ความคิดเห็นที่ 1 เริ่มจากสิ่งที่ประทับใจก่อนละกันนะครับ … ก็คือ ความเป็นธรรมชาติของทั้งทะเล หาดทราย รวมทั้งป่า ที่ยังสวยอยู่ ถ้าให้ผมไปนั่งๆ นอนๆ อยู่ริมหาดทั้งวัน ผมก็เอานะครับ … จากคุณ : ผู้ก่อการร้ายทางความคิด เขียนเมื่อ : 16 ธ.ค. 53 23:24:55

ความคิดเห็นที่ 2 ตัวบ้านพักและสถานที่ของอุทยานที่ดีเกินคาด (เท่าที่ไปมาผมให้เป็นอุทยานที่มีการดูแลเรื่องห้องน้ำดีที่สุดเลย) รวมทั้งการบริการจากทัวร์ที่พาไปเป็นอย่างดี… จากคุณ : ผู้ก่อการร้ายทางความคิด เขียนเมื่อ : 16 ธ.ค. 53 23:25:32

ความคิดเห็นที่ 3 แต่ที่ผิดความคาดหมายที่สุดและเป็นสิ่งที่เหมือนเป็นไฮไลท์ของการไปเยี่ยมชมหมู่เกาะสุรินทร์ก็คือ ปะกะรังครับ… เพราะที่ผมอยากไปที่นี่มาก ก็เพราะได้ยินหลายๆ คนบอกว่าที่นี่ คือ สวรรค์ของการดำน้ำตื้น เพียงแค่เราเอาหน้าจุ่มลงไปในทะเลก็เหมือนได้เจอโลกอีกโลกหนึ่งแล้ว… แต่สิ่งที่ได้พบหลังจากได้ดำน้ำก็คือ ภาพปะการังที่ฟอกขาวแบบนี้ครับ… จากคุณ : ผู้ก่อการร้ายทางความคิด เขียนเมื่อ : 16 ธ.ค. 53 23:26:35

ความคิดเห็นที่ 4 ซึ่งถ้าถามว่าก่อนมาได้รู้ข่าวบ้างหรือเปล่า ผมก็ไม่ค่อยได้ข่าวเท่าไหร่ ส่วนคนข้างกายเองบอกว่าได้ข่าวเหมือนกัน แต่ไม่คิดว่าจะเป็นเยอะขนาดนี้ (เท่าที่ผมประเมินอาจจะเรียกได้ว่า 99% ของปะการังได้ฟอกขาวไปหมดแล้วครับ) … ซึ่งถ้าถามถึงความยิ่งใหญ่ อลังการของปะการังที่นี่ ก็ยังยิ่งใหญ่อยู่ เพียงแต่ว่ามันผิดกับที่คาด ประมาณว่า เราอยากจะไปดูแสงสีที่กรุงเทพ แต่พอไปจริงดันมาเจอเมืองเก่าแบบอยุธยาแทนครับ… จากคุณ : ผู้ก่อการร้ายทางความคิด เขียนเมื่อ : 16 ธ.ค. 53 23:27:28

ความคิดเห็นที่ 5 พอเจอภาพแบบนี้ กลับมาก็เลยมาหาข้อมูลเรื่องปะการังฟอกขาวเพิ่มขึ้น... จนทำได้รู้ว่าปัจจุบันปะการังในบริเวณเอเชีย แปซิฟิคได้เกิดภาวะฟอกขาวขึ้น เนื่องจากอุณหภูมิของน้ำที่เพิ่มสูงขึ้นตามปรากฏการณ์ El Nino … ซึ่งทำให้ไม่แต่หมู่เกาะสุรินทร์หรือประเทศไทย แต่ทั้งมาเลเซีย อินโดนีเซีย ไปจนถึงออสเตรเลียต่างก็ได้รับผลกระทบกันโดยทั่ว… จากคุณ : ผู้ก่อการร้ายทางความคิด เขียนเมื่อ : 16 ธ.ค. 53 23:28:24

ความคิดเห็นที่ 6 ซึ่งจริงๆ ก็มีข่าวออกอยู่เหมือนกัน (แต่อาจจะไม่ใช่ข่าวในความสนใจนัก)… “วิกฤตปะการังฟอกขาว นักวิชาการจี้หามาตรการรับมือ” http://www.dmcr.go.th/dmcr2009/bbs/viewthread.php?tid=673&extra=page%3D1 สิ่งที่ผมรู้สึกและคิดแทบจะตลอดตั้งแต่กลับมาก็คือ ทำไมถึงเหมือนไม่ค่อยมีใครสนใจเรื่องนี้เท่าไหร่นัก... ทั้งๆ ที่สำหรับผมผลกระทบมันน่าจะรุนแรง ทั้งทางด้านธรรมชาติและด้านเศรษฐกิจ เผลอๆ อาจจะมากกว่าประเด็นเรื่องการตัดถนนขึ้นเขาใหญ่เสียด้วยซ้ำ (เพียงแต่เรื่องนี้มันเกิดจากธรรมชาติ)... ซึ่งผมก็ไม่แน่ใจนักว่าผู้ที่เกี่ยวข้องได้มีการวางแผนรองรับไว้อย่างไร… จากคุณ : ผู้ก่อการร้ายทางความคิด เขียนเมื่อ : 16 ธ.ค. 53 23:29:47

ความคิดเห็นที่ 7 แต่จากความคิดเห็นจากนักท่องเที่ยวคนหนึ่ง ซึ่งไม่ได้มีความรู้เรื่องปะการังมากนัก ก็คือ... ผมคิดว่าปะการังที่หมู่เกาะสุรินทร์ (และอาจจะรวมที่อื่นๆ ในประเทศไทย) คงต้องใช้เวลานานพอสมควรในการฟื้นตัว… ซึ่งประเด็นในเรื่องการฟื้นฟูนั้น ผมว่าทางรัฐควรจะมีมาตรการฟื้นฟูอย่างจริงจัง ถ้าสถานการณ์มันหนักมากก็ควรจะปิดจุดนั้นไปเสียด้วยซ้ำ… และรู้สึกว่าทางมาเลเซียก็ได้ปิดจุดดำ scuba บางแห่งไปแล้ว … “Top dive spots closed due to coral bleaching” http://thestar.com.my/news/story.asp?file=/2010/7/22/nation/6713555&sec=nation ซึ่งบางทีการปิดจุดดำน้ำไปก็อาจจะเป็นทางเลือกที่ดีทั้งต่อการฟื้นฟูและชื่อเสียงของการเป็นแหล่งดำน้ำของเราอีกด้วย... เนื่องจากผมเชื่อว่าชาว ตปท. หรือแม้แต่คนไทยหลายๆ คนก็คงคาดหวังว่าสิ่งที่จะได้เห็นใต้น้ำจะเหมือนสิ่งที่ได้คาดไว้ก่อนมา… และที่แปลกใจก็คือ ผมได้คุยกับเจ้าของบริษัทที่นำเที่ยวหมู่เกาะสุรินทร์ก่อนกลับ ตัวเจ้าของเองแกยังบอกเลยว่าถ้าเอาเข้าจริงแล้วแกยังอยากให้ประกาศปิดไปเลยจะดีกว่า… จากคุณ : ผู้ก่อการร้ายทางความคิด เขียนเมื่อ : 16 ธ.ค. 53 23:31:30

