ความคิดเห็นที่ 1 หลังจากใส่บาตรเสร็จ ก็เดินเล่นบนสะพาน ได้รูปสวยๆมาหลายรูป อากาศเย็นได้ใจเลยค่ะ และมีหมอกเยอะมากๆ จากคุณ : Rainy in the blue sky เขียนเมื่อ : 2 ม.ค. 54 23:52:41

ความคิดเห็นที่ 2 ตอนที่มาถึงนี่มืดจนไม่เห็นอะไร เห็นแต่ไฟบนสะพาน แต่พี่เจ้าของร้านที่ขายของใส่บาตรใจดี พาเดินพร้อมให้ลูกชายเล่าประวัติสะพานให้ฟัง จากคุณ : Rainy in the blue sky เขียนเมื่อ : 2 ม.ค. 54 23:53:51

ความคิดเห็นที่ 3 สะพานมอญ สร้างโดยหลวงพ่ออุตตมะและลูกศิษย์ชาวมอญ โดยเป็นสะพานไม้ที่ยาวเป็นอันดับสองของโลก (อันดับหนึ่งอยู่ในพม่า) จากคุณ : Rainy in the blue sky เขียนเมื่อ : 2 ม.ค. 54 23:56:39

ความคิดเห็นที่ 4 ที่นี่สงบเงียบมากๆ โดยฉพาะยามเช้ามืดในวันธรรมดาๆ การที่ได้มาตั้งแต่เช้า ทำให้เราได้สัมผัสวิถีชีวิตของชาวมอญในแถบนี้ กลิ่นควันไฟ กลิ่นทำอาหาร ... ได้ความสุขไปอีกแบบค่ะ จากคุณ : Rainy in the blue sky เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 54 00:03:31

ความคิดเห็นที่ 5 รีวิวดึก ... ก็เหงาตามเคยค่ะ ... ไม่ได้ไปเที่ยวไหนซะด้วย ------------ ตอนที่เราไป สะพานกำลังปรับปรุง ให้สูงขึ้น กว้างขึ้น เพื่อความปลอดภัย แต่ยังเหลือบางส่วนที่เป็นสะพานเก่า ซึ่งว่ามันดูขลังกว่านะ จากคุณ : Rainy in the blue sky เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 54 00:06:05

ความคิดเห็นที่ 6 เมื่อเดินไปเรื่อยๆ ก็จะได้วิวต่างๆกัน สวยทุกมุมเลย ถ้ามานอนก็คงจะชิลไปอีกแบบ จากคุณ : Rainy in the blue sky เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 54 00:08:16

ความคิดเห็นที่ 7 ที่นี่ มีชื่อเรียกว่าสามประสบ ก็เพราะว่ามีแม่น้ำสามสายไหลมาบรรจบกัน คือ แม่น้ำซองกาเรีย, บีคลี่, และ รันตี จากคุณ : Rainy in the blue sky เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 54 00:09:37

ความคิดเห็นที่ 8 หันกลับไป ก็จะเห็นสะพานที่รถขับข้ามมา จากคุณ : Rainy in the blue sky เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 54 00:10:24

ความคิดเห็นที่ 9 เมื่อเดินถ่ายรูปกันจนพอใจ ก็มาหาอะไรใส่ท้อง ซึ่งบรรยากาศแบบนี้ก็ต้องโจ๊ก และ ปาท่องโก๋ พร้อมชานมร้อน อร่อยอย่าบอกใครค่ะ ซึ่งในชุมชนเล็กๆแห่งนี้ก็จะมีอยู่ไม่กี่ร้าน ดังนั้น เพื่อนเราบางคนก็เลยอดกิน จากคุณ : Rainy in the blue sky เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 54 00:12:24

ความคิดเห็นที่ 10 เมื่อแดดออกเต็มที่ กลุ่มของเราก็จ้างเรือไปยังวัดจมน้ำ โดยสนนราคา สองลำห้าร้อย จากคุณ : Rainy in the blue sky เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 54 00:13:57

