ความคิดเห็นที่ 1 เมื่อตอนต้นปี 2010 จขกท.ผู้ซึ่งอยู่เมกามาหลายปีแสง ได้ทำการออกจากกะลาไปเหยียบเม็กซิโกเป็นหนแรก ด้วยการไปเที่ยวเล่นอยู่แถวๆ Cancun, Merida เป็นเวลาแค่ 2 วันกว่าๆ แต่แค่นั้น จขกท.ก็ประทับใจกับเม็กซิโกมาก สมกับสโลแกนโฆษณาการท่องเที่ยวของเขาจริงๆค่ะว่า Mexico : The place you thought you know (เอ หรือเค้ากำลังหลอกด่าตูอยู่ป่าวฟะ ว่าไม่ได้รู้เรื่องประเทศฉันเล๊ย ทั้งที่อยู่ใกล้แค่เนี้ย >_<) เนื่องจากทริปต้นปี เราได้ไปเที่ยวทะเลแกล้มซากอารยธรรมมายันแถวๆแหลม Yucatan ไปแล้ว งวดนี้เลยเปลี่ยนบรรยากาศมาเที่ยวตอนกลางประเทศเม็กซิโก แถวๆเมืองเม็กซิโกซิตี้แทนบ้าง โดยมีผู้ร่วมขบวนการ 3 หน่อ ได้แก่ จขกท, น้องปอเจ้าเก่า และเพื่อนตอ ค่ะ กระทู้ทัวร์ถึกเม็กซิโกภาค Yucatan อยู่นี่เจ้าค่ะ ตอนที่ 1 Riviera Maya - Under The Mayan Sun http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E9076240/E9076240.html ตอนที่ 2 Yucatan - The City of Magician http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E9090479/E9090479.html ตอนที่ 3 Yucatan - Hacienda Reborn http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E9153570/E9153570.html จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 26 ม.ค. 54 06:39:08

ความคิดเห็นที่ 2 เราไปเที่ยวในช่วงวันขอบคุณพระเจ้า จขกท.ต้องแหกขี้ตาตื่นไปสนามบินตั้งกะตีสี่ เพื่อบินมาต่อเครื่องไปเม็กซิโกที่ Newark เลยได้เห็นวิวแมนฮัตตันและแม่น้ำฮัดสันตอนรุ่งสางด้วย จ๋วยยยยย จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 26 ม.ค. 54 06:39:31

ความคิดเห็นที่ 3 แม้ว่าจะเป็นการกลับไปเม็กซิโกก๊อกสองของจขกท. แต่บรรยากาศช่างต่างจากตอนไป Cancun รอบแรกลิบลับ ครั้งกระโน้น 80% ของผู้โดยสารเป็นนักท่องเที่ยวชาวมะกัน แต่ไฟลต์ไปเม็กซิโกซิตี้เนี่ย เป็นพี่เม็กปาไปซัก 80% ได้มั๊ง! สงสัยคนมะกันคงกลัวการไปเม็กซิโกอยู่นะคะ เพราะมีแต่ข่าวฆ่ากันตายรายวัน โดยเฉพาะแถวเมืองติดชายแดนอย่าง Ciudad Juárez และแคว้น Chihauhau (ชิวาวา) เนื่องจากรัฐบาลเม็กซิกันกำลังปราบปรามแก็งค์ค้ายาอย่างหนักหน่วง และเมืองแถวนั้นเป็นเส้นทางส่งยาเสพติดเข้าเมกา แต่ละแก็งค์เลยพยายามช่วงชิงความเป็นเจ้าตลาดกันอย่างรุนแรง เราเลยได้เห็นข่าวฆ่ากันตาย พบศพไร้หัวอยู่เนืองๆ แต่เท่าที่ดู 99% จะเป็นการฆ่ากันระหว่าง แก็งค์-แก็งค์, แก็งค์-ตำรวจ, แก็งค์-สายตำรวจ, แก็งค์-ญาติของคนที่โดนแก็งค์ฆ่าเลยถือโอกาสล้างแค้นอีกที (งงบ่) แต่ถ้าไม่นับเมืองกรณีในเมือง Ciudad Juárez แล้ว แทบไม่มีข่าวนักท่องเที่ยวโดนลูกหลงสงครามค้ายาเท่าไหร่เลย จขกท.เคยแย็บๆถามน้องปอที่ต้องไปทำงานที่เม็กซิโกซิตี้บ่อยๆว่า เมืองน่ากลัวไหม น้องปอบอก สบมยห.พี่ชอ เพียงแต่อย่าไปเดินเพ่นพ่านย่านที่ไม่ค่อยดีตอนกลางคืนก็พอแล้ว เอาเฟ้ย น้องปอบอกไม่น่ากลัว พี่ชอไม่กลัว(ก็ได้)! แต่ยังไม่ทันจะเหยียบสนามบิน อิฉันก็เริ่มสยองแล้ว เมื่อภาพเมืองเม็กซิโกซิตี้ที่ค่อยๆปรากฎให้เห็นตรงหน้า... จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 26 ม.ค. 54 06:40:44

ความคิดเห็นที่ 4 เจี๊ยกกกกกก นี่เมืองเหรอนั่น ทำไมถึงได้แผ่ขยายไปสุดลูกหูลูกตาอย่างงี้ >_< สมแล้วที่เม็กซิโกซิตี้เป็นเมืองหลวงที่ใหญ่ที่สุดในโลก ด้วยประชากร 22 ล้านคน เรียกว่าคนเยอะกว่าโตเกียวซะอีก จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 26 ม.ค. 54 06:41:07

ความคิดเห็นที่ 5 จากสนามบิน จขกท.และเพื่อนตอก็นั่งแท็กซี่เข้ามายังตัวเมือง ค่าแท็กซี่ประมาณ $15 ค่ะ มาถึงก็เจอน้องปอนอนกระดิกเท้ารอเราสองคนอยู่ที่โฮสเตล Chillout Flat แล้ว จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 26 ม.ค. 54 06:42:27

ความคิดเห็นที่ 6 บ้านสีสันสดใสจริงๆ จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 26 ม.ค. 54 06:42:41

ความคิดเห็นที่ 7 ส่วนนี่ก็ห้องนอนเราฮ่ะ สีเขียวปั้ดมาแต่ไกลเลยเชียว จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 26 ม.ค. 54 06:43:00

ความคิดเห็นที่ 8 มีเปลด้วยน๊า จขกท.และน้องปอเลยออกมุขโบ้ยให้เพื่อนตอ ชายหนุ่มหนึ่งเดียวของทริปว่า เฮียจงเสียสละไปนอนเปลซะนะคืนนี้ สาวๆจะได้นอนคนละเตียงสบายๆ จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 26 ม.ค. 54 06:43:37

ความคิดเห็นที่ 9 อันนี้เป็นห้องน้ำของห้องเราค่ะ (ที่ Chillout Flat นี่มีแค่ 2 ห้องที่มีห้องน้ำส่วนตัว) ห้องน้ำก็โอเคนะฮะ แต่อ่างแอบซกเล็กน้อย -_- จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 26 ม.ค. 54 06:43:58