ความคิดเห็นที่ 8 หรือถ้าคิดว่าการปิดเกาะเพื่อฟื้นฟูนั้น มันจะส่งผลกระทบทางเศรษฐกิจต่อคนที่มีอาชีพเกี่ยวข้องอยู่ในนั้น... เราก็คงต้องยอมรับความจริงกันว่า การดำน้ำดูปะการังน้ำตื้นที่หมู่เกาะสุรินทร์ จะไม่ใช่ไฮไลท์ของการไปที่นั่นอีกต่อไป… ดังนั้นก็คงต้องหาจุดขายอื่น เช่น การมาพักผ่อนที่ชายหาดอย่างสงบ (ถึงหาดที่นี่อาจจะสวยสู้สิมิลันไม่ได้ก็เถอะ)... ไปชมสัตว์ทะเลหายาก พวกเต่าทะเล ฉลามวาฬ หรือจะเปลี่ยนแนวไปเดินป่าเลยก็ได้ ถ้ามันไม่กระทบสิ่งแวดล้อม… เพราะถ้าเรายังจะขายหมู่เกาะสุรินทร์ด้วยเรื่องการดำน้ำต่อไป ผมว่ามันจะยิ่งทำลายชื่อเสียงการเป็นจุดดำน้ำตื้นที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะถ้าดำน้ำตอนนี้สิ่งที่เจอก็จะมีแต่ปะการังที่ฟอกขาวแบบนี้เท่านั้น… จากคุณ : ผู้ก่อการร้ายทางความคิด เขียนเมื่อ : 16 ธ.ค. 53 23:33:55

ความคิดเห็นที่ 9 ทั้งหมดที่ผมโพสท์มาก็เพื่ออยากจะให้หลายๆ คนทั้งที่อาจจะเคยไปหมู่เกาะสุรินทร์แล้วหลงรัก หรือไม่เคยไปแต่สนใจในธรรมชาติ... ได้เห็นถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในปัจจุบันนี้ เผื่ออาจจะมีใครได้เข้าไปดูแลและแก้ไขอย่างจริงจังมากขึ้นครับ… เพราะสำหรับตัวผมเอง ถึงแม้ว่าจะเจอแต่ปะการังฟอกขาวแบบนี้ ทริปนี้ก็ยังเป็นทริปที่น่าประทับใจและผมก็ยังอยากกลับไปอีกครั้ง เพื่อที่จะได้เห็นโลกใต้บาดาลที่สวยอย่างที่ร่ำลือกันอีกครั้งครับ… จากคุณ : ผู้ก่อการร้ายทางความคิด เขียนเมื่อ : 16 ธ.ค. 53 23:35:48

ความคิดเห็นที่ 10 ปาดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด ไปด้วยนะคะ จากคุณ : คนช่างฝัน สาวข้างบ้าน เขียนเมื่อ : 16 ธ.ค. 53 23:49:00

ความคิดเห็นที่ 11 เวลาธรรมชาติเอาคืน ก็มักจะรุนแรงแบบนี้เสมอแหละค่ะ แต่ถ้าหันไปเน้นจุดขายอื่น เช่น หาดสวยในวันพักผ่อน แบบนี้ผู้ประกอบการคงพออยู่รอดได้บ้างนะคะ ขอบคุณที่นำประสบการณ์มาแบ่งปันความคิดเห็นนะคะ จากคุณ : คนช่างฝัน สาวข้างบ้าน เขียนเมื่อ : 16 ธ.ค. 53 23:55:28

ความคิดเห็นที่ 12 มาดึกเชียวนะพี่ก่อ จากคุณ : Palm Jung Won เขียนเมื่อ : 17 ธ.ค. 53 00:00:51

ความคิดเห็นที่ 13 โอ น่าเป็นห่วงจริงๆ ไปเที่ยวเมื่อ2ปีที่แล้ว  ประทับใจมาก มองไปที่ไหนก็เจอแต่ประการังสุดลูกหูลูกตา  ไม่ใช่แค่เป็นหย่อมๆ ได้เจอกระเบนราหูที่นี่ด้วย จากคุณ : tee-aun เขียนเมื่อ : 17 ธ.ค. 53 00:03:50

ความคิดเห็นที่ 14 ขอบคุณครับ จากคุณ : Title_boy เขียนเมื่อ : 17 ธ.ค. 53 00:13:31

ความคิดเห็นที่ 15 ขอบคุณที่มาบอกกล่าวกัน งั้นสิ้นเดือนกุมภาปีหน้า ผมคงไม่ไปแล้วหละครับ ตอนแรกกะว่าลงเครื่องภูเก็ตแล้วจะมานอนสัก3วัน2คืน เจอแบบนี้ผมไปสิมิลันแทนดีกว่า จากคุณ : palm เขียนเมื่อ : 17 ธ.ค. 53 00:14:53 A:182.52.6.52 X: TicketID:006871

ความคิดเห็นที่ 16 อ่านแล้วก็ใจหายครับ :( จากคุณ : Coffee Blended เขียนเมื่อ : 17 ธ.ค. 53 00:36:59

ความคิดเห็นที่ 17 เห็นด้วยกับคุณคนช่างฝัน สาวข้างบ้าน  เลยค่ะ   จากคุณ : DOGHALL เขียนเมื่อ : 17 ธ.ค. 53 03:06:14

ความคิดเห็นที่ 18 99% ของปะการังได้ฟอกขาวไปหมดแล้วครับ การดำน้ำดูปะการังน้ำตื้นที่หมู่เกาะสุรินทร์ จะไม่ใช่ไฮไลท์ของการไปที่นั่นอีกต่อไป .......... โอ้ น่าตกใจ ใครไปมาปีก่อนและได้ไปปีนี้มาแล้ว คอนเฟิร์มข้อมูลด้วยนะค๊ะว่าเปลี่ยนไปแบบมากมายจริงหรอ..... เรามีแพลนไปมก.สุรินทร์ต้นปีซะด้วยสิ จากคุณ : ดวงดาว หัวใจ ดอกไม้ ชายทะเล เขียนเมื่อ : 17 ธ.ค. 53 03:06:37

ความคิดเห็นที่ 19 เสียดายจังค่ะ   จะมีใครแก้ไขอะไรได้บ้างไหมเนี่ย.. จากคุณ : ป้าฟู เขียนเมื่อ : 17 ธ.ค. 53 03:35:04

ความคิดเห็นที่ 20 ขอบคุณสำหรับความคิดเห็นที่มาแบ่งปัน      เห็นด้วยครับ จากคุณ : หนุ่ม ณ วันวาน เขียนเมื่อ : 17 ธ.ค. 53 05:12:34

ความคิดเห็นที่ 21 ไปเที่ยวด้วยคนนะคะ จากคุณ : snas89Pink เขียนเมื่อ : 17 ธ.ค. 53 07:45:50

ความคิดเห็นที่ 22 น่าเป็นห่วงจังค่ะแล้วแบบนี้ที่เกาะสิมิลันจะเป็นด้วยมั๊ยคะเนี่ย ตอนแรกก็ไม่ทราบว่าฟอกขาวคืออะไร ขอบคุณสำหรับข้อมูลนะคะ จากคุณ : Princess of Napier เขียนเมื่อ : 17 ธ.ค. 53 07:48:09