ความคิดเห็นที่ 11 ได้ดอกไม้มาไหว้พระด้วย ตอนก่อนใส่บาตร จะมีชาวบ้านนำดอกไม้เหล่านี้มาขายช่อละสิบบาท ซึ่งถ้าซื้อของใส่บาตรเป็นชุด ก็จะมีดอกไม้ให้อยู่แล้วค่ะ จากคุณ : Rainy in the blue sky เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 54 00:15:56

ความคิดเห็นที่ 12 เรือที่เรานั่งมาค่ะ จากคุณ : Rainy in the blue sky เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 54 00:16:54

ความคิดเห็นที่ 13 เพิ่งกลับจากโคราช ขอตามไปเที่ยวด้วยคนนะคะ ^_^ จากคุณ : เขียนบน iPhone (~~Air Mail~~) เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 54 00:17:40

ความคิดเห็นที่ 14 วัดจมน้ำ (เนื่องจากการสร้างเขื่อน) เหลือเพียงซากปรักหักพัง จากคุณ : Rainy in the blue sky เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 54 00:20:04

ความคิดเห็นที่ 15 -- สวัสดีค่ะ คุณ ~~Air Mail~~ เที่ยวสนุกมั้ยคะ อยากไปจิม ทอมป์สันฟาร์ม แต่ไม่มีโอกาสสักที ---------------- บริเวณวัดจมน้ำค่ะ ลมเย็นๆ ชิลมาก จากคุณ : Rainy in the blue sky เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 54 00:22:30

ความคิดเห็นที่ 16 หอระฆังจมน้ำค่ะ จากคุณ : Rainy in the blue sky เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 54 00:24:11

ความคิดเห็นที่ 17 แวะขึ้นไปไหว้พระที่เจดีย์พุทธคยาจำลอง แล้วให้รถตู้มารอรับที่นี่ เพื่อไปกราบหลวงพ่ออุตตมะที่วัดวังก์วิเวการามค่ะ จากคุณ : Rainy in the blue sky เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 54 00:26:57

ความคิดเห็นที่ 18 และแล้วก็อำลาสะพานมอญด้วยภาพนี้ จากคุณ : Rainy in the blue sky เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 54 00:27:48

ความคิดเห็นที่ 19 ข้ามสะพานมานิดเดียว ก็แวะดื่มกาแฟกันที่ graph cafe ซึ่งเป็นร้านเล็กๆชิลๆ ก่อนจะมุ่งหน้ากลับไปยังเหมืองสมศักดิ์ วันนี้ต้องขอไปนอนก่อนแล้วค่ะ เดี๋ยวพรุ่งนี้จะพากระท่อนกระแท่นเข้าเหมือง และ ปีนต้นไม้บนบ้านทาร์ซานนะคะ จากคุณ : Rainy in the blue sky เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 54 00:30:16

ความคิดเห็นที่ 20 ตามไปเที่ยวด้วยค่ะ จากคุณ : ป้าฟู เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 54 04:45:57

ความคิดเห็นที่ 21 ตามไปไปเที่ยวด้วยคนนะคะ จากคุณ : snas89Pink เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 54 08:56:19

ความคิดเห็นที่ 22 ตามมาเที่ยวครับ ไปเหมืองปิล็อค สามารถขับรถำไปเองได้ใช่ไหมครับ จากคุณ : BaNkmAn เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 54 11:07:37

ความคิดเห็นที่ 23 บรรยากาศดีจังเลยค่ะ ขอบคุณสำหรับรีวิวรูปสวยมากนะคะ   จากคุณ : สาวหน้าใส เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 54 16:52:27