ความคิดเห็นที่ 10 พวกเราแอบไปดูห้องอื่นด้วย แหม่ อีกห้องก็สีชมพูช็อกกิ้งพิงค์สะใจเจงๆ จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 26 ม.ค. 54 06:44:37

ความคิดเห็นที่ 11 กว่าเราจะเริ่มก้าวเท้าออกจากที่พักก็ปาไปบ่ายสามกว่าๆแล้ว แดดร่มลมตกพอดีเลย ที่เห็นนี่ก็ National Art Museum ค่ะ น้องปอไกด์กึ่งท้องถิ่นของเรายังบอกอีกด้วยว่า เม็กซิโกซิตี้เป็นเมืองที่มีพิพิธภัณฑ์เยอะที่สุดในโลก เยอะยิ่งกว่านิวยอร์ค ดีซี หรือปารีสซะอีก ตึ่งโป๊ะ! จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 26 ม.ค. 54 06:45:14

ความคิดเห็นที่ 12 แต่พวกเราไม่ได้เดินเข้ามิวเซียมนั้นค่ะ เพราะเป้าหมายของเราอยู่ที่ตึกที่อยู่ฝั่งตรงข้ามตะหาก ทายซิ นี่ที่ไหนเอ่ย จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 26 ม.ค. 54 06:45:37

ความคิดเห็นที่ 13 คำตอบ มันคือไปรษณีย์ค่ะพี่น้อง!! จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 26 ม.ค. 54 06:45:54

ความคิดเห็นที่ 14 ไปรษณีย์จริงๆนะเคอะ ไม่ได้โม้ นี่ไง เคาน์เตอร์ส่งจดหมายเพียบเลย จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 26 ม.ค. 54 06:46:09

ความคิดเห็นที่ 15 ขนาดลิฟต์ก็ยังอลังมากมาย จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 26 ม.ค. 54 06:46:21

ความคิดเห็นที่ 16 น้องปอบอก เห็นไปรษณีย์ที่นี่แล้วอยากมาส่งจดหมายทุกวัน เลิกส่งดีกว่าไหมอีเมล์เนี่ย กร๊ากกกก จริงค่ะน้อง พี่เห็นด้วย! จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 26 ม.ค. 54 06:46:50

ความคิดเห็นที่ 17 ขนาดกล่องพัสดุเค้าก็ยังน่ารักกุ๊กกิ๊กเลยน๊า >_< จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 26 ม.ค. 54 06:47:52

ความคิดเห็นที่ 18 ออกจากอัครมหาไปรษณีย์แล้ว พวกเราก็จ้ำอ้าวไปยัง Zocalo ซึ่งเป็นจัตุรัสที่ใหญ่ที่สุดของเมืองค่ะ ระหว่างทางก็เจอตึกรามบ้านช่องที่สวยงามมากมาย แต่เนื่องจากเราต้องทำเวลา เลยไม่ได้หยุดถ่ายรูปเลย งื้ดๆ ถ่ายมาด่วนๆได้ก็แต่ Casa de los Azulejos หรือ House of Tiles ที่เห็นนี่ จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 26 ม.ค. 54 06:48:15

ความคิดเห็นที่ 19 เจ้าบ้านกระเบื้องหลังนี้ ถูกสร้างมาตั้งกะ คศ.ที่ 16 แต่กระเบื้องสีสันสดใสเหล่านี้ เพิ่งจะมาโผล่ใน คศ.ที่ 18 นี่เอง ตามตำนานเล่าว่า เพราะคุณพ่อเจ้าของบ้านดูถูกลูกชายว่า "คนอย่างแกไม่มีทางสร้างบ้านจากกระเบื้องได้หรอก!" อันนี้เข้าใจว่าเป็นสำนวนพี่เม็ก ประมาณว่า แกจะไม่มีวันทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน แต่ไม่ทราบคุณลูกพาซื่อหรือกะประชดพ่อตัวเอง อีเลยจัดการโปะกระเบื้องรอบบ้านซะให้ -_- ตอนนี้ House of Tiles กลายเป็นห้างสรรพสินค้าและร้านอาหารไปแล้ว ซึ่งเด๋วคืนนี้เราจะกลับมาชิมเย็นนี้ด้วยนะฮะ จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 26 ม.ค. 54 06:49:15

ความคิดเห็นที่ 20 และไม่ใช่แค่ไปรษณีย์ที่อลังการดาวล้านดวงนะฮะ ตึกร้าน Zara แถวๆ Zocalo ยังไฮโซซะไม่มี จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 26 ม.ค. 54 06:49:39

ความคิดเห็นที่ 21 ถึงแล้วจ้า Zocalo วิหารขนาดมหึมาที่เห็นนี่ก็คือ Metropolitan Cathedral ซึ่งเป็นวิหารที่ใหญ่ที่สุดในลาตินอเมริกาเลยนะฮะ ตอนแรกเรากะลุยเที่ยววิหารกันก่อนเลย แต่ปรากฎวันนี้มันปิดค่ะท่านผู้ชม เอาวะ วิหารปิด เราก็ไปเที่ยว Templo Mayor ที่อยู่ด้านหลังแทนแล้วกัน จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 26 ม.ค. 54 06:51:19

ความคิดเห็นที่ 22 ที่เขาขุดๆกันในภาพนี้แหล่ะค่ะ Templo Mayor แต่นี่ไม่ใช่ซากธรรมดา เพราะมันคือซากของ Tenochtitlan ศูนย์กลางของอาณาจักร Aztec อันเกรียงไกรในอดีต ที่โดนสเปนทำลายเรียบไปหมดในยุคล่าอาณานิคม ก่อนที่สเปนจะสร้างเมืองเม็กซิโกซิตี้ทับซากปรักหักพังอีกที จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 26 ม.ค. 54 06:51:54