ความคิดเห็นที่ 23 อยากให้ช่วยกันลดโลกร้อนกันเยอะๆ คนเราทั้งนั้นที่ทำให้ธรรมชาติถูกทำลายมากขึ้นทุกวัน จากคุณ : inint&anant เขียนเมื่อ : 17 ธ.ค. 53 07:54:27

ความคิดเห็นที่ 24 เคยไปดำน้ำที่นี่เมื่อสักปี...อะไรหว่า  ก่อนเกิดสินามิ ขอบอกว่าปะการังน้ำตื้นที่หมู่เกาะสุรินทร์สวยงามีสีสันละลานตา แต่ละอ่าวสวยแตกต่างกันไป ประกอบกับปลาน้อยปลาใหญ่หลากหลายพันธ์  สวยยิ่งใหญ่อลังการ อย่างกับดำน้ำอยู่ในวิมาลอันงดงามสุดจะพรรณา   และขอชมเชยสภาพแวดล้อมของอุทยานที่นี่ ห้องน้ำ อาหารการกินดี  และที่พักที่เคยนอนเต้นท์สะอาดที่สุดเท่าที่เคยนอนเต้นท์ของอุทยานมาหลายแห่ง  ฟูก ผ้าห่ม หมอน สะอาดหอมฟุ้ง จากนั้นต่อมา และระยะหลังมาดำน้ำที่หลีเปะ สิมิรัน.....ฯ  ไม่มีที่ไหนเทียบหมู่เกาะสุรินทร์ได้อีกเลย มาเห็นรูปในปัจจุบัน เศร้าใจเหลือหลาย ไม่เหลือเค้าแห่งความสวยงามเลย เสียดายกับคนรุ่นหลังที่เพิ่งจะไปเที่ยว และไม่มีโอกาสเห็นความสวยงามเหมือนเมื่อก่อน จากคุณ : superturbo เขียนเมื่อ : 17 ธ.ค. 53 07:57:04

ความคิดเห็นที่ 25 เคยได้ยินเรื่องปะการังฟอกขาวเหมือนกัน แต่ไม่คิดว่าจะเกิดผลกระทบรุนแรงขนาดนี้ ขอบคุณสำหรับข้อมูลค่ะ จากคุณ : ย้ำคิดย้ำฝัน เขียนเมื่อ : 17 ธ.ค. 53 08:04:48

ความคิดเห็นที่ 26 เสียดายฟ้าไม่แจ่ม พี่ไป เกาะตาชัยมาฝนตกหนักเลยอ่ะ ทั่นเซ็ง จากคุณ : bicycle_trend เขียนเมื่อ : 17 ธ.ค. 53 08:44:44

ความคิดเห็นที่ 27 ขอบคุณสำหรับการแบ่งปันความคิดเห็น...ที่ก่อประโยชน์มาก ๆ แบบนี้นะคะ อยากให้มนุษย์....ตอนแทนธรรมชาติกลับคืนบ้าง.... แก้ไขเมื่อ 17 ธ.ค. 53 09:30:53 จากคุณ : กานพลู...คนชอบเที่ยว เขียนเมื่อ : 17 ธ.ค. 53 09:29:36

ความคิดเห็นที่ 28 เมื่อมีนาปี ๕๓ ปะการังสียังสวยประทับใจอยู่เลย หลังใช้เวลาตั้ง ๕-๖ปีฟื้นฟูสภาพหลังสึนามิถล่ม ทำให้ติดใจมาก กะว่าจะไปปีละครั้งให้ได้ ได้ยินข่าวอย่างนี้ ก็...เศร้า เรื่องลดโลกร้อน ไม่ค่อยเห็นความหวังเลย ตราบที่ยังใช้ถุงพลาสติกฟุ่มเฟือยกันอย่างนี้ ห้างทั้งหลาย ต้องฮั้วกันเก็บค่าถุง ให้คนซื้อมีส่วนร่วมในการจ่าย..เพื่อสิ่งแวดล้อมที่ถูกกระทบ เห็นว่าจะทำ เอาเข้าจริง...ก็ไม่กล้า จากคุณ : aeroflex เขียนเมื่อ : 17 ธ.ค. 53 09:41:07

ความคิดเห็นที่ 29 งา น่าใจหาย+เสียดายโน้ะ แหล่งประการังใต้น้ำแทบจะเรียกได้ว่าที่สุดของไทยก็ว่าได้ ต้องมาเจอแบบนี้ แย่จังเลย T_T มีแพลนจะไปเดือนก.พ.ปีหน้าค่ะ งั้นขอทำใจไว้ก่อนเลย!!! จากคุณ : ตาฟาง... เขียนเมื่อ : 17 ธ.ค. 53 09:52:00

ความคิดเห็นที่ 30 คุณ คนช่างฝัน สาวข้างบ้าน : เห็นด้วยที่สุดเลยครับ ช่วงนี้อากาศดูแปลกๆ และแปรปรวนมากๆ หรือว่าปี 2012 โลกเราจะแตกแล้วจริงๆ ... คุณ Palm Jung Won : พอดีมาโพสสั้นๆ เลยเริ่มดึกๆ ได้ครับพี่เถียน... คุณ tee-aun : รู้สึกว่าทุกอย่างนี่พึ่งเริ่มเกิดเมื่อเดือน พ.ค. นี้เองครับ ผมยังเสียดายเลยว่ามาช้าไปนิดเดียวเอง... คุณ Title_boy : ... คุณ palm : ถ้าจะไปชมหาดสวยๆ ที่สิมิลันก็น่าไปกว่าครับ แต่ถ้าคิดจะไปดำน้ำตื้นเท่าที่คุยมาที่สิมิลันก็เสียหายหนักไม่แพ้กันนะครับ... คุณ Coffee Blended : ผมดำไปก็เศร้าไป มี่พี่ร่วมกรุ๊ปที่เคยไปมาก่อน บอกว่าดำได้รอบเดียวแล้วไม่ดำอีกเลย เพราะทำใจไม่ได้ ... คุณ DOGHALL : ผมก็เห็นด้วยกับคุณบีครับ ... คุณ ดวงดาว หัวใจ ดอกไม้ ชายทะเล : ก่อนไปลองโทรไปถามก่อนก็ได้ครับว่าสถานการณ์เป็นยังไง... คุณ ป้าฟู : นั่นสิครับ ผมเข้าใจว่ามันเกิดขึ้นตามธรรมชาติ แต่มันก็น่าจะมีใครที่พอช่วยทำอะไรให้มันดีขึ้นได้บ้าง เล้กๆ น้อยๆ ก็พอ... คุณ หนุ่ม ณ วันวาน : ... คุณ snas89Pink : มาช้าไปนิดนะครับ ... คุณ Princess of Napier : เท่าที่ไปคุยมา คือ ไม่เฉพาะที่สุรินทร์ แต่ทั้งสิมิลันหรือหลีเป๊ะ ถ้าเป็นปะการังน้ำตื้นก็ได้รับความเสียหายหมดครับ แต่ถ้าเป็นน้ำลึก 20 เมตรลงไปเห็นว่ายังพอดูได้อยู่ครับคุณเตย... คุณ inint&anant : เห็นด้วยเลยครับ ... คุณ superturbo : ยิ่งฟังแล้วยิ่งเสียดาย เจอกันช้าไปนิดเดียวเองครับ... คุณ ย้ำคิดย้ำฝัน : ... คุณ bicycle_trend : เห็นรูปที่ตาชัยแล้ว น่าไปมากๆเลยครับ พี่สิท ... คุณ กานพลู...คนชอบเที่ยว : นั่นสิครับ บางทีเราเป็นผู้รับมากเกินไปจนเคยตัว... คุณ aeroflex : เรื่องลดโลกร้อนผมว่าเรายังทำกันแบบไม่จริงจัง ผมเคยไปทานกาแฟที่ร้านแนวอนุรักษ์ธรรมชาติแต่แก้วยังเป็นแก้วพลาสติคอยู่เลยก็มีครับ... คุณ ตาฟาง : ถ้าไม่คาดหวังกับปะการัง ไปที่นี่ก็น่าจะยังประทับใจกับธรรมชาติอยู่นะครับ... จากคุณ : ผู้ก่อการร้ายทางความคิด เขียนเมื่อ : 17 ธ.ค. 53 10:04:55