ความคิดเห็นที่ 24 สวัสดีค่ะ กลับมาแล้วค่ะ หลังจากหายไปทั้งวัน คุณ ป้าฟู, snas89Pink, BaNkmAn, สาวหน้าใส ... ไปเที่ยวกันต่อนะคะ คุณBaNkmAn เหมืองปิล็อค ขับไปเองได้ค่ะ แต่ว่าต้องเป็นโฟร์วีล แต่ว่าทางนี่สุดยอดมาก เดี๋ยวจะเล่าให้ฟังค่ะ ----------- หลังจากออกจากสังขละบุรีอย่างเป็นทางการ เราก็แทบหมดแรงจากการผ่านแต่ละโค้ง ซึ่งคดเคี้ยวอย่างคาดไม่ถึง (เพราะเมื่อคืนหลับตลอด =_=!) แต่ละชั่วโมงนี่ทรมานมากๆ นั่งมาสักสองชั่วโมง ก็แวะทานอาหารกลางวันที่แพ VIP ที่นี่ปลาคังลวก อร่อยมากค่ะ แล้วก็ผักกูด สุดยอดจริงๆ จากนั้นก็คดเคี้ยวต่อจนควักยาดมยาหม่องกันขึ้นมากันถ้วนหน้า กว่าจะถึงจุดชมวิวก็บ่ายๆค่ะ พักเข้าห้องน้ำ สูดหายใจ ก่อนไปต่อ จากคุณ : Rainy in the blue sky เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 54 17:14:09

ความคิดเห็นที่ 25 ในที่สุดก็ถึง สภต.ปิล็อก ซึ่งเรานัดให้รถของเหมืองสมศักดิ์มารับที่นี่ งานนี้พี่รถตู้ทั้งสองคันก็พักค้างคืนกันที่นี่ จนกว่าพวกเราจะกลับออกมาค่ะ ทางเข้าเหมือง ประมาณ 4.5 กิโล กระท่อนกระแท่นเอาเรื่องเลยค่ะ แต่ตอนที่เราไป อากาศกำลังสบาย และแดดร่มแล้ว ก็เลยสนุกสนานกับการก้มหลบกิ่งไม้ระหว่างทาง ทางบางช่วงแคบและเป็นหลุม แต่เนื่องจากเป็นรถของเหมืองเอง ก็เลยชำนาญทาง ไม่ปัญหาค่ะ นั่งเพลินๆแป๊บเดียวก็ถึง จากคุณ : Rainy in the blue sky เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 54 17:19:57

ความคิดเห็นที่ 26 พอมาถึง ป้าเกล็นก็ออกมาต้อนรับ พร้อมทั้งเชื้อเชิญให้พวกเราทานเค้ก ชา กาแฟ ซึ่งเราว่าเค้กอร่อยทุกอย่างเลยค่ะ โดยเฉพาะแครอทเค้กนุ่มมากๆ (ปกติที่เคยทาน เจอแต่แข็งๆร่วนๆ) แล้วก็เค้กกาแฟ จากคุณ : Rainy in the blue sky เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 54 17:22:28

ความคิดเห็นที่ 27 ที่นี่อากาศเย็นสบาย เพราะเหมือนอยู่ในหุบเขา มีลำธารเล็กๆ ให้ชุ่มชื้น บ้านที่เรานอน เป็นเรือนแถวมีทั้งหมดสี่ห้อง (โดยที่หนุ่มๆอีกสี่คนต้องแยกมานอนอีกโซนนึง)  ไฟฟ้าที่นี่ปั่นเป็นเวลา โดยเริ่มประมาณห้าโมง เป็นพลังน้ำมัน แล้วพอสามทุ่มจึงจะเปลี่ยนเป็นพลังน้ำ และจะปิดประมาณเที่ยงคืน เรือนแถวที่นี่ก็ค่อนข้างจะโทรม (แต่ห้องน้ำเหมือนจะปรับปรุงใหม่กว่าส่วนห้องนอน) หน้าต่างเป็นรูเยอะเหมือนกัน แต่ก็มีอุปกรณ์ต่างๆให้เหมือนที่พักทั่วๆไปค่ะ จากคุณ : Rainy in the blue sky เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 54 17:26:27