ความคิดเห็นที่ 23 ชาว Aztec หรือ Mexica นั้นแต่เดิมเป็นเผ่านักรบเร่ร่อน ภายหลังพวกเขาก็มาลงหลักปักฐานอยู่แถวๆทะเลสาป Texcoco (ซึ่งโดนพี่สเปนถมไปเรียบร้อยแล้วเช่นกัน -_-) แต่เนื่องจากตอนที่เผ่า Aztec มาถึงที่นี่ในปี 1325 นั้น พื้นที่รอบๆทะเลสาปโดนเผ่าอื่นจับจองไปหมดแล้ว ชาว Aztec เลยจำต้องระเห็จไปสร้างเมืองตรงเกาะกลางทะเลสาปแทน แต่ภายในเวลาแค่ร้อยกว่าปี อาณาจักร Aztec ก็เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วด้วยความเก่งกล้าสามารถของทหาร Aztec ยิ่งใหญ่ขนาดที่มันแผ่ขยายอิทธิพลไปจนถึงประเทศกัวเตมาลาในปัจจุบันเลยทีเดียว และถ้าเมืองไหนพ่ายแพ้ต่อ Aztec แล้วล่ะก็ จะต้องส่งเครื่องบรรณาการมาถวายให้ Aztec ส่งผลให้ Tenochtitlan เป็นมหานครที่ยิ่งใหญ่และเจริญรุ่งเรืองมาก มีปีระมิด มีตลาด มีสวนดอกไม้สวยงามมากมาย แถมยังมีการถมทะเลสาป สร้างเป็นเกาะลอยน้ำ ดังที่เห็นในภาพนี้อีก บันทึกของทหารสเปนกล่าวถึง Tenochtitlan ไว้ว่า เป็นเมืองที่งดงาม คึกคัก และเป็นระเบียบยิ่งกว่าสเปนบ้านเกิดซะอีก! ความงามของมัน ทำให้ทหารสเปนหันไปถาม Hernan Cortes แม่ทัพฝั่งสเปนว่า "บอสครับ นี่เรากำลังฝันอยู่รึเปล่า" (ภาพ : delange.org) แก้ไขเมื่อ 26 ม.ค. 54 06:55:27 จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 26 ม.ค. 54 06:54:05

ความคิดเห็นที่ 24 ปล. ในตำนานกล่าวไว้ด้วยว่า ตอนที่ชาว Aztec เดินทางเร่ร่อนเรื่อยๆจนมาถึงทะเลสาป Texcoco พวกเขาก็เห็นอินทรีจิกงูเฉิดฉายอยู่บนต้นกระบองเพชร โหร Aztec เห็นเข้าจึงตบเข่าฉาดว่า นี่แหล่ะ! เทพเจ้าได้ส่งซิกมาแล้วว่า บ้านของเราคือที่ตรงนี้แหล่ะ! ด้วยเหตุฉะนี้ ธงชาติเม็กซิกันทุกเวอร์ชั่น จึงจะต้องมีภาพอินทรีจิกงูอยู่กลางดงกระบองเพชรอยู่ จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 26 ม.ค. 54 06:54:52

ความคิดเห็นที่ 25 กลับมาเข้าเรื่องต่อ นอกจากเมืองขึ้นจะต้องส่งบรรณาการมาให้ทาง Aztec แล้ว พวกเขายังต้องส่งคนเป็นๆ มาเพื่อเป็นเหยื่อบูชายัญอีกด้วย เพราะชาว Aztec เชื่อว่าการบูชายัญมนุษย์ จะทำให้ทวยเทพทั้งหลายพึงพอใจ ซึ่งจะส่งผลให้พระอาทิตย์ขึ้นทุกเช้า ฝนตกตามฤดูกาล โลกดำเนินต่อไปอย่างปกติสุข ฯลฯ ซึ่งอันนี้คล้ายๆกับอารยธรรมมายัน แต่ของมายันเขาบูชายัญกันขำๆฮ่ะ ไม่ได้บ้าพลังแบบชาว Aztec ประเภทบูชายัญเชลยศึกไปเบาะๆ 2 หมื่นศพในพิธีเปิดปีระมิดใหม่แทนการตัดริบบิ้น >_< ส่วนธรรมเนียมการบูชายัญของ Aztec นั้น เหยื่อจะถูกขึงอยู่บนแท่นหิน จากนั้นพระก็จะทะลวงซี่โครงเหยื่อผู้โชคร้ายด้วยมีหินอันเขื่อง แล้วคว้านเอาหัวใจที่ยังเต้นตุบๆออกมา ก่อนจะถีบร่างไร้วิญญาณของเหยื่อลงปีระมิดไป ซึ่งด้านล่างก็จะมีพระอีกทีม ที่รอชำแหล่ะศพ ตัดแขน ตัดขา และเอาเนื้อศพไปกินเพื่อเป็นสิริมงคล เป็นอันจบพิธีการ (ภาพ : wikipedia) จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 26 ม.ค. 54 06:57:15

ความคิดเห็นที่ 26 ชาว Aztec มีสุดยอดมหาเทพที่พวกเขาเคารพอยู่ 4 องค์ ซึ่ง 2 ใน 4 มหาเทพได้แก่ Tezcatlipoca (Smoking Mirror - เทพเฮอริเคน) และ Quetzalcoatl (Feathered Serpent - เทพแห่งสายลม) และตำนานบทหนึ่งของชาว Aztec ก็ได้กล่าวถึงความขัดแย้งของ Tezcatlipoca และ Quetzalcoatl ไว้ดังนี้ Quetzalcoatl เป็นเทพที่แห่งการเรียนรู้ ผิวขาว เคราดำ สวมหมวกขนนก แถมยังมาแปลก เพราะแกเป็นเทพที่ต่อต้านการบูชายัญมนุษย์ด้วยแหน่ะ! O_o วันดีคืนดี Quetzalcoatl ก็อวตารลงมาเป็นกษัตริย์นักบวช แล้วสวดต่อต้านทวยเทพที่เหลือ เลยโดน Tezcatlipoca ตามมาปราบเกรียน ฝ่าย Quetzalcoatl ที่พ่ายแพ้ต่อเพื่อนเทพ ก็นั่งแพวิเศษหนีออกไปทางชายฝั่งทะเลแคว้น Tabasco มุ่งหน้าไปยังทิศตะวันออก แต่ก่อนจะลอยแพจากไปนั้น Quetzalcoatl ก็ประกาศว่า "เราจะกลับมายึดอำนาจคืนใน One Reed Year เมื่อถึงวันนั้นเมื่อไหร่ ไพร่ฟ้าทั้งหลายได้งานเข้าแน่นอน!" ฉะนั้นทุก One Reed Year (ซึ่งรอบไม่แน่นอน จะวนมาทุกๆ 70-100 ปี) กษัตริย์ Aztec ก็จะต้องมานั่งลุ้นว่าปีนี้ Quetzalcoatl จะกลับมาสร้างความชิหายให้เผ่าพันธุ์ตูไหมหนอ T^T (ภาพ : wikipedia) จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 26 ม.ค. 54 07:01:10

ความคิดเห็นที่ 27 และแล้วดราม่าก็มาบังเกิดในวันที่ 22 เมษายน 1519 ซึ่งตรงกับปี One Reed Year พอดี๊พอดี เมื่อ"แพวิเศษ"ลอยมาจากทะเลฝั่งตะวันออก เข้าเทียบท่าที่ชายฝั่งแคว้น Tabasco แถมบุรุษที่ก้าวลงมาจาก"แพวิเศษ"ยังสร้างความสั่นประสาทหวาดผวาให้ชาวพื้นเมืองยิ่งนัก เพราะเขาผู้นั้นมีผิวขาว เคราดำ สวมหมวกขนนก เหมือนท่านเทพ Quetzalcoatl ไม่มีผิด! อีกทั้งฮีมาพร้อมปืนใหญ่เสียงดังราวฟ้าคำราม แถมพกด้วยสัตว์ประหลาดสี่ขา (ซึ่งก็คือม้า แต่ชาว Aztec ไม่เคยเห็นม้ามาก่อน -_-) อีกเพียบ แบบนี้ไม่ใช่เทพก็ไม่รู้เรียกอะไรแล้ว ชิมิ! ชิมิ! Quetzalcoatl 1519 ในความคิดของชาว Aztec นั้นไซร้ ก็คือ Hernan Cortes นักสำรวจชาวสเปน ผู้ที่จะมา fulfill คำทำนายจุดจบของอารยธรรม Aztec นั่นเอง! (ภาพ : wikipedia) จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 26 ม.ค. 54 07:02:23