ความคิดเห็นที่ 31 โอ้ววว เวลาแค่ไม่นาน จากที่พึ่งไปมาเมื่อต้นปีที่แล้ว ไม่น่าเชื่อว่าจะสาหัสและหนักหนาขนาดนี้ 99 เปอร์เซนต์เลยเหรอ ก่อนหน้านี้ก็ได้คุยกับพี่ที่รู้จักที่ มก สุรินทร์ พี่เค้าก็ห่วงเรื่องนี้มาก แต่ก็ไม่มีใครเข้ามาแก้ไขปัญหาอย่างจริง ๆ จัง ๆ ซักที ถ้ามันจะต้องทำอะไรซักอย่าง เพื่อรักษาบางอย่าง ก็ควรจะทำไม่ใช่เหรอ ถ้าปล่อยไว้นานต่อไป ก็คงจะเกินเยียวยาแน่นอน และคงไม่มีโลกใต้น้ำสวย ๆ ไม่มีปะการังให้เราได้เห็น และที่สำคัญ ระบบนิเวศใต้น้ำก็คงไม่สมบูรณ์.....อีกต่อไป "รบกวนช่วยโหวตกระทุ้นี้ด้วยนะจ๊ะ พี่น้องทุกท่าน" จากคุณ : เต่าตัวลาย เขียนเมื่อ : 17 ธ.ค. 53 10:11:40

ความคิดเห็นที่ 32 มาช่วยกันลดโลกร้อนกันเถอะครับ ก่อนที่จะสายเกินไป จากคุณ : Koon Shy_Tour Dee เขียนเมื่อ : 17 ธ.ค. 53 10:18:14

ความคิดเห็นที่ 33 เพิ่งไปมาปีที่แล้วและประทับใจมาก เห็นภาพแล้วเศร้าเลย อยากให้กลับมาสวยเหมือนเดิม จากคุณ : zanueng เขียนเมื่อ : 17 ธ.ค. 53 10:20:54

ความคิดเห็นที่ 34 สงสารปลา จะอยู่ที่ไหน หากินอย่างไร อีกหน่อยก็คงหายไปจากทะเลจนกว่าปะการังจะฟื้นตัว แต่นี่ก็เป็นวัฏจักรแห่งโลกนี่นา เกิด เติบโต เสื่อมโทรม สลาย จากคุณ : soul_tree เขียนเมื่อ : 17 ธ.ค. 53 10:30:45

ความคิดเห็นที่ 35 มันเป็นธรรมชาติครับ เมื่อการฟอกขาวเกิดจากภาวะน้ำทะเลที่มีอุณหภูมิสูงขึ้น ซึ่งเกิดจากภาวะโลกร้อน เพราะมนุษย์มีอารยธรรมที่เจริญขึ้น มีตึกสูงมากมาย มีรถยนต์ขับกันมากขึ้น ฯลฯ สิ่งที่เจริญเหล่านั้นแลกกับธรรมชาติที่เสื่อมถอยลง มันเป็นวัฎจักรครับ เหมือนคน มีเกิด แก่ เจ็บ ตาย โลกเราเองก็เช่นกัน ตอนนี้คงถึงขั้น แก่ ใกล้เจ็บ...เต็มที ทำได้เพียงบอกตัวเองและคนรอบข้างครับ - ถุงพลาสติกไม่ต้องขอก็ได้มั้ง -ไปไหนมาไหน ไปรถคันเดียวกันก็ได้มั้ง - ไปเที่ยวทะเลหรือแหล่งธรรมชาติ เก็บขยะกลับมาทิ้งข้างนอกก็ได้มั้ง ฯลฯ จากคุณ : freestyler เขียนเมื่อ : 17 ธ.ค. 53 10:53:38

ความคิดเห็นที่ 36  ไปเที่ยวด้วยคนค่ะ จากคุณ : ลำหับ ณ เมืองดอกบัว เขียนเมื่อ : 17 ธ.ค. 53 10:57:53

ความคิดเห็นที่ 37 เป็นเรื่องที่น่าเศร้า ที่หน่วยงานไม่ได้คิดจริงจังกับเรื่องอนุรักษ์และการเยียวยาฟื้นฟู ที่ จขกท เอามาเล่าสู่กันฟัง ก็ เรื่องนึง เป็นปรากฏการณ์ El Nino ผลสืบเนื่องจากสภาวะโลกร้อน ก็แย่พออยู่แล้ว ที่เราเคยประสบ เป็นอีกเรื่องนึง ความเสียหายที่เกิดจากน้ำมือมนุษย์ล้วนๆ หลีกเลี่ยงได้ สร้างความรู้ความเข้าใจได้ง่ายๆ แต่ไม่ทำ หรือทำ แต่ไม่รับฟัง ไม่ใส่ใจ ก็ไม่รู้เหมือนกัน ตอนดำน้ำ ภาพที่เราเห็นบ่อยสุด คือ นักท่องเที่ยว เหยียบบนปะการังเพียงเพื่อต้องการแค่ถ่ายรูป หักกิ่งก้านสาขา เอาเก็บเป็นที่ระลึก หรือ พิสูจน์เอกลักษณ์อันใดก็ไม่ทราบ แต่ความมักง่ายเช่นนี้แหละ ที่จะทำให้สูญเสียทรัพยากรธรรมชาติอย่างถาวร ยิ่งกว่าปรากฏการณ์ทางธรรมชาติใดๆซะอิก ที่ถ้าดูแลกันดีๆอย่างจริงจัง เวลาผ่านไปก็ฟื้นได้ ก็ขอเป็นอีกหนึ่งความเห็นแชร์ประสบการณ์จากที่สถานที่เดียวกันค่ะ รูปนี้เมื่อปี 50 (หลังสึนามิ ก่อน El Nino ขั้นวิกฤต) ที่เรายกย่องหมู่เกาะสุรินทร์ คือสวรรค์แห่งการดำน้ำตื้นอย่างแท้จริงค่ะ เห็นภาพจาก จขกท แล้ว เศร้าใจและเสียดาย ความสมบูรณ์ของโลกใต้ทะเลแห่งนี้ และอีกหลายๆที่จังค่ะ จากคุณ : LoveError เขียนเมื่อ : 17 ธ.ค. 53 11:00:52

ความคิดเห็นที่ 38 ไปใจหายกับปะการังที่เสียหายเพราะน้ำมือคน+ธรรมชาติด้วยครับ จากคุณ : เล็กทาโร่ เขียนเมื่อ : 17 ธ.ค. 53 11:02:36

