืองไทย... และที่สำคัญท่านเป็นพระนักให้โดยแท้ เพราะงานเขียนทางพุทธศาสนาทุกเรื่องที่ท่านเขียน ใครประสงค์อยากนำไปพิมพ์เพื่อจำหน่ายหรือเผยแพร่เป็นธรรมทาน ท่านไม่เคยเรียกร้องขอค่าลิขสิทธิ์ แม้วันนี้ท่านจะอาพาธด้วยหลายๆ โรค และจำเป็นต้องไปจำพรรษาในต่างจังหวัดเพื่อช่วยเรื่องสุขภาพและการรักษาทางหนึ่ง... ท่านก็ยังคงเดินหน้าทำงานทางพระพุทธศาสนาอย่างต่อเนื่อง โดยมิเคยกังวลกับอาการทางกายเลยแม้แต่น้อย....
วันนี้หนึ่งขอเลือกที่จะมาแบ่งปันประสบการณ์ดีๆ ที่วัดนี้ ตั้งใจไว้นานแล้วค่ะว่าอยากทำงานตอบแทนให้กับวัดนี้ รวมไปถึงท่านเจ้าคุณฯ ด้วยวิธีใดวิธีหนี่ง เคยมีโอกาสได้พบท่านตอนที่ไปร่วมบวชพระที่วัด ท่านลงมาเป็นประธาน... แค่เห็นน้ำตายังซึมเลยค่ะ รัศมีแห่งความเมตตาแผ่มาถึงเราให้รับรู้ได้... ท่านนิ่งมาก และที่สำคัญพระส่วนใหญ่ที่วัดนี้ก็มีความคล้ายท่านเจ้าคุณมากเลยค่ะ ในเรื่องของความเมตตา... นี่แหละค่ะคือสิ่งที่ทำให้วันนี้ชีวิตเด็กคนหนึ่งเปลี่ยนไป เหมือนมีชีวิตใหม่และพบความสุขง่ายๆ ใกล้ๆ ตัวเราเอง...พร้อมไหมค๊ะ ถ้าพร้อมตามมาเลยค่ะ 