ความคิดเห็นที่ 28 Hernan Cortes เป็นชาวสเปนที่มาเสี่ยงโชคที่คิวบา สุดท้ายได้เป็นเจ้าของไร่และจัดเป็นคนมีหน้ามีตาคนนึงในคิวบา พอ Cortes ได้ยินเสียงลือเสียงเล่าอ้างว่า แผ่นดินเม็กซิโกที่ยังไม่มีใครเข้ามาสำรวจนี่ไซร้ น่าจะมีทองให้กอบโกยมากมาย แกจึงขออนุญาตเจ้าเมืองคิวบา (บ้างกว่าว่าแกรีบชิ่งออกเรือก่อนเจ้าเมืองจะค้านทัน) พาทหารรับจ้างจำนวน 600 ชีวิต, ม้า 16 ตัว และปืนใหญ่ 10 กระบอก มาขึ้นฝั่งที่เม็กซิโก ตรงบริเวณเมือง Veracruz ในปัจจุบัน จากที่ จขกท.อ่านๆมา แม้ Cortes จะโลภทองไปหน่อย แต่เหมือนแกไม่ใช่คนโหดร้ายอะไรมากมาย ตอนที่เรือจอดแวะที่เกาะ Cozumel แล้วทหารสเปนไปไล่ปล้นสะดมภ์ชาวบ้าน Cortes ยังสั่งให้ทหาร เอาของไปคืนให้ชาวบ้านให้หมด นอกจากนี้ Cortes ยังฉลาดเป็นกรด แถมฉลาดแกมโกงหน่อยๆ ประเภทสั่งเจ้าเมืองท้องถิ่นจับฑูต Aztec เอาหน้าและขวัญกำลังใจ (เพราะแคว้นใต้อำนาจของ Aztec นั้นเกลียด Aztec ยังกะอะไรดี ก็ทั้งไถเงิน ทั้งเอาคนเค้าไปบูชายัญหนิ -_-) แต่ตอนกลางคืน ก็แอบย่องไปปล่อยตัวฑูตที่เพิ่งจับไปหมาดๆซะงั้น แถมยังกระซิบอีกว่า "บอกนายเหนือหัวแกซะนะ ว่าชั้นช่วยแกออกมา แล้วรอด้วย เด๋วเราจะไปหาที่ Tenochtitlan นะ" ภาพนี้เป็นเส้นทางเดินทัพจาก Veracruz ไป Tenochtitlan ของ Cortes เจ้าค่ะ (ภาพ : wikipedia) จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 26 ม.ค. 54 07:03:37

ความคิดเห็นที่ 29 เล่นพูดงี้ Montezuma II พระราชา Aztec ก็ขนลุกซู่สิท่าน ตามตำนาน Montezuma II จัดเป็นผู้นำที่สามารถ ฉลาด และเข้มแข็ง แต่งานนี้แกมาตกม้าตาย เพราะดันปักใจเชื่อว่า Hernan Cortes เป็นเทพ Quetzalcoatl (เทพลม) กลับชาติมาเกิดจริงๆ Montezuma เลยกลัวว่า ถ้า Cortes เป็นอะไรไป สายลมจะหยุดพัด โลกจะเสียสมดุล ฯลฯ แกเลยส่งเงินส่งทองไปเป็นบรรณาการให้ Cortes แล้วขอร้องว่าได้ทองแล้วก็ช่วยไปที่ชอบๆที แน่นอนค่ะว่า Cortes เห็นทองแล้วก็ยิ่งตาโต ยิ่งกระเสือกกระสนที่จะไป Tenochtitlan ให้จงได้ ตัว Cortes นั้น ตอนแรกก็ไม่ได้รู้เรื่องเลย ว่าตัวเองกลายเป็นเทพเจ้าในสายตาชาวพื้นเมืองไปแล้ว เพิ่งจะมาถึงบางอ้อตอนก่อนถึง Tenochtitlan ไม่นาน พอรู้แล้ว Cortes เลยตัดสินใจ จับ Montezuma II เป็นตัวประกัน แล้วยึดอำนาจกันอย่างง่ายๆซะงั้น!! ส่วนนี่ก็เป็นภาพของ Montezuma II ค่ะ เวอร์ชั่นนี้ออกทางสายกลางหน่อย เพราะบางเวอร์ชั่นมาหน้าเฮียยังกะกบฎมูจาฮีดีน อีกเวอร์ชั่นกลับหล่อเท่สุดๆซะงั้น -_- (ภาพ : wikipedia) แก้ไขเมื่อ 26 ม.ค. 54 07:07:48 จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 26 ม.ค. 54 07:06:51

ความคิดเห็นที่ 30 ทิ้งร่องรอยไว้ก่อน แล้วมาตามเที่ยวพรุ่งนี้นะคะ ห่าววว.. จากคุณ : marzo เขียนเมื่อ : 26 ม.ค. 54 07:09:44

ความคิดเห็นที่ 31 Cortes อาจจะโชคดีที่ Montezuma ยอม Cortes ทุกอย่าง ยอมยกอำนาจให้ แจกทองให้อีกตะหาก แต่ราชนิกูลคนอื่นๆของ Aztec กลับไม่เห็น Cortes เป็นพระเจ้าเหมือน Montezuma พวกเขาเลยรวมตัวกันยึดอำนาจ แล้วต้อน Cortes และทหารจนจนมุมอยู่ในปราสาท Cortes เลยขอร้องให้ Montezuma ออกไปกล่อมทหาร ให้ปล่อยตนและพรรคพวกไปที ถ้าหลุดไปได้แล้ว จะไม่กลับมาสร้างความเดือดร้อนให้ชาว Aztec อีก Montezuma ก็ใจอ่อน ยอมออกไปเจรจากับทหารที่ล้อมปราสาท แต่กลับโดนทหารตัวเองปาหินใส่หัวจนตายซะงั้น เมื่อไร้คนคุ้มกะลาหัวแล้ว Cortes จึงต้องเค้นสมองหาทางรอดสุดชีวิต อุปสรรคที่สำคัญที่สุดคือ จะข้ามคูคลองที่ล้อมเมือง ออกไปได้ยังไง ว่าแล้ว แกก็สั่งทหารสร้างสะพานไม้ โดยกะจะแบกสะพานทำมือนี้ ไปเป็นทางเชื่อมกันดื้อๆเลย! ก่อนออกทัพ Cortes ก็สั่งให้แบ่ง 1 ใน 5 ของกรุสมบัติของ Montezuma เพื่อไปถวายพระเจ้า Charles V ของสเปน ส่วนที่เหลือ ใครใคร่เอาอะไรไปก็เชิญตามสบาย! ทหารสเปนก็เลยโกยทองขึ้นหลังกันจ้าละหวั่น แต่ระหว่างที่ทหารสเปนกำลังข้ามแม่น้ำนั้น กองทัพของ Cortes ก็โดนทหาร Aztec แห่มารุมกินโต๊ะทั้งทางบกทางน้ำ แม้ว่า Cortes จะรอดตายไปได้อย่างฉิวเฉียด แต่เขาก็ต้องเสียทหารเกินครึ่งไปกับศึกครั้งนี้ รวมทั้งสมบัติพัสถานของ Montezuma ก็ตกน้ำหายไปหมดเช่นกัน จึงมีคนเรียกเหตุการณ์ในคืนนั้นว่า La Noche Triste (The Night of Sorrows - แต่อันนี้ไม่ทราบว่าเศร้าที่คนตายหรือทองหายนะเคอะ -_-) จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 26 ม.ค. 54 07:13:44