ความคิดเห็นที่ 39 ไปดูภาพในนี้แล้วยิ่งเศร้า สิมิลันก็หายไป90%เลย http://www.savekohsurin.com/webboard/topic.php?topicid=3076 จากคุณ : Palm เขียนเมื่อ : 17 ธ.ค. 53 11:23:21 A:182.52.6.52 X: TicketID:006871

ความคิดเห็นที่ 40 ป้าว่ายน้ำไม่เป็น เลยไม่เคยได้ไปดำน้ำตื้นเพื่อดูปะการัง แรกๆที่อ่านและดูรูปของน้องผู้ก่อ แม้ยังไม่เข้าใจชัดเจนนัก แต่ก็รู้สึกวิตกไปด้วย แต่พอได้มาเห็นรูปของน้องเลิฟในคูหา 37 ป้าถึงกับจุกในลำคอ มันช่างน่าเศร้าใจจริงๆ ช่วยกันโหวตแบบที่น้องเต่าบอก ป้าอยากให้คนของทางการที่เกี่ยวข้องได้มาอ่านจัง จะได้ลงมือทำอะไรเสียที จากคุณ : เตี้ยอ้วนชวนไถล เขียนเมื่อ : 17 ธ.ค. 53 11:57:18

ความคิดเห็นที่ 41 เราจะไป มกราที่จะถึง นี้ น่าเสียดายเนอะ ที่ประการังฟอกขาวถึงขนาดนี้ แล้วคุณ จขกท. ได้ไปดู ปลาฉลามครีบดำ ที่หาดไม้งามไหมค่ะ ว่ายังมีอยู่หรือเปล่าค่ะ -*- จากคุณ : waying44 เขียนเมื่อ : 17 ธ.ค. 53 13:10:26

ความคิดเห็นที่ 42 สองวันก่อนไปเป็นชาวเกาะที่เกาะรอก อช.หมู่เกาะลันตา ฟอกขาวเหมือนกันเลยครับ ตอนแรกคิดว่าจะได้เจอสีสันละลานตา เจอแต่สีขาวโพลนไปหมดเลยครับ อย่างที่คุณผู้ก่อการร้ายฯบอก เหมือนไปดูอยุธยาเมืองเก่าโบราณสถานยังไงยังงั้นเลย ดอกไม้ทะเลก็หายไปเยอะเลยครับ เจอนีโมตั้ง 1 ตัวแน่ะ อาทิตย์ก่อน ไปหลีเป๊ะ ก็ประมาณเดียวกันครับ แต่ยังพอมีสีสันให้ดูบ้าง ไม่ถึงกับฟอกขาวไปทั้งหมด ผมว่าทางแก้ไขปัญหาเรื่องนี้ คงไม่ใช่แค่ปิดเกาะปิดจุดดำน้ำอ่ะครับ เพราะปัจจัยที่มีผลโดยตรงคือสภาพโลกร้อน การปิดจุดดำน้ำแต่เพียงอย่างเดียวอาจจะไม่ช่วยอะไรมากเท่าไหร่ ไม่งั้นก็ต้องภาวนาให้เจ้าปะการังมีการปรับตัวเองตามธรรมชาติ สู้โลกร้อนได้เอง จากคุณ : David_kop เขียนเมื่อ : 17 ธ.ค. 53 13:27:10

ความคิดเห็นที่ 43 เสียดายจัง ยังไม่เคยได้ไปเลย++ที่ที่ไปแล้วก้อยากกลับไป จากคุณ : ZhuZhuJoopJoop เขียนเมื่อ : 17 ธ.ค. 53 13:49:31

ความคิดเห็นที่ 44 เสียดายและน่าเศร้าใจจังจ้ะ.... จากคุณ : หมูอ้วนจอมพลัง เขียนเมื่อ : 17 ธ.ค. 53 15:13:39

ความคิดเห็นที่ 45 ยังไม่เคยไปเลยนะ คงจะัไม่ได้เห็ฯอีกนาน จากคุณ : คนมีแฟนขับ (chun_cx) เขียนเมื่อ : 17 ธ.ค. 53 16:44:04

ความคิดเห็นที่ 46 ไปพีพีมาเมื่อพฤษภา ก็ขาวเป็นเทือกแบบนี้เหมือนกันค่ะ จากคุณ : devillish girl เขียนเมื่อ : 17 ธ.ค. 53 17:30:03

ความคิดเห็นที่ 47 น่าเสียดายจัง จากคุณ : คืนไร้ดาวพราวแสงจันทร์ เขียนเมื่อ : 17 ธ.ค. 53 19:37:14

ความคิดเห็นที่ 48 น่าเสียดายมากๆเลยครับ จากคุณ : tataweb เขียนเมื่อ : 17 ธ.ค. 53 23:13:47

ความคิดเห็นที่ 49 น่าเศร้าใจ..   จากคุณ : เจ้าชายแวมไพร์ เขียนเมื่อ : 17 ธ.ค. 53 23:22:55

ความคิดเห็นที่ 50 นี่คงพอจะบอกอะไรได้บ้าง ในเชิงคุณภาพ จากคุณ : zoopod (zoopod) เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 53 12:53:16

ความคิดเห็นที่ 51 นี่คงพอจะบอกอะไรได้บ้าง ในเชิงคุณภาพ ที่มา http://mukosurinnp.ไม่อนุญาตให้โฆษณา/journal/item/10/10 จากคุณ : zoopod เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 53 12:54:32