ความคิดเห็นที่ 28 ด้านหลังของเรือนแถวจะเป็นสนามหญ้าและโต๊กินข้าว พร้อมเตาบาร์บีคิว ซึ่งจะมีพนักงานมาปิ้งให้ค่ะ ตอนแรกเรานึกว่ามีแค่บาร์บีคิว ก็นึว่าจะไม่อิ่มซะแล้ว แต่ก็กับข้าวยกมาอีกเยอะมาก จนทานกันไม่หมด (แอบเสียดาย) อาหารอร่อยใช้ได้เลยค่ะ :D จากคุณ : Rainy in the blue sky เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 54 17:28:41

ความคิดเห็นที่ 29 ตื่นเช้ามาท่ามกลางอากาศสดชื่น ... แต่ เสียงเพื่อนข้างห้องโวยวายกันใหญ่เลยค่ะ เพราะว่าถุงขนม (เป็นสิบๆห่อ) โดนหนูกัดหมดเลย ซึ่งมันกัดแต่ห่อให้ขาด แทบไม่ได้กินขนมในถุง แต่กัดทุกห่อเลย เหมือนจะชิม น้องที่นอนห้องเก็บขนมบอกว่าได้ยินเสียงตอนกลางคืน แต่ไม่กล้าลุกมาดู =_=" ส่วนเราเจอน้องหนูตัวเบิ้มนี่โผล่มาจ๊ะเอ๋ตอนอาบน้ำเหมือนกัน เป็นอันว่าอดกินขนม อาหารเช้าที่นี่ก็อร่อยทุกอย่างเลยค่ะ ขนมปังนุ่มและหอมมากๆ ซึ่งเราชอบสุดๆก็เอาจุ่มกับน้ำผึ้ง ...แง่มๆ ไม่มีใครถ่ายรูปอาหารเช้ามาเลยค่ะ มัวแต่อร่อยกัน รูปนี้เป็นต้นไม้บริเวณบ้านป้าเกล็นค่ะ จากคุณ : Rainy in the blue sky เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 54 17:38:33

ความคิดเห็นที่ 30 ก่อนกลับ ทางเหมืองจะพาเราไปเที่ยวน้ำตกผาแป ซึ่งอยู่ไม่ไกล แต่ต้องเดินเท้าเข้าไปด้วย เลนเอาหอบเลยค่ะ ระหว่างการเดิน จากคุณ : Rainy in the blue sky เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 54 17:39:30

ความคิดเห็นที่ 31 ถึงน้ำตกแล้วค่ะ จริงๆก็เดินลงไปถึงด้านล่างเลยค่ะ น้ำแรงพอใช้ และน้ำเย็นมากๆ จากคุณ : Rainy in the blue sky เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 54 17:40:41

ความคิดเห็นที่ 32 ในแพ็คเกจของป้าเกล็น นอกจาก ที่พัก อาหารเย็น อาหารเช้า เค้ก แล้ว ก็ยังรวมการพาเที่ยวสถานที่ต่างๆ อย่างน้ำตกผาแป หมู่บ้านอีต่อง เนินเสาธง และน้ำตกจ๊อกกะดิ่น ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับเวลาที่มีค่ะ จากน้ำตกผาแป เราก็ไปยังเนินเสาธง ซึ่งเป็นชายแดนไทย-พม่า แล้วก็ไปเดินเล่นที่บ้านอีต่อง ซึ่งเป็นที่ที่เราซื้อปูพม่าเอาไปทำกินกันคืนนี้ค่ะ บ้านอีต่องนี่มีถนนคนเดินด้วย ร้านรวงที่นี่ก็เล็กๆน่ารักค่ะ จากคุณ : Rainy in the blue sky เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 54 17:45:57

ความคิดเห็นที่ 33 แล้วก็ ที่สุดท้ายค่ะ น้ำตกจ๊อกกะดิ่น ที่ชื่อฟังดูจั๊กจี้ แต่ว่าสวยมากๆค่ะ น้ำเป็นสีเขียวเลย จากคุณ : Rainy in the blue sky เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 54 17:47:06