ความคิดเห็นที่ 32 แม้ว่ากองกำลังของ Cortes จะอยู่ในสภาพบอบช้ำ แต่กลายเป็นว่าการรอดจากถ้ำเสืออย่าง Tenochtitlan มาได้ ทำให้เรตติ้งของ Cortes พุ่งกระฉูด และมีเมืองต่างๆเสนอตัวมาร่วมมหกรรมยำตรีน Aztec มากมาย (โดยที่ไม่รู้เลยว่า หนีเสือปะจระเข้ชัดๆงานนี้ -_-) Cortes ใช้เวลาเตรียมการรบ 5 เดือน ก่อนยกทัพกลับมายัง Tenochtitlan ในเดือนพฤษภา ค.ศ.1521 โดยแผนของ Cortes คือ ไล่ตีเมืองรอบๆทะเลสาป Texcoco ก่อน จากนั้นก็ตัดเส้นทางลำเลียงน้ำและอาหาร ที่จะเข้าสู่เมือง Tenochtitlan แถมช่วงที่ Cortes หนีไปนั้น ชาวเมือง Tenochtitlan จำนวนมากเสียชีวิต ด้วยโรคฝีดาษที่ติดมาจากศพทาสแอฟริกันในกองทัพสเปน เลยทำให้เมืองยิ่งอ่อนแอหนักขึ้นไปอีก Cortes พยายามกล่อมให้ Tenochtitlan ยอมแพ้เสียดีๆ เพราะแกกลัวว่า ชาวเมืองจะหันมาใช้สมบัติพัสถาน เป็นอาวุธเมื่อเข้าตาจน -_- แต่ผู้นำวัยหนุ่มคนใหม่ของ Tenochtitlan ก็ยังประกาศสู้ยิบตา ยอมตายไม่ยอมแพ้ สุดท้าย Tenochtitlan เลยโดนถล่มจนราบเป็นหน้ากลอง เหลือเพียงแต่ตำนานที่เล่าขานมาถึงชนรุ่นหลังเท่านั้น จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 26 ม.ค. 54 07:17:40

ความคิดเห็นที่ 33 # เชิญตามสบายเลยฮะคุณ marzo --------------------------------------------------------------------- Tenochtitlan เสียหายยังไม่พอ ทหารสเปนยังทำลายเทวสถานของชาว Aztec ซะเรียบ แล้วนำหินจากซากเทวสถานเดิมมารีไซเคิลสร้างเมือง Mexico City แทน (ซึ่งถือว่ายิงปืนทีเดียวได้นกสองตัว เพราะถ้าทำลายศาสนสถานของชาว Aztec แล้ว จะได้เผยแผ่ศาสนาคริสต์ให้ชาวพื้นเมืองได้ง่ายขึ้น) จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 26 ม.ค. 54 07:18:59

ความคิดเห็นที่ 34 ส่วนนี่ก็โมเดลของปีระมิดและพระราชวังของเมือง Tenochtitlan ค่ะ ที่เห็นเป็น layers ก็เพราะว่าสมัยโน้น เขาจะสร้างปีระมิดใหม่ครอบของเก่า แทนที่จะทุบอันเก่าทิ้ง จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 26 ม.ค. 54 07:19:30

ความคิดเห็นที่ 35 แต่ตอนนี้มีเหลือให้เห็นแค่นี้ -_- Templo Mayor ถูกค้นพบโดยบังเอิญในปี 1978 เมื่อช่างไฟขุดชั้นหินเพื่อจะวางสายไฟ แต่ดันไปเจอ monolith สมัย Aztec เข้าให้ จากนั้นจริงเริ่มมีการขุดสำรวจ Templo Mayor กันอย่างจริงจัง จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 26 ม.ค. 54 07:20:04

ความคิดเห็นที่ 36 ตรงฐานปีระมิดมีรูปงูด้วย นั่นก็เพราะปีระมิดเป็นสัญลักษณ์แทน Coatepec (Hills of Serpents) ภูเขาศักดิ์สิทธิ์ของเหล่าทวยเทพ Aztec จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 26 ม.ค. 54 07:20:21

ความคิดเห็นที่ 37 ส่วนแท่นนี้ ก็มีไว้ให้ชาวบ้านได้วางอาหารไหว้เจ้านั่นเอง จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 26 ม.ค. 54 07:21:33

ความคิดเห็นที่ 38 อันนี้เป็นลวดบนลายซากปราสาท ลายเท่สุดๆ ตอนสร้างเสร็จใหม่ๆนี่คงสีแดงแป๊ดเลย จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 26 ม.ค. 54 07:22:16

ความคิดเห็นที่ 39 ส่วนนี่ไม่ใช่ของปลอม ของจำลองแต่อย่างใดนะฮะ กะโหลกคนจริง อะไรจริงล้วนๆ! ไม่รู้จะเอาไหว้ขู่เมืองใต้อาณัติ หรือคนสร้างขี้เกียจตัดหิน เลยเอากะโหลกเหยื่อบูชายัญมาชุบปูนกันดื้อๆยังงี้เลย -_- จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 26 ม.ค. 54 07:23:43

ความคิดเห็นที่ 40 นอกจากซากปรักหักพังแล้ว ข้างๆยังมี Templo Mayor Museum ซึ่งใช้แสดงโบราณวัตถุที่ขุดได้จาก Templo Mayor ด้วยนะฮะ จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 26 ม.ค. 54 07:24:17

ความคิดเห็นที่ 41 เห็นแล้วอดทึ่งในความเก่งของคนสมัยก่อนไม่ได้ แกะกันเข้าไปได้ ลายละเอียดโพดๆ จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 26 ม.ค. 54 07:24:34