ความคิดเห็นที่ 52 จริง ๆ มันเริ่มมาตั้งแต่ต้นปีแล้ว แต่ผลกระทบมาเห็นชัดในเวลานี้ ทั่วทะเลไทย และแถบอินโด แปซิฟิก ผล"เอลนิโญ่"ทำให้เกิด "ปะกา รังฟอกขาว" กินพื้นที่อันดามัน 80 ตร.กม.-อ่าวไทย 30% วันที่ 09 พฤษภาคม พ.ศ. 2553 เวลา 21:20:28 น.แบ่งปันข่าวนี้บน facebook Share ปรากฏการณ์เอลนิโญ่ทำอุณหภูมิอ่าวไทย-อันดามันสูงขึ้น 2-3เซลเซียส เกิดปะการังฟอกขาว อันดามันกินพื้นที่ถึง 80 ตร.กม. ยังไม่รู้อนาคตว่าจะเพิ่มขึ้นหรือไม่ นายนิพนธ์ พงษ์สุวรรณ นักวิชาการประมงชำนาญการพิเศษ สถาบันวิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเลและทะเลชายฝั่งและป่าชายเลน เปิดเผยเมื่อวันที่ 9 พฤษภาคมว่า ขณะนี้เกิดปรากฏการณ์ปะการังฟอกขาวครอบคลุมบริเวณทะเลอันดามันเกือบทั้งหมด จากการสำรวจพบว่ามีปะการังฟอกขาวเกิดขึ้นตั้งแต่หมู่เกาะสุรินทร์ หมู่เกาะสิมิลันและบริเวณตามชายฝั่งของหมู่เกาะตราชัย จ.พังงา และบริเวณเกาะใกล้ชายฝั่ง อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา มีเกาะผ้า แหลมกลางใหญ่ แหลมกลางน้อย และคาดว่าใน จ.ภูเก็ต ก็เกิดปรากฏการณ์ปะการังฟอกขาวรอบเกาะเช่นกัน ขณะนี้ กำลังตรวจสอบกับเครือข่ายนักดำน้ำ จ.ตรังและสตูล ว่า เกิดปรากฏการณ์ดังกล่าวขึ้นหรือไม่ ในทะเลตรังและสตูล เบื้องต้นคาดว่าน่าจะเกิดปรากฏการณ์ปะการังฟอกขาวเหมือนกัน อย่างไรก็ตาม ปรากฏการณ์นี้ไม่ได้เกิดขึ้นที่ประเทศไทยอย่างเดียว แต่ยังพบในประเทศในมหาสมุทรอินเดียและหมู่เกาะมาดากัตกาด้วย   นายนิพนธ์กล่าวว่า สาเหตุการเกิดปะการังฟอกขาว เกิดจากอุณหภูมิน้ำทะเลสูงขึ้น ขณะที่สาหร่ายสังเคราะห์ซึ่งเป็นสาหร่ายที่อาศัยอยู่กับประการัง ที่จะช่วยทำให้สีสันของปะการังงดงาม แต่เมื่ออุณหภูมิน้ำทะเลสูงขึ้น สาหร่ายชนิดนี้ไม่สามารถสังเคราะห์แสงได้และตายไปในที่สุด ทำให้ปะการังมีสีซีดและเกิดการฟอกขาวในที่สุด นอกจากนี้ ปริมาณแสงที่ส่องไปในเนื้อปะการัง จะทำให้เกิดออกซิเจนที่เป็นพิษ ซึ่งจะไปทำลายเนื้อเยื่อปะการัง ทำให้ปะการังตาย สำหรับในบริเวณทะเลอันดามัน จะมีพื้นที่ปะการังประมาณ 80 ตารางกิโลเมตร ส่วนใหญ่อยู่ในภาวะฟอกขาวเกือบหมด นอกจากนี้ ยังได้รับรายงานจากศูนย์วิจัยทางทะเลที่ จ.ระยอง ว่าเกิดปรากฎการณ์ปะการังฟอกขาวในอ่าวไทยเช่นกัน "ปีนี้เป็นอีกปีหนึ่งที่ปะการังทรุดโทรมมาก เมื่อเทียบกับปี 2535 ที่ถือว่ามีปรากฏการณ์ปะการังฟอกขาวครั้งใหญ่ในไทย ที่เกิดขึ้นเวลานี้ความเสียหายใกล้เคียงกันมาก ปะการังตายเยอะมาก สำหรับการฟื้นฟูคาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 3- 4 ปี โดยเฉพาะปะการังน้ำตื้นไม่เกิน 10 เมตร ใช้เวลา 3-4 ปี แต่ลึก 10-15 เมตร การฟื้นตัวเกิดขึ้นช้ามาก เช่น หมู่เกาะสุรินทร์ที่ความลึก 10-15 เมตร ปัจจุบันยังฟื้นตัวช้ามาก" นายนิพนธ์กล่าว ด้านนายสมเกียรติ ขอเกียรติวงศ์ หัวหน้ากลุ่มสมุทรศาสตร์และสิ่งแวดล้อมทางทะเลและชายฝั่ง กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) กล่าวว่า ตรวจจับอุณหภูมิน้ำทะเลในทะเลอันดามันพบว่าสูง 31  องศาเซลเซียส เป็นเวลาเกือบ 2 สัปดาห์ เป็นสาเหตุทำให้เกิดปะการังฟอกขาว สาเหตุที่น้ำอุณหภูมิสูงมากจากภาวะเอลนิโญ หรือมวลของน้ำที่มีอุณหภูมิสูงเกิดการไหลเวียนช้าลงผิดปกติ ทำให้อุณหภูมิสูงเวลานาน ทำให้เกิดปรากฏการณ์ฟอกขาว ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับสถานการณ์ปะการังฟอกขาวในพื้นที่อ่าวไทยด้านตะวันออกคือ บริเวณ ระยอง และ จ.ตราดนั้น ทาง ทช.ได้ลงสำรวจพื้นที่แล้วเช่นเดียวกันพบว่าเริ่มปรากฏการฟอกขาวของปะการังแล้วประมาณ 20-30% ของพื้นที่ ส่วนบริเวณอ่าวไทยฝั่งตะวันตกที่เกาะทะลุ จ.ประจวบคีรีขันธ์ เริ่มปรากฏการณ์ปะการังฟอกขาวแล้วประมาณ 10% ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ของ ทช.ได้วัดอุณหภูมิของน้ำทะเลในพื้นที่อ่าวไทยจุดต่างๆ พบว่ามีอุณหภูมิเฉลี่ย 33 องศาเซลเซียส สูงขึ้นมาจากปกติถึง 3 องศาเซลเซียส "ค่อนข้างจะหนักใจกับภาพรวมของการเกิดปรากฏการณ์ปะการังฟอกขาวครั้งนี้พอสมควร เพราะมันเกิดในบริเวณกว้าง ทั้งอ่าวไทย และอันดามัน ที่สำคัญคือ ไม่สามารถเข้าไปจัดการแก้ปัญหาอะไรได้เลย นอกจากรอเวลาให้มันฟื้นตัวเอง เวลานี้ยังไม่รู้ว่าที่เกิดนั้นอยู่ในช่วงเวลาไหน ระหว่างช่วงต้น กลาง หรือตอนปลายของสถานการณ์ หากเกิดช่วงต้น แสดงว่าในอนาคตมันอาจจะเกิดรุนแรงมากกว่านี้แน่นอน หากที่เกิดเวลานี้ถึงขั้นพีคสุดแล้วถือว่าดี เพราะเมื่อพีคสุด มันก็จะหยุด และเริ่มฟื้นตัว ซึ่งการฟื้นตัวต้องใช้เวลามากเช่นเดียวกัน สิ่งที่พอจะทำได้ก็คือ บริเวณไหนที่สำรวจพบว่ามีการฟอกขาวที่รุนแรงมาก ต้องปล่อยเอาไว้นิ่งๆ ที่สุด อย่าไปรบกวนเลย เหมือนผู้ป่วยหนักต้องให้พักผ่อนให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้" นักวิชาการด้านทะเลผู้เข้าไปสำรวจปรากฏการณ์ปะการังฟอกขาวของ ทช.กล่าว เมื่อถามว่า ปะการังที่เกิดการฟอกขาวทั้งหมดจะสามารถฟื้นกลับคืนมาเหมือนเดิมได้หรือไม่ นักวิชาการ ทช.กล่าวว่า แล้วแต่ความรุนแรงหากบริเวณที่มีการฟอกขาวมากอาจจะทำให้ปะการังบริเวณนั้นตายไปเลยก็ได้ แต่ในส่วนที่ไม่รุนแรงอาจจะฟื้นตัวขึ้นมาเองได้ แต่ต้องใช้เวลานานพอสมควร จากคุณ : zoopod เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 53 13:31:50

ความคิดเห็นที่ 53 สิ่งที่พอจะทำได้ก็คือ บริเวณไหนที่สำรวจพบว่ามีการฟอกขาวที่รุนแรงมาก ต้องปล่อยเอาไว้นิ่งๆ ที่สุด อย่าไปรบกวนเลย เหมือนผู้ป่วยหนักต้องให้พักผ่อนให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้" นักวิชาการด้านทะเลผู้เข้าไปสำรวจปรากฏการณ์ปะการังฟอกขาวของ ทช.กล่าว จากคุณ : zoopod เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 53 13:34:58