ความคิดเห็นที่ 34 ได้เวลาบ๊ายบายเหมืองสมศักดิ์ พี่รถตู้ก็มารอเราที่หน้าน้ำตก เพื่อพาไปอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ ซึ่งก็ใกล้กันนิดเดียวค่ะ มาถึงแล้วก็แอบตกใจ เพราะคนเยอะมาก จุดชมวิวเนินช้างเผือก ภายในอุทยานค่ะ จากคุณ : Rainy in the blue sky เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 54 17:49:19

ความคิดเห็นที่ 35 ถายรูปกันพักใหญ่ ก่อนจะกลับไปนั่งเล่นกันที่บ้านทาร์ซาน ซึ่งเราจองได้บ้านทาร์ซาน 3-4 ซึ่งเชื่อมกัน จากคุณ : Rainy in the blue sky เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 54 17:50:53

ความคิดเห็นที่ 36 บ้านทาร์ซาน 3-4 จะเป็นสองหลังเชื่อมกัน โดยตรงกลางจะมีชานพัก ซึ่งเราว่าเป็นจุดชมวิวที่สวยกว่าเนินช้างเผือกซะอีก จากคุณ : Rainy in the blue sky เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 54 17:53:44

ความคิดเห็นที่ 37 ภายในห้องพักค่ะ เราไม่ค่อยปลื้มห้องน้ำที่นี่เท่าไหร่ แต่ก็ดีกว่าห้องน้ำรวมล่ะเนอะ แล้วจริงๆก็ไม่ค่อยได้ใช้หรอกค่ะ เพราะว่าหนาวจนไม่อยากอาบน้ำเลย จากคุณ : Rainy in the blue sky เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 54 17:56:49

ความคิดเห็นที่ 38 ตกกลางคืนช่างมืดมิดค่ะ เพราะว่ากว่าไฟจะมาฟ้าก็เริ่มมืด แต่พอดีเนื่องจากช่วงที่เราไปเป็นช่วงเทศกาล เค้าก็เลยขยายเวลาเปิดไฟไปถึงตีสอง พอเช้ามา สิ่งที่ปลุกเรามให้รู้สึกตัว ก็คือ ความสั่นสะเทือนของบ้าน แรกๆเราก็ไม่สนใจ แต่ไปๆมาๆชักสั่นหนักเข้า ก็เลยลุกออกมาดูพระอาทิตย์ขึ้น พอเดินออกมา ก็เป็นงง เพราะว่ามีคนเต็มชานบ้านเลย +_+ เราว่ามันก็ไม่ใช่เรื่องเสียหายที่จะแบ่งปันให้คนอื่นขึ้นมาชมวิว แต่เราว่ามันแปลกที่จะขอขึ้นมาชมวิวบ้านคนอื่น (อันนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวนะคะ) เพราะถ้าเป็นเรา เราก็คงไม่กล้า วิวจากชานบ้านค่ะ จากคุณ : Rainy in the blue sky เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 54 18:04:23

ความคิดเห็นที่ 39 แขกที่มาเยี่ยมชมนี่นับสิบคนเลยค่ะ แถมบางคนก็ไม่ได้อยู่แค่ชานพักด้วย แต่เดินมาถึงชานหน้าห้องนอน เราก็เลยว่ามันออกจะเกินขอบเขตไปสักหน่อย แต่ก็คิดว่า บ้านทาร์ซานคงเป็นอะไรที่แปลกตา และจุดชมวิวที่เนินช้างเผือกคงคนทะลักเป็นแน่แท้ จากคุณ : Rainy in the blue sky เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 54 18:06:12

ความคิดเห็นที่ 40 สุดท้ายแล้ว คนที่มาเยี่ยมก็คงเกรงใจ เพราะพวกเราเริ่มตื่นกันออกมา และแต่ละคนก็หน้าตาเลิ่กลั่กที่เห็นคนแปลกหน้าอยู่บนบ้าน จากคุณ : Rainy in the blue sky เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 54 18:07:22