ความคิดเห็นที่ 42 นอกจากชิ้นส่วนซากของ Templo Mayor แล้ว พวกข้าวของเครื่องใช้เขาก็มีให้ชมนะฮะ อย่างเจ้าถาดอันนี้ จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 26 ม.ค. 54 07:24:53

ความคิดเห็นที่ 43 อะจ๊ากกกกก สุดยอดของความถึกเจงๆ! จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 26 ม.ค. 54 07:25:11

ความคิดเห็นที่ 44 ส่วนนี่ก็เอ่อ...แจกันอะไรทำไหน้าตาตล๊กตลก จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 26 ม.ค. 54 07:25:27

ความคิดเห็นที่ 45 อันนี้น่าจะเป็น item ที่ทุกท่านรอคอย เพราะมันคือมีดที่ใช้ในการบูชายัญค่ะ ท่าทางหนักน่าดู ถ้าโดนกระซวกด้วยเจ้ามีดคงจะจอดในจึ้กเดียว จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 26 ม.ค. 54 07:28:28

ความคิดเห็นที่ 46 นี่ก็ตุ๊กตาดินเผารูปนักรบ Aztec ในชุดนกอินทรี จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 26 ม.ค. 54 07:28:51

ความคิดเห็นที่ 47 มาปิดท้ายกันด้วยไฮไลต์ของมิวเซียมเจ้าค่ะ ทั้งสองอันนี้เป็นแผ่นหินที่สลักภาพเทพเจ้าของชาว Aztec ไว้ได้อย่างวิจิตรจริงๆ จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 26 ม.ค. 54 07:29:17

ความคิดเห็นที่ 48 สนุกจังค่ะ อ่านเพลินไปเลย     อยากไปเหมือนกันค่ะแม็กซิโก  แต่ก็กลัวเพราะดูข่าวทุกวัน... จากคุณ : ป้าฟู เขียนเมื่อ : 26 ม.ค. 54 07:29:18

ความคิดเห็นที่ 49 ^ ^ ขอบคุณค่าป้าฟู เม็กซิโกไม่น่ากลัวเลยค่ะ ถ้าไม่ไปแถวๆเมืองชายแดนนะป้า แถมยังอันบะเอ้งอีก ไม่เชื่อดูสเกลในภาพสิฮะ จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 26 ม.ค. 54 07:30:06

ความคิดเห็นที่ 50 อันนี้เป็นภาพ Coyolxauhqui ซึ่งถือเป็น Moon Goddess ในสภาพแยกส่วน(!)ค่ะท่านผู้ชม ตามตำนานเล่าว่าชีเป็นลูกสาวของเทพธิดานาม Coatlicue จู่ๆ Coatlicue ก็มาตั้งครรภ์จากการเก็บขนนกวิเศษบนยอดเขา Coatepec พอ Coyolxauhqui ทราบเรื่อง นางก็ตัดสินใจที่จะฆ่าแม่และน้องชายในครรภ์ทิ้ง ทว่าเด็กในท้องบ่ใช่เด็กน้อยธรรมดา เพราะเขาคือ Huitzilopochtli เทพพระอาทิตย์/เทพสงคราม เมื่อ Huitzilopochtli รับรู้ถึงแผนร้ายของพี่สาว เขาจึงออกมาจากท้องแม่(แต่ออกมาก็เป็นหนุ่มทันที) แล้วฆ่าหั่นศพพี่สาวเป็นชิ้นๆ ก่อนที่จะทิ้งศพพี่สาวลงจากยอดเขา Coatepec เลยเชื่อกันว่าประเพณีการบูชายัญของชาว Aztec ก็ได้แรงบันดาลใจมาจากตำนานบทนี้แหล่ะค่ะ จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 26 ม.ค. 54 07:31:04

ความคิดเห็นที่ 51 รูปบนว่าโหดแล้ว รูปสลัก Tlaltecuhtli นี่ก็เหี้ยมไม่แพ้กัน เพราะ Tlaltecuhtli เป็นเทพที่กินศพคนตาย เพื่อที่จะให้กำเนิดชีวิตใหม่ และในภาพนางก็กำลังแยกขาเตรียมให้กำเนิด แถมออกแรงเบ่งมากจนเหลือดไหลกบปาก (ยังกะหนังจีนกำลังภายในเลยแฮะ) ชาว Aztec เกรงกลัวเทพธิดาองค์นี้มาก ขนาดที่ว่าเวลาจะฝังรูปนาง ต้องคว่ำรูปแล้วฝังให้หน้าลงพื้น แต่ตอนที่ขุดเจอรูปนี้ที่ Templo Mayor รูปกลับหันหน้าขึ้นฟ้า เลยมีการคาดกันว่า นี่อาจเป็นปากทางหลุมศพพระราชา Aztec และถ้าขุดเจอจริงๆ จะเป็นการค้นพบหลุมศพพระราชาอันแรกเลยนะเธอว์ ซึ่งแฟนๆก็ต้องลุ้นกันต่อไปนะก๊า จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 26 ม.ค. 54 07:31:50

ความคิดเห็นที่ 52 กว่าพวกเราจะเที่ยวมิวเซียมเสร็จ ก็พลบค่ำพอดี จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 26 ม.ค. 54 07:32:29

ความคิดเห็นที่ 53 เลยได้ชมวิวพระอาทิตย์ตกดินแกล้ม Cathedral และ Templo Mayor เป็นของแถมด้วยเลย จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 26 ม.ค. 54 07:32:48

ความคิดเห็นที่ 54 ทัวร์ซากจบ เราก็กลับมายัง Zocalo อีกครั้งค่ะ อนึ่ง Zocalo นี่เป็นจตุรัสที่ใหญ่อันดับ 2 ของโลก รองจาก Red Square ที่กรุงมอสโคว์เลยนะฮะ ปกติต้องมีธงเม็กซิกันอันเขื่องปักอยู่กลางจตุรัส แต่วันนั้นเนื่องจากมีงานฉลอง Revolution Day เลยไม่มีธงเจ้าค่ะ แป่ว (ภาพ : Corbis.com) จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 26 ม.ค. 54 07:33:20

ความคิดเห็นที่ 55 รูปนี้อิฉันกะถ่ายรถเข็นข้าวโพดปิ้ง แม่เจ้า เล่นเอารถเข็นซูเปอร์มาร์เก็ตมาเลยเหรอ ลงทุนหน่อยดิเจ๊ ระหว่างถ่ายรูปอยู่ ครอบครัวหรรษาในภาพก็โบกไม้โบกมือทักทายพวกเรา น่ารักจริงจริ๊งงงง เราเลยถือโอกาสถามคุณพ่อบ้าน ถึงงานฉลอง Revolution Day ที่ Zocalo ซะเลย จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 26 ม.ค. 54 07:33:58