ความคิดเห็นที่ 54 เรื่องปะการังฟอกขาว คือตัวอย่างที่เห็นได้ใกล้ตัวกับคำว่า ภาวะโลกร้อน ที่เราได้ยินกันมาเนิ่นนานครับ น่าจะเป็นปรากฏการณ์ที่ปะการังตายครั้งใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยเกิดขึ้นในบ้านเรา เกาะสุรินทร์ เกาะสิมมิลัน เกาะพีพี หรือเกาะไหนๆ ทางอันดามันโดนทั้งนั้นครับ ไม่เว้นถึงสิปาดัน ที่มาเลเซีย (ที่ได้ข่าวว่าปิดเกาะไปแล้ว) แต่ที่ไหนจะกี่เปอร์เซ็นต์ อันนี้ตอบยาก ต้องหาข้อมูลอ้างอิงแนววิชาการอีกที แต่บอกได้เลยว่าไม่น้อยครับ สิมิลันเหมือนจะโดนน้อย แต่จริงๆแล้วไม่น้อยครับ เพราะไม่ค่อยเห็นผลชัดเท่าไหร่นัก เนื่องจากแนวปะการังน้ำตื้นมีน้อยกว่าที่เกาะสุรินทร์ ปิดเกาะเลยดีมั้ย...ดีแน่ครับ แต่ต้องคำนึงถึงหลายเรื่อง เช่น ชาวบ้านที่มีรายได้จากการท่องเที่ยว ผู้ประกอบการ ฯลฯ มีผลกระทบมากแน่นอน มาเที่ยวอุทยานแห่งชาติทางทะเล โดยเฉพาะเกาะทางอันดามัน จริงอยู่ว่าจุดขายหลักคือ ความสมบูรณ์ของแนวปะการัง แต่ไม่ได้หมายความว่ามีดีแค่นั้น เรายังมีหาดทรายที่สวยงาม เหมาะกับการพักผ่อนที่เงียบสงบ นกนานาชนิดที่นักดูนกได้มาเห็นคงตื่นเต้น ต้นไม้หรือกล้วยไม้แปลกๆ ที่หาชมได้ยากบนฝั่ง เปิดเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติเพิ่มขึ้น จัดลานกิจกรรม ศึกษาวัฒนธรรมของชาวเล มอแกนที่น่าสนใจ หรือ จะจัดให้เป็นแหล่งหาความรู้จากของจริงในวิชาที่กระตุ้นเตือนเรื่องการรักษาสภาพแวดล้อมของนักเรียนนักศึกษา แค่ความเป็นธรรมชาติอันบริสุทธิ์กลางทะเลอันดามัน ผมว่ามันก็คุ้มค่าที่จะมาเยี่ยมชมแล้ว มีอีกหลายแนวทางในการบริหารจัดการให้พื้นที่ที่มีผลกระทบจากเหตุการณ์นี้ยังคงเป็นแหล่งท่องเที่ยว แหล่งศึกษาหาความรู้ ได้โดยที่ไม่รบกวนธรรมชาติ รอวันให้เค้าฟื้นตัวในอีกซัก 3-5 ปี โดยต้องอาศัยความร่วมมืออย่างจริงใจจากทุกส่วนที่เกี่ยวข้อง อย่าพยายามปกปิดความจริง หรือทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ เพราะสุดท้ายแล้วสิ่งที่ จขกท. พูดมา จะทำลายความรู้สึกของคนไทยเราด้วยกันเอง จากคุณ : เบทากรีซ เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 53 22:52:21

ความคิดเห็นที่ 55 เศร้ามาก เศร้ามากและก็เศร้าที่สุด แต่เราต้องช่วยกันแก้ไขครับ ธรรมชาติฟื้นตัวได้เองครับ แต่ถ้าเราช่วยเค้ามันก็จะเร็วขึ้น ผมกำลังรวบรวมข้อมมูลเพื่อนำเสนอทางสื่อหลัก(TV วิทยุ) ถ้าใครมีข้อมูลอยากรวบแบ่งปันก็ติดต่อมานะครับ อันนี้อีกภาพแห่งความเจ็บปวดที่สิมิลัน แก้ไขเมื่อ 19 ธ.ค. 53 11:09:18 จากคุณ : Thoto_Dive เขียนเมื่อ : 19 ธ.ค. 53 11:08:38

ความคิดเห็นที่ 56 ภาพไม่ขึ้นครับ จากคุณ : Thoto_Dive เขียนเมื่อ : 19 ธ.ค. 53 11:10:03

ความคิดเห็นที่ 57 เสียดายแหล่งดำน้ำตื้นสวยๆอย่างนี้จังเลยครับ เพิ่งไปปีก่อน ยัง ok อยู่เลย ปีนี้แพลนจะไปช่วงปลาย มกราคม คงไม่ไปแล้วครับ ฝั่งอ่าวไทยโดนฟอกขาวด้วยหรือป่าวครับ จากคุณ : Jayd_m เขียนเมื่อ : 19 ธ.ค. 53 15:30:23

ความคิดเห็นที่ 58 เสียดาย จากคุณ : สาวหน้าใส เขียนเมื่อ : 19 ธ.ค. 53 15:56:10

ความคิดเห็นที่ 59 โห น่าเสียดายจัง ยังไม่เคยไปหมู่เกาะสุรินทร์เลย แพลนว่าจะไปเที่ยวปีหน้า แบบนี้จะมีโอกาสกลับมาเหมือนเดิมไหมเอ่ย เศร้าใจ เพิ่งจะมีตังค์เที่ยวก็ตอนทำงาน เฮ้ออ อิจฉาคนทีได้เคยไปเห็นความงามของหมู่เกาะสุรินทร์จังเลย จากคุณ : gorigo เขียนเมื่อ : 19 ธ.ค. 53 16:54:28

ความคิดเห็นที่ 60 เสียใจมากกกกกกกกกกกกกกกกก อยากไปอีก อีกกี่ปีจะกลับมาเป็นเหมือนเดิมเนี่ย จากคุณ : hattoro เขียนเมื่อ : 20 ธ.ค. 53 15:08:57

ความคิดเห็นที่ 61 โอ้ววว น่าเสียดายมากเลยนะครับ จากคุณ : P.S. i love you เขียนเมื่อ : 20 ธ.ค. 53 22:44:41

ความคิดเห็นที่ 62 เศร้าจังค่ะ ... เห็นแล้วหดหู่มากๆเลย plan ว่าจะไปเมื่อสามปีที่แล้ว แต่ก็ผลัดมาเรื่อย ไม่คิดว่าจะเป็นแบบนี้ อยากให้กลับมาสวยงามอีกเหมือนเดิมจัง เราคนนึง จะทำทุกทางที่ทำได้เพื่อช่วยลดภาวะโลกร้อนให้ได้มากที่สุด ลดการใช้ถุงพลาสติก ลดการใช้พลังงาน อยากให้คนไทยช่วยๆกันค่ะ อยากเห็นโลกใต้ทะเลกลับมาสวยเหมือนเดิม จากคุณ : reamy เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 53 00:11:48

ความคิดเห็นที่ 63 เคยไปมาเมื่อปี 49 เป็นประสบการณ์ที่ดีที่สุดทริปหนึ่งเลยครับ เห็นภาพจากเจ้าของกระทู้แล้วมันจุกจริงๆ จากคุณ : TheJib เขียนเมื่อ : วันสิ้นปี 53 16:12:27

