 |
คิดว่าจะหนีได้ซะแล้ว ไวมากแต่ละคน คุณ : คนไทยหัวใจญี่ปุ่น --> ขอบคุณที่ตามชมกันจนจบนะคะ คุณ : ป้าฟู --> ยินดีค่ะ คุณ : Coffee Blended --> ยินดีต้อนรับขึ้นรถขบวนสุดท้ายค่ะ คุณ : MaNgKoOd --> จบแล้วคุณมังคุด ตอนสุดท้ายแล้ว ต้องไปทำอย่างอื่นต่ออีก เลยต้องรีบๆ ให้จบ ------------------------------------------------------------------------
กว่าจะได้ของเป็นที่เรียบร้อยกันหมดทั้งกลุ่ม ก็ปาเข้าไปบ่ายแล้ว พวกเราก็ออกเดินทางกลับไปที่สถานีรถไฟ JR ชินจูกุ เพื่อเดินทางกันต่อ โดยเราจะไปลงกันที่ JR อาซากุซะ เพื่อไปหาสถานี Tobu อาซากุซะ
แต่เหมือนโชคชะตากลั่นแกล้ง หรือว่าล้าก็ไม่รู้เหมือนกัน ทำให้เราหาทางไปสถานีรถไฟใต้ดินที่จะต่อไปยังสาย Tobuไม่เจอ ถามทางแล้วก็ยังหาไม่เจอ พวกเราเลยสวมวิญญาณสาวอึด บึกบึน เดินตั้งแต่สถานี JR อาซากุซะ จนถึงสถานี Tobu อาซากุซะ พร้อมกับสัมภาระพวกเรา (ทำเอาสมาชิกในกลุ่มถึงกับหน้าซีดกันเลยทีเดียว) โดยอาศัยรูปตึกเบียร์อาซาฮี ที่ปริ้นท์มาไว้เป็นอุปกรณ์ถามทาง
แต่ไม่เป็นไรการท่องเที่ยวคือการผจญภัย หลงบ้าง เหนื่อยบ้าง ถือเป็นกำไรชีวิต 5555 และแล้วพวกเราก็เดินทางมาถึงสะพานที่มีตึกก้อนทองจนได้ แล้วก็รีบเร่งไปยังเคาน์เตอร์อินฟอร์เมชั่นของ Tobu จัดการซื้อ Nikko Tobu Pass คนละ 4,400 เยน รวมค่ารถไฟไป-กลับ และนั่งรถไม่จำกัดตอนถึง Nikko แล้ว
พวกเราไปทันรถไฟเที่ยวสุดท้ายที่จะเข้า Nikko (โชคดีมากมาย ไม่งั้นต้องปรับแผนยกใหญ่แน่นอน) นั่งๆ นอนๆ กันไปเรื่อยๆ อากาศเริ่มเย็นมากมาย เราก็มาถึงสถานี Tobu Nikko จนได้ ซึ่งที่พักในคืนนี้ของเราก็คือที่ยอดนิยมในห้องบลู (รึเปล่า) ถูกและดี มีที่นี่ค่ะ นั่นก็คือ Rindou-no-ie Minshuku เรานอนคนเดียวตลอด ห้องสำหรับ 1 คนค่ะ คุ้มค่ามากมาย ราคาคืนละ 3,000 เยน (ราคาและขนาดห้องหาไม่ได้ในโตเกียวแน่นอน)
จากคุณ |
:
aeewil
|
เขียนเมื่อ |
:
14 ธ.ค. 53 21:39:26
|
|
|
|
 |