ความคิดเห็นที่ 56 ปี 2010 นี่จัดเป็นปีมหามงคลของประเทศเม็กซิโกค่ะ เพราะนอกจากจะเป็นโอกาสครบรอบ 200 ปี Independence Day (ซึ่งเม็กซิโกได้รับเอกราชจากสเปน) ยังครบรอบ 100 ปี Revolution Day (ที่ชาวบ้านล้มรัฐบาลเผด็จการ) อีกด้วย แล้ววันนั้นก็ดั๊นเป็นวัน Revolution Day พอดี ฉะนั้นงานฉลองคืนนี้ท่าจะงานช้างไม่เบา เอ๋ แล้วนี่เขามีอะไรตรงหน้า National Palace เอ่ย จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 26 ม.ค. 54 07:34:44

ความคิดเห็นที่ 57 อ๋อ มีวงดุริยางค์มาบรรเลงดนตรีให้ฟังนั่นเอง จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 26 ม.ค. 54 07:35:07

ความคิดเห็นที่ 58 บรรยากาศแดดร่มลมตก แถมมีเพลงภาษาสแปนิชเพราะๆ พร้อมฉากหลังเป็นความยิ่งใหญ่อลังการของ Metropolitan Cathedral ทำเอา จขกท.เคลิบเคลิ้มไปกับบรรยากาศจนอยากกินทาโก้ขึ้นมาตงิดๆ จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 26 ม.ค. 54 07:36:14

ความคิดเห็นที่ 59 ปล. ส่วนนี่ก็ Sagrario ที่อยู่ข้างๆ Metropolitan Cathedral ค่ะ ด้านหน้าโบสถ์วิจิตรสุโค่ย หนูชอบบบบบ จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 26 ม.ค. 54 07:36:42

ความคิดเห็นที่ 60 แน่นอนว่ามหาชนล้นหลามแบบนี้ ก็ต้องมีพี่ตำรวจมาคอยดูแลความเรียบร้อยมากมาย แต่ว่า กองนี้นี่เค้ากะจะมารบกับใครคะเพ่ >_< จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 26 ม.ค. 54 07:37:12

ความคิดเห็นที่ 61 เราถามไถ่ตำรวจและชาวบ้านแถวนั้น เค้าบอกงานฉลองเริ่มตอน 3 ทุ่ม พวกเราเลยรีบชิ่งออกมาหาของกินรองท้องที่ร้าน Sanborn ซึ่งอยู่ใน House of Tiles กันก่อน จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 26 ม.ค. 54 07:37:29

ความคิดเห็นที่ 62 ข้างในร้านสวยไม่เบานะเนี่ย จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 26 ม.ค. 54 07:37:48

ความคิดเห็นที่ 63 แถมด้านในมีห้องอาหารทั้งหมด 10 ห้อง ที่ตกแต่งต่างกันไป 10 แบบให้เลือกรับประทานกันตามอัทธาศรัย อย่างห้องนี้ก็ดูยุโร๊ปยุโรปดีนะฮะ จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 26 ม.ค. 54 07:38:26

ความคิดเห็นที่ 64 ร้าน Sanborn นี่มีสาขาในเม็กซิโกซิตี้เยอะมาก เรียกว่าไปที่ไหนก็เจอ ส่วนเมนูก็จะเป็นแนวอาหารเม็กซิกันค่ะ อันนี้โกรธ เพราะในเมนูเขียน Steak Roll ออกมากลายเป็นแซนวิชซะได้ เง้อออออ โดนหลอก เสียใจ จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 26 ม.ค. 54 07:38:50

ความคิดเห็นที่ 65 ส่วนน้องปอผู้กินร้านนี้หลายหนแล้ว ก็สั่ง Mole (โมเล่) เมนูของตายให้พี่ๆได้ลองชิม Mole เป็นซอสที่ผสม Spice หลายๆอย่างไว้ด้วยกัน ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือโกโก้ค่ะพี่น้อง ซอสเลยออกมาเหมือนช็อคโกแล็ตที่หวานนิดๆเผ็ดหน่อยๆ อาหย่อยนะฮะ จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 26 ม.ค. 54 07:39:09

ความคิดเห็นที่ 66 ปิดท้ายด้วยเคบับกุ้งของเพื่อนตอค่ะ ย่างมาได้อร่อยใช้ได้เลยทีเดียว จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 26 ม.ค. 54 07:39:27

ความคิดเห็นที่ 67 ร้านนี้ก็จัดว่าโอเคนะคะ ร้านสวย ราคาก็ไม่โหดร้าย แต่ห้องน้ำดันมีอยู่ห้องเดียว คนอย่างเยอะเลย -_- ปล. ภาพจิตรกรรมฝาผนังอุลตร้าแมนที่เห็นนี่ เป็นผลงานของ José Clemente Orozco Mexican Muralist ผู้โด่งดัง ติดตามผลงานแกได้อีกในทู้หน้านะฮะ จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 26 ม.ค. 54 07:39:53

ความคิดเห็นที่ 68 จากนั้น เราก็กลับไปยัง Zocalo เพื่อรอชมงานฉลอง Revolution Day สองข้างถนน มีรถเข็นของกินขายเพียบ ยังกะเมืองไทยเลย กั่กๆ ปล.น้องปอตั้งข้อสังเกตว่า แม้คนจะเดินเต็มถนน แต่มันกลับไม่โล้งเล้งเจี๊ยวจ๊าวแม้แต่น้อย เพราะคนเม็กซิกันแถวนี้เค้าจะพูดกันเสียงเบาๆ ไม่โหวกเหวกเหมือนเจ๊กอย่างคณะเรา ที่คุยกันเสียงดังสุดในถนน -*- จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 26 ม.ค. 54 07:40:32

ความคิดเห็นที่ 69 แม้คนเม็กซิกันจะ soft spoken แต่เรื่องความฮานี่ไม่เข้าใครออกใครฮ่ะ อย่างตึกนี้ที่ออกจะสวยไฮโซ แต่ด้านล่างเป็นร้านโชห่วยซะงั้น ตึ่งโป๊ะ!! จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 26 ม.ค. 54 07:40:50

ความคิดเห็นที่ 70 แถมหน้าร้านยังมีอะไรก็ไม่รู้ รสชาติเหมือนเช็งเซียมอี๊ร้อนๆขายอีก เอาเข้าไป จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 26 ม.ค. 54 07:41:10

ความคิดเห็นที่ 71 กลับมาที่ Zocalo อีกที Metropolitan Cathedral กลายสภาพเป็นจอโปรเจ็คเตอร์ขนาดยักษ์ ที่รองรับธงชาติเม็กซิโกที่โบกสะบัดไปมาซะแล้ว ออกมาเท่สุดๆขอบอก จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 26 ม.ค. 54 07:41:55

ความคิดเห็นที่ 72 3 ทุ่มปุ๊บ โชว์แสงสีเสียงก็เริ่มปั๊บ Metropolitan Cathedral และบรรดาตึกที่รายรอบ Zocalo ก็เปลี่ยนสี แปลงสภาพไปเรื่อยๆ พวกเราชอบอันนี้ค่ะ เพราะลงสีได้เป๊ะมากเลยอ่ะ จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 26 ม.ค. 54 07:42:21