ความคิดเห็นที่ 64 น่าสงสานท้องทะเล อนาคตจะมีอยู่ไหมหนอ จากคุณ : cecellmaxbee เขียนเมื่อ : 5 ม.ค. 54 15:16:34

ความคิดเห็นที่ 65 ตายละ นี่เรากำลังจะไปตอนกลางเมษานี้นะ T T ควรไปมั้ยเนี่ย จากคุณ : :D :D เขียนเมื่อ : 7 ม.ค. 54 00:26:30 A:124.120.188.34 X: TicketID:282462

ความคิดเห็นที่ 66 เพิ่งไปมาช่วงวันพ่อ53ค่ะ สภาพเป็นอย่างที่เห็นจริงๆค่ะ เห็นแล้วจุกเหมือนกัน ลงน้ำไป3 นาทีรีบขึ้นเลย ผิดหวังมาก เนียเหรอสวยติดอันดับเมืองไทย แล้วพวกฝรั่งที่ข้ามน้ำข้ามทะเลมาจะรู้สึกยังไง เห็นด้วยค่ะ ปิดอุทยานนี้ เพื่อให้ปะการังฟื้นตัวเถอะค่ะ จากคุณ : NR-fam เขียนเมื่อ : 7 ม.ค. 54 20:37:18

ความคิดเห็นที่ 67 สรุปมันคือเรื่องจริงใช่ไหม เราเห็นรูปจากที่เพื่อนไปช่วงปีใหม่ นึกว่าไม่ใช่หมู่เกาะสุรินทร์ T T จากคุณ : Keep Discovering เขียนเมื่อ : 7 ม.ค. 54 21:49:12

ความคิดเห็นที่ 68 ยังดีใจที่มีเต่าอยู่ แต่... จากคุณ : Keep Discovering เขียนเมื่อ : 7 ม.ค. 54 21:49:58

ความคิดเห็นที่ 69 อยากร้องไห้ ... จากคุณ : Keep Discovering เขียนเมื่อ : 7 ม.ค. 54 22:01:22

ความคิดเห็นที่ 70 ร้องไห้อยู่ตอนนี้ล่ะค่ะ ...ไปเที่ยวที่อ.เกาะสุรินทร์ เมื่อสงกรานต์ปีที่แล้ว ปะการังยังสวยงดงามมากๆ ที่อ่าวอะไรจำชื่อไม่ได้...ยังมีปะการังเป็นแถบกว้าง..งดงาม.. สวยสุดใจค่ะ..เจอทั้งเต่าทะเล และ"นีโม่" เยอะแยะมากมาย .. ยังไม่ถึงปีเหลือเท่านี้เองหรือคะ?... สงสารทั้งน้องปลา และน้องเต่าและสัตว์อื่นๆ โดยเฉพาะปะการัง..ที่รัก.. ไม่มีหน่วยงานไหน มาช่วยเลยเหรอคะ? จากคุณ : antz_ja เขียนเมื่อ : 7 ม.ค. 54 22:47:11

ความคิดเห็นที่ 71 ภาพแห่งความทรงจำที่สวยงาม จากคุณ : antz_ja เขียนเมื่อ : 7 ม.ค. 54 22:49:23

ความคิดเห็นที่ 72 น้องนีโม ดำลงไปตรงอ่าวไหนก็เจอ จากคุณ : antz_ja เขียนเมื่อ : 7 ม.ค. 54 22:50:17

ความคิดเห็นที่ 73 ตกใจมากๆ ไม่คิดว่าจะฟอกขาวไปเยอะขนาดนี้เลยค่ะ ไปมาล่าสุดตอนเมษาปีที่แล้วเห็นมีฟอกขาวบ้างแต่ไม่รุนแรงขนาดนี้ อยากให้ปิดเกาะจังค่ะ แต่เห็นใจผู้ประกอบการเหมือนกัน เฮ่อ.. จากคุณ : กระต่ายซากุระ เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 54 03:09:20

ความคิดเห็นที่ 74 อ่าน+เห็นภาพแล้วน้ำตาแทบไหล สิ่งที่ฝันไว้ว่าซักวันนึงจะได้ไป ทั้งหมดมันได้พังทลายไปแล้วครับ T_T จากคุณ : ARM เขียนเมื่อ : 10 ม.ค. 54 11:00:16 A:202.149.29.81 X: TicketID:204076

ความคิดเห็นที่ 75 หมู่เกาะสุรินทร์ ธค.2553  จากคุณ ThotoDive http://www.youtube.com/watch?v=dEFFMZfgaYE&feature=player_embedded#! จากคุณ : Keep Discovering เขียนเมื่อ : 10 ม.ค. 54 22:07:59

ความคิดเห็นที่ 76 ต้องช่วยๆกันนะคะ ต้องกลับมาได้น่า จากคุณ : Yayo (iampingza) เขียนเมื่อ : 15 ม.ค. 54 22:45:55

ความคิดเห็นที่ 77 บอกความรู้สึกไม่ถูกเลย........ ว่าจะไปมีนา... ก้อเลยตัดสินใจ งด ดีกว่า ... ให้เกาะที่รักของเรา ได้พักผ่อน และฟื้นตัวกันก่อน...... จะดีไหมค่ะ เพื่อนๆ...... So far so good จากคุณ : ฉันคิดไปเป็นชาวเกาะ เขียนเมื่อ : 18 ม.ค. 54 13:23:19

ความคิดเห็นที่ 78 เห็นแล้วอยากร้องไห้จริงๆค่ะ... เศร้าใจจริงๆ... จากคุณ : MheeLuv (MheeLuv) เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 54 21:48:42

ความคิดเห็นที่ 79 เคยไปครั้งแรกเมื่อมีนา53  ได้กลับอีกครั้งเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว  สิ่งที่เห็นมันต่างกันอย่างสิ้นเชิง ไม่เกินไปเลยจริงๆ กับที่ จขกท. บอกว่า  เพียงแค่เราเอาหน้าจุ่มลงไปในทะเลก็เหมือนได้เจอโลกอีกโลกหนึ่งแล้ว โลกใต้น้ำสวย  จนทำให้คนที่ว่ายน้ำไม่เป็น  แล้วกลัวน้ำลึกที่สุด  ลืมความกลัวไปได้ แต่ตอนนี้ความสวยงามนั้น  ไม่มีอีกแล้ว  น่าเสียดาย  และเศร้าใจจริงๆ ค่ะ แต่ความงามของหมู่เกาะสุรินทร์  แค่ได้ไปเดิน  ไปนั่งชมวิว  เห็นทะเล  แค่นี้เราก็พอใจแล้ว  จริงๆ นะ จากคุณ : nupaew เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 54 09:34:34

ความคิดเห็นที่ 80 ได้ไปเที่ยวช่วงหลัง ผิดหวังกับการดำน้ำตื้นมาทุกครั้ง เสม็ด เกาะช้าง กระบี่ เกาะนางยวน หมู่เกาะชุมพรพอรับได้   ปีหน้าหลีเปะ ที่มั่นสุดท้ายของดำน้ำตื้น หวังว่าคงไม่ผิดหวัง จากคุณ : คนบางแคแค่บ้างคน เขียนเมื่อ : 5 ส.ค. 55 15:12:23