ความคิดเห็นที่ 41 บ้านทาร์ซานยามเช้า สวยมากๆเลยค่ะ เสียดายแทนเพื่อนที่ไม่ยอมตื่นขึ้นมาดู จากคุณ : Rainy in the blue sky เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 54 18:08:12

ความคิดเห็นที่ 42 เช้านี้ เนื่องจากคนในอุทยานเยอะมากๆ เลยเหลือแค่ข้าวไข่เจียวคนละกล่อง จากคุณ : Rainy in the blue sky เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 54 18:09:44

ความคิดเห็นที่ 43 วิวจากใต้ถุนบ้าน ซึ่งต้องเดินระวังเล็กน้อย เพราะท่อน้ำจากส้วมห้องนึงรัวขนาดที่ว่า พอกดชักโครก น้ำก็จะ โพล้ะ ลงมา จากคุณ : Rainy in the blue sky เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 54 18:11:50

ความคิดเห็นที่ 44 อำลาน้องแจ๋วแหวว ...ดาราประจำทองผาภูมิ แล้วก็ออกเดินทางกลับกรุงเทพ ต้องอดทนกับหลายต่อหลายโค้ง ทำให้รู้สึกว่าเราคงแก่แล้วล่ะ ถึงได้เมารถขนาดนี้ -_-" จากคุณ : Rainy in the blue sky เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 54 18:12:46

ความคิดเห็นที่ 45 ระหว่างทางกลับ ก็แวะช่องเขาขาด ซึ่งเป็นพิพิธภัณฑ์ที่เราว่า "เจ๋ง" มากๆ สำหรับประเทศไทย เดินเข้าไปยังนึกว่าเป็นพิพิธภัณฑ์ในสิงคโปร์ จากที่คิดว่าจะใช้เวลาอยู่ที่นี่สักแป๊บเดียว ก็กลายเป็นสองชั่วโมง เล่นเอาคนขับรถหิวเลย จากคุณ : Rainy in the blue sky เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 54 18:14:46

ความคิดเห็นที่ 46 ภายในพิพิธภัณฑ์จะเป็นทางเดินในป่าไผ่ให้เราได้สัมผัสความรู้สึกของเชลย Tips: มีเครื่องบรรยายหลายภาษา (จำไม่ได้ว่ามีภาษาอะไรบ้าง) ให้ยืมฟรีที่เคาน์เตอร์ โดยจ่ายมัดจำสองร้อยบาท ที่เครื่องจะมีปุ่มกดหมายเลยจุดต่างๆภายในพิพิธภัณฑ์ ซึ่งจะทำให้เราเข้าถึงสิ่งที่เค้าตั้งใจจะนำเสนอมากขึ้น และจะช่วยให้การเดินเท้ามีอรรถรสมากขึ้น จากคุณ : Rainy in the blue sky เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 54 18:18:23

ความคิดเห็นที่ 47 กว่าจะออกมาได้ก็บ่ายแก่ แวะทานข้าวบ่ายกันที่น้ำตกไทรโยคน้อย แล้วก็มุ่งหน้ากลับกรุงเทพ ทริปนี้เบ็ดเสร็จประมาณคนละสี่พันบาท นับว่าเป็นทริปที่มีรสชาติหลากหลาย สนุกมากๆเลยค่ะ :D ขอบคุณทุกๆคนที่เข้ามาชมรีวิวนะคะ จากคุณ : Rainy in the blue sky เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 54 18:27:15

ความคิดเห็นที่ 48 ขอบคุณมากๆครับผม จากคุณ : digimontamer เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 54 20:51:07

ความคิดเห็นที่ 49 ขอบคุณครับ .. กำลังจะเขียนทริปเที่ยวกาญจน์เส้นนี้อยู่พอดี ขอบคุณมากๆครับ ว่าแต่ อยากทราบราคารถตู้จังเลย พอจะบอกได้มั้ยครับ จากคุณ : แมลงภู่บนหูกระต่าย เขียนเมื่อ : 21 ม.ค. 54 20:06:50