ความคิดเห็นที่ 73 ตอนแรกเราก็คิดว่าเค้าจะเน้นเรื่องที่ชาวบ้านลุกขึ้นมาล้มรัฐบาลเผด็จการของนายพล Porfirio Díaz ในปี 1910 ที่ไหนได้ พี่เล่นไล่ประวัติประเทศชาติมาตั้งแต่สมัย Toltec, Mayan, Aztec, ยุคสเปนล่าอาณานิคม แถมแทรกโน่นนีที่ไม่ได้เกี่ยวกันเล๊ยอีกบาน (อย่างเช่นเม็กซิกันดิสโก้ มาได้ไงฟะ!) พิธีเลยลากยาวไปชั่วโมงครึ่ง ทำเอาคณะเราที่เคยชินกับการฉลองแบบเมกันที่ยิงพลุโป้งๆ 20 นาทีจบ เริ่มเมื่อยขาตะงิดๆ -*- รูปนี้อาจเห็นไม่ชัดนะฮะ แต่เป็นภาพเรือของ Cortes ที่ล่องไปรอบ Zocalo จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 26 ม.ค. 54 07:42:50

ความคิดเห็นที่ 74 มีพลุไฟ(ของจริง!)ด้วยนะฮะ แหม่ น่าเอาไก่ไปจ่อปากกระบอกทำไก่ย่างเจงๆ หลังจากโชว์แสงสีเสียงผ่านไปได้ชั่วโมงกว่าๆ พิธีก็ออกทะเลขึ้นเรื่อยๆ ขนาด montage หนังเม็กซิกัน ยุค 1920s ก็ยังอุตส่าห์มี -_-" ครอบครัวพี่เม็กที่ยืนอยู่รอบๆเรา เริ่มทะยอยกลับบ้านกันเรื่อยๆ พวกเราก็สองจิตสองใจว่าจะยืนรอพลุต่อ (ซึ่งไม่รู้ว่าจะต้องรอไปอีกกี่นาน) หรือจะรีบชิ่งไปหาขนมกินดีหนอ จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 26 ม.ค. 54 07:43:07

ความคิดเห็นที่ 75 สุดท้ายความตะกละชนะความอยากดูพลุค่ะพี่น้อง เรามาแวะที่ร้านทาโก้ตรงหัวมุมถนน 5 de Mayo กับ Isable La Catolica น้องปอบอกเดินผ่านร้านนี้มาสองวันแล้ว เห็นคนแน่นตลอด หนูเลยอยากลองกินมั่ง จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 26 ม.ค. 54 07:43:21

ความคิดเห็นที่ 76 ที่เห็นนี่ก็เป็นหมูที่เขาโปะเป็นชั้นๆ ซึ่งมันจะหมุนย่างไฟไปเรื่อยๆ คนขายก็จะเฉือนน้องหมูลงแผ่นแป้งข้าวโพด Tortilla แถมร้านนี้เค้าแถมสับปะรดชิ้นเล็กๆ (ที่เสียบอยู่ด้านบนเตา) มาให้อีก เพื่อเพิ่มความอาหย่อย จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 26 ม.ค. 54 07:43:39

ความคิดเห็นที่ 77 นี่แหล่ะค่ะ โฉมหน้าของ Taco หน้าตาช่างต่างจากทาโก้ใส่เนื้อสับพูนๆชีสท่วมๆที่เมกายิ่งนัก หมูย่างร้านนี้ก็หอมอร่อยมั่กๆค่ะ เกรียบนอกนิ่มใน โอย พิมพ์แล้วอยากกิน! จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 26 ม.ค. 54 07:43:55

ความคิดเห็นที่ 78 แถมยังมีเครื่องปรุงสารพัดมาให้ชูรสน้องหมูอีก อันแดงๆนี่เผ็ดแซ่บดีจัง ไม่แพ้แจ่วบ้านเราเลย >_< จขกท.เห็นเค้าแถม Guacamole (อโวคาโดบดกับน้ำมะนาวและอื่นๆ) มาให้แล้วน้ำตาแทบไหล อยู่ที่เมกาจะเพิ่ม Guacamole ที ต้องจ่ายตังค์ $1-$2 แต่ที่นี่ให้กันฟรีๆไม่มีอั้น กรี๊ดดดด ปล. ถ้าใครเคยไปสเปนแล้วติดใจ Horchata ที่ร้านนี้มี Horchata สูตร Tigernut ขายด้วยนะคะ >_< ซึ่งรสชาติจะเหมือนนมอัลมอนด์ ต่างจาก Horchata พี่เม็กปกติที่ทำมาจากน้ำข้าว จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 26 ม.ค. 54 07:45:21

ความคิดเห็นที่ 79 กินทาโก้หมดไปคนละอัน พวกเราก็ถกกันว่าจะเบิ้ลทาโก้อีก หรือจะย้ายวิกไปกินไก่ย่างร้านข้างๆดี จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 26 ม.ค. 54 07:45:37

ความคิดเห็นที่ 80 แต่แหม ไก่เค้าดูน่ากิ๊นน่ากิน ลองซะหน่อยดีกว่า เด๋วน้องไก่จะน้อยใจ กร๊ากกกก จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 26 ม.ค. 54 07:45:57

ความคิดเห็นที่ 81 พวกเราถือจานน้องไก่ขึ้นเหล่าเต้งไปนั่งที่ Hot Seat ซึ่ง Hot จริงๆค่ะท่าน เพราะอยู่เหนือเตาเลย >_< ไก่เค้าก็นุ่มดีนะฮะ แต่แอบจืดไปหน่อย สรุปไก่ย่างห้าดาวไทยแลนด์อร่อยกว่าอ่ะ -_- จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 26 ม.ค. 54 07:46:31

ความคิดเห็นที่ 82 หมดวันแรกไปแล้ว ทู้หน้าเตรียมพบกับมหกรรมอาร์ตทะลุกำแพงกันต่อนะค๊า โปรดติดตามเน้อ จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 26 ม.ค. 54 07:47:00

ความคิดเห็นที่ 83 กรี๊ดดดด มาแล้วๆ ตามไปกิน ตามไปเที่ยว >_< จากคุณ : Clear Ice เขียนเมื่อ : 26 ม.ค. 54 07:48:33

ความคิดเห็นที่ 84 ปล. จขกท.ต้องไปทำงานต่างเมือง ไม่อยู่บ้าน 3 วันนะฮะ ฉะนั้นเดี๊ยนจะกลับมาตอบเมนต์ทุกท่านในวันอาทิตย์นะค๊า ขออภัยในความไม่สะดวกไว้ ณ ที่นี้เจ้าค่ะ เพื่อเป็นการไถ่โทษ ขอฝากภาพชุด งานฉลอง 200 ปีเอกราชเม็กซิโกเมื่อเดินกันยาที่ผ่านมาให้ชมนะคะ อลังการโพดๆขอโบก http://www.boston.com/bigpicture/2010/09/mexicos_bicentennial.html จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 26 ม.ค. 54 07:51:01